[ #ที่เหลือคือกำไร ]
ทีมชาติเดนมาร์กชุดแชมป์ยูโร 1992 คือความมหัศจรรย์ ชนิดต้องใช้คำว่าแทบจะหาที่เปรียบไม่ได้เลย
พวกเขาไปเล่นในรอบสุดท้ายในฐานะมวยแทน หลังจากยูโกสลาเวียโดนลงโทษแบนแบบฉุกละหุก จากเหตุการณ์สงครามกลางเมือง กระทั่งลามมาสู่เรื่องของฟุตบอล
ตอนนั้นในรอบสุดท้ายศึกชิงเจ้ายุโรป ให้โควต้าเพียงแค่ 8 ชาติเท่านั้น ต้องห้ำหั่นกันอย่างเข้มข้นในการคัดเลือก ใครฝ่าด่านมาเป็น 8 เซียนได้ย่อมต้องแข็งแกร่งจริง
รอบคัดเลือกทัพเดนส์จบอันดับ 2 ของกรุ๊ป ต้องกระเด็นหลุดตามระเบียบ เพราะให้แค่แชมป์เท่านั้นได้ไปต่อ
ดังนั้นพอฤดูกาลปกติปิดฉากลงเรียบร้อย นักเตะแต่ละคนจึงแยกย้ายกันไปพักผ่อน หลายรายบินไปนอนให้แดดเลียผิวริมทะเลอย่างชุ่มปอด แล้วคอยติดตามทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวที่หน้าจอทีวีเอา
พอทางสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปแจ้งมายังสมาคมฟุตบอลเดนมาร์ก ต้องรีบติดต่อพวกผู้เล่น 20 คนให้ด่วนที่สุด (ตอนนั้นส่งรายชื่อได้ 20 คน) ซึ่งเป็นภารกิจที่จวนตัวมากๆ แล้วการสื่อสารในเกือบ 30 ปีก่อนไม่ง่ายเลย
โทรศัพท์เคลื่อนที่หรือมือถือยังไม่แพร่กระจายเป็นที่นิยมนัก บางคนไม่ได้ใช้ด้วยซ้ำ ต้องพยายามหาทางติดต่อกันเต็มที่ เหลือเวลาอีกเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์
ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูระดับตำนาน เล่าว่าเขาเองไม่ได้ดูข่าวหรืออ่านหนังสือพิมพ์เลย ตั้งใจพักผ่อนชาร์จแบตให้เต็มที่ รอฤดูกาลใหม่กลับมาอีกครั้ง
พอ ริชาร์ด โมลเลอร์ นีลเซ่น เจ้านายติดต่อมาหา แทบไม่อยากเชื่อในตอนแรก แต่ก็บอกกับภรรยาว่าต้องรีบไปโคเปนเฮเก้นก่อนแล้ว จึงจองตั๋วเครื่องบินจากที่พักแถบแคริเบียนมายังประเทศบ้านเกิด
ชไมเคิ่ล ยังย้อนความหลังให้ฟังเพิ่มอีกช็อต นั่นคือก่อนลงเจอกับสวีเดนเจ้าภาพในรอบแบ่งกลุ่ม โดนแซวว่าเดนมาร์กมาพักร้อนกันที่นี่หรืออย่างไรกัน
เข้าใจได้ว่าแทบทุกคนไม่มีความพร้อมเท่าไรนัก ทั้งสภาพร่างกาย ความฟิตต่างๆ รวมถึงการทำความเข้าใจเรื่องของแท็คติก
ในสายตาผู้คนทั่วไปจึงมองเดนมาร์กว่ามาเล่นเพื่อให้ครบ 8 ทีมเท่านั้น ซึ่งดูแล้วแทบปิดตายผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเลย
แต่ดูเหมือนว่าแข้งเดนส์จะเลือกมองในมุมที่แตกต่างออกไป ในเมื่อไม่มีใครคาดหวัง ก็ใส่มันเต็มที่แบบไม่ต้องกังวล ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว ถ้าผลงานแย่ก็คือเสมอตัวเท่านั้นเอง
อาจเพราะคิดบวกหรือเปล่าไม่มีใครรู้ แต่ที่รู้คือเดนมาร์กสร้างตำนานเทพนิยายอันลือลั่นสนั่นทั้งโลก
เกมนัดชิงซึ่งเจอเยอรมัน ต่อกรได้อย่างสุดสูสีไม่ได้เห็นวี่แววว่าเป็นรองเลยสักนิดเดียว ก่อนได้รับรางวัลตอบแทนล้ำค่าที่สุด
เพราะต่อให้ได้ชิงแล้วเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ก็แทบไม่มีใครจำ แม้คุณจะเป็นจอมเซอร์ไพรส์ก็ตาม
แชมป์เท่านั้นจะถูกพูดถึงและเมมโมรี่ไว้เสมอ
จากนั้นในศึกยูโร 1996 ยูฟ่าปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขัน จากที่รอบสุดท้ายเชิดฉิ่งชิงชัยกันแค่ 8 ทีม ก็ดับเบิ้ลเป็น 16 ทีม ด้วยเหตุผลเพื่อให้แต่ละชาติมีโอกาสเข้ามาสัมผัสบรรยากาศและมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น
เพราะต้นทศวรรษ 90 เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายทางฝั่งยุโรปตะวันออก มีหลายประเทศเกิดใหม่ แยกออกมาจากสมัยที่เคยโดนอาณาจักรใหญ่ปกครอง
สาธารณรัฐเช็กคือ 1 ใน 16 ทีมที่ฝ่าด่านจากการคัดเลือกได้สำเร็จ ด้วยชื่อชั้นดีกรีต่างๆแล้ว เป็นธรรมดาที่จะถูกจัดให้อยู่ในโหมดพวกไม้ประดับหรือเต็มที่ก็แค่ม้ามืด
แล้วพวกเขาอยู่ในกลุ่มบี ถือว่าโหดไม่น้อย ต้องเจอทั้งเยอรมันและอิตาลี 2 ทีมเต็ง รวมทั้งรัสเซียอีกทีมด้วย
เทียบคุณภาพผู้เล่นกันแล้วหมีขาวดูดีกว่าอีกต่างหาก มีสมาชิกบิ๊กเนมอย่าง อันเดร แคนเชลสกี้ส์ , วิคเตอร์ โอน็อปโก้ , วาเลรี่ คาร์ปิน , อเล็กซานเดอร์ มอสโตวอย หรือ อิกอร์ โคลิวานอฟ
ผ่านนัดแรกเรียบร้อย ราวกับว่ามีเขียนสคริปต์ไว้หรือตามที่คาดการณ์ล่วงหน้า เช็กโดนอินทรีเหล็กเผาเครื่องนิ่มๆ 2-0
ทีมของกุนซือ ดูซาน อูห์ริน ไม่มีทางเลือกในเกมที่สองกับอิตาลี ยังไงก็ต้องบุกแหลกแลกหมัด มีสักแต้มเป็นอย่างน้อย เพื่อความหวังสำหรับการลุ้นต่อในนัดสุดท้าย
แม้จะดูเหลี่ยมมุมไหนก็เป็นรอง แต่ทัพเช็กหักปากกาเซียนเฆี่ยนอัซซูร์รี่อย่างระทึก 2-1 โชว์เกมรับอันเหนียวแน่น ในการตั้งกำแพงช่วงท้ายเกม
นัดที่สามเจอรัสเซียเป็นการชี้ชะตาของเช็กต้องเน้น 3 แต้มไว้ก่อน แล้วไปลุ้นอีกคู่ให้อิตาลีไม่ชนะเยอรมัน
ปรากฏว่าเกมที่แอนฟิลด์ซึ่งเช็กลงดวลรัสเซียเกิดดราม่าขึ้น เช็กไปได้สวยนำไปก่อน 2-0 ในครึ่งแรก ครึ่งหลังเล่นได้แค่ 10 นาทีหมีขาวซัด 2 ดอกกลับมาเท่ากันสำเร็จ
เข้าสู่ 5 นาทีสุดท้าย วลาดิเมียร์ เบสชาสท์นิค ยิงให้รัสเซียพลิกกลับมานำครั้งแรก 3-2 เช็กทำท่าจะจบเห่แล้ว อย่างไรก็ดี วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์ ซึ่งเป็นดาวรุ่งในเวลานั้นและยังไม่ได้ย้ายมาลิเวอร์พูล ซัดกู้ให้เช็กเสมออย่างหวาดเสียว 3-3
นั่นคือหนึ่งคะแนนที่มีค่ามากสุด เพราะผลักดันให้เช็กทะลุเข้ารอบควอเตอร์ไฟนั่ลสำเร็จ เพราะอีกคู่อิตาลีเจาะอินทรีเหล็กไม่เข้าเสมอโนสกอร์ ทำให้มี 4 แต้มเท่าเช็ก แต่เฮดทูเฮดเป็นรอง เลยร่วงอย่างน่าเจ็บใจ
8 ทีมสุดท้ายเข้าไปชนโปรตุเกส ซึ่งมีทั้ง หลุยส์ ฟิโก้ , เฟร์นานโด เคาโต้ , เปาโล ซูซ่า และ วิคตอร์ บาย่า เป็นตัวชูโรง
แต่เวลานั้นเช็กไม่จำเป็นต้องยำเกรงใครอีกก่อน คาเรล โพบอร์สกี้ จะสร้างช็อตตำนานล็อบบอลข้ามหัว บาย่า เข้าอย่างงามหยดเป็นประตูชัยให้เข้าไปถึงตัดเชือก
ฝรั่งเศสคือด่านถัดมา ซีเนดีน ซีดาน กำลังพุ่งขึ้นมาอย่างน่าสนใจ ไหนจะมี ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือคนปัจจุบันของตราไก่ ช่วยกันคุมตรงกลาง อีกทั้ง โลร็องต์ บล็องก์ , ลิลิยอง ตูราม , บิเชนเต้ ลิซาราซู , มาร์กแซล เดอไซญี่ หรือ ยูริ จอร์เกฟฟ์
แต่เช็กซึ่งวางแนวรับแน่นหนา ตั้งกำแพงตระหง่านป้องกันการโจมตี ยันไว้ได้ยาวๆ 120 นาที ก่อนตัดสินด้วยการดวลเป้าและยิงได้แม่นกว่า จึงช็อกวงการผ่านไปถึงนัดชิงดำ
พวกเขาได้ล้างตาเยอรมันจากรอบแรก โดยที่คราวนี้ทำได้ดีกว่าเดิม ขึ้นนำก่อนจากจุดโทษของ แพทริก แบร์เกอร์ แต่น่าเสียดายที่โดน โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟ ตามทวงและต้องยื้อกันอีก 30 นาที
เล่นไปได้ 5 นาที เบียร์โฮฟ มาทำประตูได้และเป็นประตูชัยอีกต่างหากตามกฏโกลเด้น โกลด์ในเวลานั้น
เช็กพ่ายแพ้ท่ามกลางความน่าเสียดายของผู้คนมากมายที่อยากเห็นพวกเขาสร้างประวัติศาสตร์
เสียงชื่นชมดังกึกก้อง ในฐานะที่พลิกล็อกผ่านเข้ามาได้ถึงนัดชิง แต่อย่างที่บอกไว้ไม่ได้แชมป์ ก็ไร้เกียรติยศ ไม่ได้ถูกพูดถึง
ยูโร 2020 เป็นอีกครั้งที่สาธารณรัฐเช็กผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้ โดยที่รอบ 16 ทีมสุดท้ายต้องดวลกับฮอลแลนด์ซึ่งโชว์ฟอร์มแจ่มมากชนะรวด 3 นัด แน่นอนอีกครั้งที่เช็กยังคงเป็นรองไม่ว่าจะพิจารณาด้านไหน
แต่ประสบการณ์ที่่ผ่านมา สอนให้รู้แล้วว่าฟุตบอลนัดเดียวอะไรก็เกิดขึ้นได้ อีกทั้งขุนพลของพวกเขาขบวนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
แพทริก ชิก ที่สร้างชื่อจากการยิงไกลเฉียด 50 หลาและกดไปแล้ว 3 ประตูในรอบแบ่งกลุ่ม โธมัส ซูเช็ก กองกลางจอมโขก , วลาดิเมียร์ คูฟาล และ วลาดิเมียร์ ดาริด้า คือแกนหลัก
รวมถึงพื้นฐานอันแข็งแกร่งจากทีมสปิริต เน้นหนักการทำงานร่วมกัน ก็เป็นหนึ่งในกุญแจดอกสำคัญทำให้เช็กกรุยทางมาถึงตรงนี้ได้
แน่นอนสถานการณ์คล้ายเมื่อ 25 ปีก่อน คือไม่มีอะไรจะเสีย เล่นอย่างผ่อนคลายและดำเนินไปตามแท็คติก
ใครก็อยากเป็นแชมป์ แต่สำหรับสาธารณรัฐเช็กแล้ว แค่มาถึงตรงนี้ก็น่าจะตามเป้า ไม่มีขาดทุนอะไรทั้งสิ้น
ที่เหลือล้วนแต่คือกำไรทั้งสิ้น
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
Facebook : www.facebook.com/cheerball
Twitter : www.twitter.com/cheerballth
Website : www.cheerball.com
Youtube : www.youtube.com/cheerballth
ขอบคุณครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
