Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คุณแม่แค่รู้
•
ติดตาม
26 มิ.ย. 2021 เวลา 11:59 • การศึกษา
วิธีสอนลูกให้เป็นตำรา ดีกว่าสอนลูกให้อ่านตำรา
1
ภาพจาก Pixabay
ก่อนที่เราจะพูดถึงวิธีการ อย่างไร เราลองมาทำความเข้าใจกับความหมายของคำว่า " การเรียนรู้ " กันก่อนนะคะ
ในโลกยุคปัจจุบันนี้ การเรียนรู้ช่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมากๆ นับหลังจากที่โลกของเราได้มีโรคระบาด covid 19 ทำให้การเรียนรู้แบบใหม่ๆ ยิ่งกระโดดไปไกล จนทำให้บางคนตามเกือบจะไม่ทัน
จากเมื่อในอดีตนั้น การศึกษายังมีเป้าหมาย เพื่อสร้างคนเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรม ซึ่งเน้นให้คนทำงาน
เหมือนๆกัน หรือทำตามสูตร
2
แต่การทำงานในสมัยใหม่ไม่ใช่แบบนั้นแล้ว คนทำงานต้องเป็นคนที่คิดใหม่ ทำใหม่ เพราะฉะนั้น ระบบการศึกษาต้องเปลี่ยนแปลงให้ทันตามยุคนี้ด้วย
แล้ววันนี้ วิธีสอนลูก หรือ การเรียนรู้ของเด็กในยุค 2021 นั้น คนเป็นแม่และครูทั้งหลาย ควรต้องมีการ Transform อย่างไร เพื่อให้เข้าสู่การเรียนรู้สมัยใหม่ และการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง มีวิธีการอย่างไร วันนี้แม่เป้จะมาเล่าให้ฟังค่ะ
การเรียนรู้แบบเก่า ซึ่งระบบการศึกษาไทยยังใช้เป็นมาตรฐานอยู่ คือ เรียนตามความรู้ที่มีคนกำหนดว่า อะไรต้องเป็นแบบไหน ถ้าคุณตอบไม่ตรงก็ถือว่าผิด ไม่ได้คะแนน
2
แต่การเรียนรู้ที่จะทำให้เกิดการเรียนรู้ที่แท้จริง ต้องไม่ใช่การเรียนจากการไปจำใครเขาบอก เราต้องเรียนจากการค้นพบของตัวเอง โดยการปฏิบัติ แล้วคิด โดยจะมีกระบวนการดังนี้
1
1. ( Action ) การลงมือทำ
2
2. ( Reflection ) ค้นพบด้วยตัวเอง และเพื่อน แล้วคิด
2
3. ( Active Learning ) คือ การเรียนจากการคิด คิดเพื่อตั้งคำถามท้าทาย ไม่เชื่อ ตรวจสอบ และที่สำคัญคือ ต้องไม่เรียนคนเดียว ต้องเรียนเป็นทีมกับเพื่อน และต้องฟังเพื่อน
2
เพราะขั้นตอนการ Reflection ต้องคิดดังๆ เพื่อแลกเปลี่ยนกับคนอื่น เมื่อเราแชร์ความคิดแล้ว ครู ต้องถามว่า มีใครคิดต่างจากนี้หรือไม่ จึงจะมีความคิดหลายๆแบบเทลงไปตรงส่วนกลาง
1
เด็กก็จะได้เห็นว่า สิ่งที่เขาคิดนั้นเป็นหนึ่งในหลาย ๆ ความคิดเท่านั้นเอง เท่ากับว่า เขาก็จะฟังคนอื่นเป็น
2
ดังนั้น Reflection และ Active Learning แลกเปลี่ยนกับผู้อื่น หรือที่เพื่อนๆอาจจะเคยได้ยินมาคือ ( Collaborative Skill ) รวมถึงทักษะในการสร้างสรรค์ ( Creativity) เพราะว่าต้องตั้งคำถามอยู่เสมอ หาวิธีใหม่ คิดนอกกรอบ
2
เป็นการฝึกพัฒนาความสร้างสรรค์ เมื่อต้องฟังหลายๆ คำตอบ หลายๆ ความคิด
ก็เกิดการคิดอย่างมีวิจารณญาณ คือ ไม่เชื่อง่าย
1
2
จะเห็นได้ว่า สมรรถนะสำคัญๆ สำหรับคนยุคใหม่ได้จากการเรียนรู้แบบธรรมชาติ คือ การปฏิบัติและคิด เกิดเป็นทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต เปลี่ยนจากวิธีการเรียนรู้จาก Passive เป็น Active
1
Passive Learning คือ
- แลคเชอร์ 50%
- อ่านตำรา 10%
- ฟังซีดี วิดีโอ สไลด์ 20%
- การสาธิต 30%
- อภิปรายผล 50 %
2
Active Learning คือ
- ลงมือปฏิบัติ 75%
- ไปบอก ไปสอน แชร์ 90 %
3
แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่า ครู พ่อแม่ จะชวนเด็กสร้างบรรยากาศการเรียนรู้อย่างไร หาโจทย์อะไรมาให้ทำ กระตุ้นความใคร่รู้ความสนุกของเด็กอย่างไร
ซึ่งการช่วยตั้งคำถามกระตุ้นเพื่อโยงเข้าสู่ชีวิตจริง เด็กจะเชื่อมโยงได้ว่า สิ่งที่เขาเรียนอยู่นั้น มีความหมายอย่างไรกับชีวิตของเขาในอนาคต
1
วันนี้แม่เป้ขอเล่าถึง เด็ก ม.6 ที่โรงเรียนของลูกชาย ซึ่ง ณ ที่แห่งนี้ตอนที่เขาจะจบ ม.6 นั้น เด็กทุกคน ต้องทำโปรเจค 1 อย่าง ให้คิดอะไรก็ได้ ที่ต้องเป็นสิ่งที่เขาสนใจ ค้นหา คิดวิธีการ และต้องทำให้สำเร็จ พร้อมกับนำเสนองานผ่าน การพรีเซ้นต์ พร้อมกับโชว์ ชิ้นงาน และกระบวนการทั้งหมด ในเทอมสุดท้ายก่อนปิดภาคเรียน ซึ่งระยะเวลาของการทำงานคือ 4 เดือน
1
พ่อแม่ทุกคน ต่างก็เฝ้ารอ รอคอยดูผลงานของนักเรียน ม.6 ทุกรุ่น ว่าจะทำโปรเจคอะไร และวันนั้นเองแม่เป้ได้มีโอกาสได้ฟัง ผลงานพรีเซนต์ ของเด็ก คนนึง เค้าทำโปรเจค คือ กีต้าร์ไฟฟ้า
ณ วันพรีเซ้นต์งาน เด็กคนนี้ก็ทำภาพสไลด์ นำเสนอผลงาน วิธีการทำงาน เริ่มต้นตั้งแต่ ทำไมเลือก....กีตาร์ไฟฟ้า แล้วเริ่มต้นลงมือทำขั้นตอนอะไรบ้าง อุปกรณ์ที่ต้องใช้ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง งบประมาณเท่าไหร่ คนที่สนับสนุนเป็นใคร ใครที่อยากขอบคุณ และอะไรบ้างที่เป็นอุปสรรค ทำให้เขาเกิดการเรียนรู้ และคิดว่าตัวแปรอะไรที่ทำให้งานสำเร็จ
2
2
เขาเล่าว่า ก่อนอื่นเขาจะต้องหาข้อมูลว่า ต้องทำอย่างไร ต้องใช้ไม้อะไร และสิ่งที่สำคัญ ใครจะเป็นครู ผู้สอนให้กับเขา และการสอนครั้งนี้ ต้องใช้งบน้อยที่สุด
1
โจทย์ยากนี้ เขาต้องใช้ความกล้ามากมายขนาดไหน เสริชหาข้อมูลจากแหล่งอินเตอร์เน็ต โทรไปสอบถาม ว่าใครจะสามารถสอนเขาได้บ้าง เขาต้องใช้อุปกรณ์อะไร และหาได้จากที่ใด
เขาได้เล่าอีกว่า กว่าที่เขาจะเดินทางไปหาคนที่ชำนิชำนาญด้านการทำกีตาร์ไฟฟ้านั้น เสียงในหัวก็พรั่งพรูมากมาย เขาต้องพูดกับพี่คนนี้ยังไง พี่คนนี้จะสอนเขาหรือไม่ เค้าทำแล้วเขาจะได้...โดยที่ไม่มีค่าจ้าง
1
เขาเดินวน อยู่ 3 วัน ซึ่งเขาไม่กล้าที่จะเข้าไปพูด และก็ไม่รู้จะพูดว่าอะไร เขากลัวคำปฏิเสธ กลัวถูกไล่ออกมา กลัว...และก็กลัว แต่ถ้าไม่ทำ..งานของเขาก็จะไม่เสร็จ พอครูถาม พ่อแม่ถาม เพื่อนถาม เขาก็ไม่รู้จะตอบว่าอะไร พอผ่านไป 3 วัน ความกลัวก็เปลี่ยนเป็นความกล้าเข้ามาแทน
1
การบ้านที่เข้าต้องทำคือ ต้องใช้คำพูดอย่างไรที่พี่คนนี้จะสอนเขา ตอบคำถามยังไงเมื่อเขาถาม เขาจะได้อะไรถ้าสอน หรือถ้าเขาด่า หรือปฏิเสธ จะทำยังไงต่อไปดี.....
1
และแล้ว....น้องเขาก็ทำได้สำเร็จในการเจรจาได้ครูที่ยอดเยี่ยม พร้อมจะช่วยเหลือเขาแล้ว พอเจรจาสำเร็จ เขาก็เข้าสู่กระบวนการลงมือทำ เริ่มต้นจากการหาอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไม้ หรือสาย และอีกหลายๆชิ้นส่วน
แต่ชีวิต มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ณ วันที่ใกล้ครบกำหนดส่งโปรเจคมาถึง แค่ไม่ถึงเดือน งานผ่านมาได้กว่า 70 % แล้ว ถึงขั้นตอนที่ต้องเจาะรู แต่ความพังไม่เข้าใครออกใคร
เจ้าตัวเล่าด้วยหน้าตาเศร้าๆว่า เขาได้เจาะรูผิดพลาด ไม่แตกจนใช้งานไม่ได้ ซึ่งกว่าจะได้ไม้ชิ้นนี้ ต้องผ่านการตัด ขัด อบ พ่นสี มากว่า1 เดือน เท่ากับว่า...สิ่งที่เขาทำมาทั้งหมดพัง....ไม่เป็นท่า จะเริ่มใหม่ทันไหม
ระหว่างที่เขาเล่า ก็แอบเห็นมีน้ำตาไหลออกมา เขาเล่าถึงเหตุการณ์วันนั้น เขาเล่าถึงความโชคร้าย ความเครียด ความกดดัน ความพ่ายแพ้ ความพินาศที่ได้เกิดขึ้น เขานอนร้องไห้ กว่า 5 วัน ว่ายังไงๆงานนี้ล่มไม่เป็นท่า เค้าต้องไม่จบ ไม่กล้าคุยกับใคร ไม่ออกบ้านไปไหน ได้แต่เก็บตัว
1
จนพ่อแม่ต้อง...ขอความช่วยเหลือจากเหล่าเพื่อนๆของลูก เพราะเขาก็เสียใจเช่นเดียวกัน
ในเรื่องร้าย...ย่อมมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นเสมอ เพื่อนๆทุกคน พอได้ทราบข่าวและที่คอยเป็นกำลังใจที่ดี ทุกคนไม่รีรอเลย รีบมาช่วยเหลือเขาทันที อยากให้งานของเขาสำเร็จ เพราะมีหลายคนที่เสร็จไปแล้ว
1
เค้าเล่าถึงความมีน้ำใจของเพื่อน ที่ต่างมาช่วยกันหาไม้อันใหม่ ขัดไม้ อบสี ซึ่งบางวันถึงขั้นนอนรุ่งสาง บางคืนก็ตี2 และบางคนงานของตัวเองก็ยังไม่เสร็จเช่นกัน
และวันนี้...งานของเขาก็ได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว แถมไม่ได้มีชิ้นเดียวด้วย เขาได้ทำมาโชว์ ตั้ง 2 อัน นั่นก็คือ งานชิ้นแรกที่ทำพัง โดยปรับแก้ไขให้ใช้งานได้ และงานชิ้นใหม่ที่เพื่อนช่วยกันทำไปพร้อมๆกับเขา
1
cr.pixabay
พออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว....เพื่อนๆคิดว่า...เด็กคนนี้..ได้อะไรบ้างคะจากการทำโปรเจคนี้ เค้าไม่ได้เกรด 4 แน่ๆค่ะ..เพราะที่นี่ไม่ได้มีให้ และก็ไม่ได้เงินรางวัลใดๆเลยค่ะ...แต่ที่ได้แน่ๆนั่นก็คือ ได้หัวใจแม่เป้ไปหมดแล้วค่ะ......555
4
สำหรับแม่เป้ นั้น ไม่สามารถเอ่ยคำใดๆออกมา มีแต่น้ำตาแห่งความตื้นตัน ว่าลูกเอ้ย ลูกสำเร็จแล้ว ไม่ว่าลูกจะไปทำงานที่ใด นี่คือขุมทรัพย์อันมหาศาล ที่ลูกได้ผ่านมันไปในทุกๆขั้นตอน
2
มันคือการเรียนรู้ ที่ลูกได้รับรู้ ด้วยตัวของลูกเอง มันคือตำรา ที่ลูกได้เขียนมันขึ้น จากมือทั้งสองข้างของลูกเอง และมันคือความสำเร็จที่พ่อแม่ พร้อมจะให้ลูกได้เติบโตไปในเส้นทางที่ลูกเขียนด้วยตัวเอง
3
1
เป็นยังไงกันบ้างคะ เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว การศึกษาคืออะไร แล้วทุกวันนี้เราได้ช่วยให้ลูกของเรา สร้างตำราชีวิตของเขา หรืออ่านตำราชีวิตของคนอื่นแล้วทำตามหรือเปล่าคะ
2
การเรียนรู้ไม่ใช่ตำรา แต่การเรียนรู้สร้างตำรา ถ้าคุณยังเรียนรู้จากตำรา หมายความว่า คุณช้ากว่าคนอื่นเรียบร้อยแล้ว
2
หากคิดว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ ก็อย่าลืมแชร์และกดติดตามเพจคุณแม่แค่รู้ไว้นะคะ รับรองไม่พลาดเรื่องราวดีๆแน่นอนค่ะ
1
ด้วยรัก...
แม่เป้ : คุณแม่แค่รู้
ภาพจากผู้เขียน
13 บันทึก
33
71
25
13
33
71
25
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย