27 มิ.ย. 2021 เวลา 07:51
#รีวิวฟันด์วันละกอง #ARK #เออาร์เค #อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก #ยาวมาก
.
สวัสดีครับ บทความที่ 17 ตอนนี้ถือว่าพิเศษจริงๆ
เพราะว่าผมจะลองมาพูดคุยถึง 1 ในกองทุนที่มีคนพูดถึงกันมากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา กอง ARK
.
กองนี้ผมเองก็เพิ่งรู้จักได้ไม่นานนะ แต่เห็นว่ากองนี้สร้างผลตอบแทนดีมากๆเลยในปีที่ผ่านมาไหนไปดูกันหน่อยซิว่า มีอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ARK บ้าง
.
#ARKInvestment
.
- ARK ผมมองว่า ก็เป็นอีก 1 บลจ.ที่มีกองทุนขายนั่นแหละ ก่อตั้งโดยคุณแคทเธอรีน วู้ด (คุณเคธี) ในเดือนม.ค. 2014 จดทะเบียนเป็น Investment Adviser และเริ่มออกขาย ETFs ตั้งแต่ก.ย.2014
***ETF (Exchange Traded Fund) คือ กองทุนรวมที่ซื้อขายได้ในตลาดหุ้นแบบ Real-Time ไม่ต้องรอราคาสิ้นวันเหมือนกองทุนเปิดทั่วไป
- เน้นการลงทุนในธุรกิจที่มี Disruptive Innovation ซึ่งคือ นวัตกรรมใหม่ๆ อาจจะเป็นสินค้าหรือบริการ ที่ถูกพัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยี ซึ่งสามารถแทนที่ธุรกิจดั้งเดิมได้ ซึ่ง Innovation เหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมๆเดิม ให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ในแง่ความเรียบง่าย เข้าถึงได้ และมีต้นทุนที่ต่ำลง
.
- คุณเคธีมีประสบการณ์ในธุรกิจการลงทุนกว่า 40 ปี ในธุรกิจ Innovation และยังมีประสบการณ์ทั้ง CIO/Analyst/Economists
- คุณเคธีเชื่อว่า บทวิเคราะห์ในตลาดทั่วไปไม่สามารถใช้ได้กับ บริษัทที่มี Innovation ดังนั้นจึงมองข้ามกลุ่มอุตสาหกรรม หรือตลาดในมุมมองเดิม แต่โฟกัสไปยังธุรกิจที่มี Innovation เช่น robotics energy storage DNA sequencing artificial intelligence และ blockchain technology
.
- ดังนั้นธุรกิจที่มี Disruptive Innovation ย่อมสร้างการเติบโตแบบที่ก้าวกระโดด และโดดเด่นได้ในระยะยาว
- ส่วนใหญ่ ARK ลงทุนใน US เป็นหลัก แต่ก็มีการกระจายลงทุนใน ADR รวมถึง ยุโรป เอเชีย
.
#ActiveETFs #InvestmentProcess
- ถ้าพูดถึง ETF ส่วนใหญ่ที่เราเคยคุยกัน หลายคนมักนึกถึง ETF ที่เป็น Passive Fund หรือ Index Tracking แต่ ARK มีสินค้าที่เป็น Active Management
- ส่งผลให้ ไม่มีการ Weight น้ำหนักเท่ากับ Index เหมือนกอง ETF อื่นๆ แต่เป็นการคัดเลือกหุ้นเหมือนกองทุน Active อื่นๆ แต่สามารถซื้อขายได้ Real Time เหมือนหุ้น >>> เรียกได้ว่า #กองActiveที่ซื้อขายได้Realtime
- อีกประเด็นคือ High-Conviction แปลว่า มีหุ้นในพอร์ต 30-60 ตัว สะท้อนถึงความมั่นใจในหุ้นที่เลือก เพราะบางกองของที่อื่นจะมีหุ้นในพอร์ต 70-100 ตัว
.
- การคัดเลือกหุ้น ใช้ Top-Down เพื่อประเมินโอกาสในการลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างน้อย 3-5 ปี ซึ่งสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงใน Value Chain และสร้างโอกาสทางการตลาดได้หลายปี ทั้งนี้ธีมที่คัดเลือกก็จะเน้นเรื่อง innovation และมีการ research ข้อมูลเองในทีมของ ARK
- บวกกับใช้ Bottom-Up เพื่อขุดหาหุ้นที่มีศักยภาพ ด้วย 6 หลักเกณฑ์ ด้านล่าง
.
1. Company, People and Culture: Key Person / การ Acquisition / บรรษัทภิบาล
2. Execution of Objectives: การ R&D / Sales&Marketing รวมถึง Operation
3. Moat or Barriers to Entry: การเข้ามาของคู่แข่งขันใหม่ รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆที่จะเข้ามา Disrupt
4. Product and Service Leadership: ส่วนแบ่งตลาด / มุมมองอนาคตในด้าน Innovation
5. Thesis Risk: ความเสี่ยงในด้านกฎระเบียบ / การเมืองระหว่างประเทศ / เทคโน / สิ่งแวดล้อมและสังคม
6. Valuation: ประเมินมูลค่าในช่วง 5 ปี คาดสร้างผลตอบแทน 15% ต่อปี
.
- ARK รวมๆ มี Portfolio Turnover 15% >>> สะท้อนว่า ไม่ได้เทรดบ่อยนะ แต่กำไรดีๆที่ได้มาในอดีตมาจากการค้นหาหุ้นแล้วซื้อถืออยู่นานเลย
- เวลาหุ้นขึ้นเยอะๆก็ Trim (ขายทำกำไรออกมาบ้าง) เวลาหุ้นลงมาก ก็ซื้อเพิ่ม (แต่ต้องมีมูลค่าเหมาะสมที่สูง) ทั้งนี้ turnover หุ้นรายตัวอยู่ที่ 60-75% >>> ก็ถือประมาณ 1 ปีกว่าๆ (Active ETFs)
- แต่ทั้งนี้ก็ยึดตามการวิเคราะห์มุมมองของ ARK เป็นหลักว่าเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่
.
โอเค เล่ามาซะยาวเลย จริงๆแล้ว ARK ยังมีรายงานบทวิเคราะห์และมุมมองที่น่าสนใจมากมาย ท่านที่สนใจลงทุนในกอง ARK เข้าไปอ่านต่อในเว็บได้เลยนะ ว่าเค้ามอง Theme แต่ละแบบยังไง
.
ทั้งนี้ ARK มี Active ETFs 6 กอง คือ ARKK ARKQ ARKW ARKG ARKF ARKX และมี Index ETFs 2 กอง PRNT IZRL
งั้นเรามาเริ่มเนื้อหาแต่ละกองกันเลยดีกว่า
.
1. #ARKK : ARK Innovation ETF (https://ark-funds.com/arkk)
- เน้นการลงทุนในธีม Disruptive Innovation โดยและโฟกัสการลงทุนในกลุ่ม Artificial Intelligent / Autonomous Vehicles / Fintech / DNA Sequencing / Robotics / 3D Printing
.
- ธีมนี้เน้นมองว่า Innovation คือ กุญแจสำคัญของเติบโต ซึ่งมาจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมนั้นๆ เชื่อว่าธุรกิจจะมีต้นทุนที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ถ้ามียอด Production ที่เติบโต ทำให้ผมนึกถึงธุรกิจที่มียอดขายโตเร็ว แต่กำไรยังมีน้อย หรือไม่มี ซึ่งก็เป็นความเสี่ยงที่ต้องระวัง
- หุ้นที่เลือกลงทุนส่วนใหญ่จะยังไม่โตมากและอยู่ในตลาด เชื่อว่าจะโตในระยะยาว (แต่ไม่ได้เข้าไปซื้อหุ้นก่อน IPO นะ) แต่ถ้าโตแล้ว แต่มองว่ายังโตได้อีกมากก็ยังถือนะ
.
- ดังนั้น Active แบบเลือกหุ้นเป็นธีมต่างๆนี้ เป็นข้อดี ที่แตกต่างจาก Passive Style ซึ่งอาจจะมองข้ามการเติบโตของหุ้นบางตัว เพราะหุ้นบางตัวที่มีแนวโน้มอนาคตดี อาจจะยังไม่ถูกนำเข้ามาในดัชนีก็ได้ (แน่นอนว่ามันต้องแลกกับความเสี่ยงที่หุ้นนอก Index มันจะไม่โตนั่นเอง)
- อีกทั้งหุ้นที่เลือกยังมี Correlation น้อยกับหุ้น Growth และมี Negative Correlation กับหุ้น Value (สวนทางกัน)
- กองนี้เหมือนเป็นเรือธงของ ARK เลยก็ว่าได้ เพราะมันเหมือนมีธีมหลายๆธีมที่จะอยู่ในกอง แต่ ARKK ไม่ใช่ Fund of Funds ของ ARK ตัวอื่นๆนะอย่าเข้าใจผิด เพียงที่เลือกลงทุนมันจะมีอยู่ในกรอบ 6 Theme ด้านบน
.
- ถ้าคุณชอบกองนี้ ผมบอกเลยว่า ไม่มีกองทุนไหนในไทยที่ Feed ลงกองนี้ 100% แต่จะมี Fund of funds คือ #PWIN ที่ปีก่อนลงในกองนี้ประมาณ 45% (ธ.ค.63) แต่พ.ค.64 มีสัดส่วนเหลือเพียง 23%
- นอกจากนี้ยังมี #LHINNO อีกกองที่ลงใน ARKK 73% (พ.ค.64)
.
2. #NikkoARK : NIKKO AM ARK DISRUPTIVE INNOVATION FUND โดยบลจ. NIKKO ร่วมมือกับ ARK
- โมเด็ลตัวนี้คล้ายกับ ARKK นั่นแหละ แต่มีค่าธรรมเนียมที่มากกว่า ARKK นะ
- และมีกฎ UCITS (Undertakings for the Collective Investment in Transferable Securities) หรือ 5/10/40 rules
คือ 1) ห้ามถือหุ้นเกิน 10% และ 2) หุ้นที่เกิน 5% รวมกันต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 40%
- จริงๆก็มีกองเคยรีวิวก่อนหน้านี้ก็มี UCITS หลายกองเลยนะ แต่อันนี้คือจุดต่างสำคัญของ Nikko ARK กองนี้
- ถ้าไปอ่านในเอกสารของ Nikko จะบอกว่า มี 5 ธีม แต่เอาจริงๆ ธีมมันก็ซ้ำๆกันแล้วแต่จะเรียกชื่อให้อยู่ใน subset ไหนนะ
.
- เมื่อเปรียบเทียบผลตอบแทนและการเคลื่อนไหวของ NAV กองทุน พบว่า ตั้งแต่ก่อตั้ง Nikko เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับ ARKK >>> เรียกได้ว่าตัวเดียวกันนั่นแหละ แต่อาจจะต่างกันที่ค่าธรรมเนียมกับไว้ในนิดหน่อยเท่านั้นเอง
- กองไทยที่ลง คือ #TMBESGINNO #TESGINNO #KFINNO
.
#สรุปแล้ว ถ้าสนใจ ARKK หรือ Nikko ARK Disrupt Innovation
- คุณต้องเชื่อมั่นในการเติบโตในกลุ่มนี้ ที่จะโตจากมูลค่าไม่ถึง 6 ล้านล้านเหรียญในปัจจุบัน เป็น 50 ล้านล้านเหรียญในอีก 10-15 ปีข้างหน้า
- ไม่เลือกหุ้นกลุ่ม FAANG (Facebook+Amazon+Apple+Netflix+Google/Alphabet) หรือกลุ่ม BATs (Baidu+Alibaba+Tencent)
- มองการลงทุนหุ้นในช่วง Early Stage เป็นหลัก และมี Correlation น้อยกว่าสินทรัพย์ต่างๆ
.
3. #ARKQ : ARK AUTONOMOUS TECHNOLOGY & ROBOTICS ETF (https://ark-funds.com/arkq)
โฟกัสการลงทุนในกลุ่ม Robotics / 3D Printing / Autonomous Technology / Autonomous Vehicles / Aerial Drones / MaaS (Mobility-as-a-Service)
.
#ทำไมต้องARKQ
- ในปี 2019-2020 ยอดขายรถ EV โต 16% และ 33% ตามลำดับ สวนทางกับยอดขายรถ Gas-Power ที่หดตัว 4% และ 15% ตามลำดับ ในปี 2020 มี COvid เป็นตัวเร่ง
- ต้นทุนของแบตเตอรี่ลิเธียม อิออน มีแนวโน้มลดลงตามปริมาณการผลิตแบตเตอรี่ที่มากขึ้น >> หนุนโดยยอดขาย EV
- ราคารถ EV มีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ ARK คาดยอดขายรถ EV แตะ 40 ล้านคันในปี 2025 จาก 2.2 ล้านคันในปี 2020
- การเข้ามาของ Automation ช่วยลดต้นทุนการผลิต เพิ่มค่าแรงให้พนักงาน ธุรกิจมี Margin ที่ดีขึ้น
.
- ในปี 2020-2025 คาด Automation หนุน GDP โตที่ระดับ 3.5% ต่อปี (แต่ถ้าไม่มีจะโตประมาณ 2.5%)
- Autonomous ยังเข้ามาช่วยให้แนวโน้มต้นทุนในการเดินทาง (Cost per mile) ลดลง
.
- ถ้าชอบกอง ARKQ ในไทยมีกองเดียว คือ #TMBESAUTOMATION
.
4. #ARKW : ARK Next Generation Internet ETF (https://ark-funds.com/arkw)
เน้นลงทุนในกลุ่ม Artificial Intelligence / Cloud Computing / Digital Media / IoT / Mobile Payments / Autonomous Technology
.
#ทำไมต้องARKW
- เทคโนโลยี deep learning ช่วยพัฒนาการทำงานของ AI รถ รวมถึงๅ app ต่างๆ เช่น Tiktok Pinterest Snapchat
- นอกจากนี้ยังเข้าใจภาษาในการสื่อสาร สามารถเขียนโค้ด เขียนเมล์ได้
- ในอดีตที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 1997-2020 เป็น Internet Wave แต่หลังจากนี้ คือ deep learning wave ซึ่งจะทำให้ในปี 2037 มูลค่าโตเป็น 30 ล้านล้านเหรียญจากปี 2020 ที่ 2 ล้านล้านเหรียญ หรือโต 17%ต่อปี
- นอกจากนี้ยังมีพวก ARM RISC-V ซึ่งผมขอไม่อธิบายนะครับ กลัวไม่เข้าใจ แต่ก็จะเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มาแทน Datacenter หรือ CPU เดิมของ Intel และ AMD ใครสนใจ ARKW ไปอ่านต่อได้เลยนะ
.
- ถ้าชอบ ARKW ในไทยมี 3 กอง คือ #TNEXTGEN #TMBESINTERNET #WECYBER
.
5. #ARKG : ARK Genomic Revolution ETF (https://ark-funds.com/arkg)
เน้นลงทุนในกลุ่ม DNA Sequencing / Gene Editing / Gene Therapy / Ag Bio / Targeted Therapeutics / Molecular Diagnostics
.
- บอกเลยว่า ศัพท์แต่ละตัวนี่ ต้องไปอ่านต่อกันเองนะ คร่าวๆ คือ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับด้านสุขภาพ การตรวจเลือด การตรวจมะเร็ง การตัดแต่งพันธุกรรม การรักษาด้วนวิธีชีววิทยาของร่างกาย บอกตรงๆว่า
ผมไม่เก่งชีววิทยาเลย แต่รู้สึกว่ากองนี้มันดูห่างไกลผมมากเลย แต่ก็ดูเป็นอะไรที่เหมาะกับเป็นอีกกองที่เด่นของ ARK ได้เลย ผลตอบแทนที่ผ่านมาก็เอาชนะ NASDAQ Biotech Index (XNBI) เยอะเลย
.
- แนะนำให้ไปอ่านต่อที่ https://www.finnomena.com/yournicefriend/tgenome-arkg/ เขียนไว้ดีมากเลยครับ อ่านแล้วนึกถึง T-Biotech อีกกองเลย (ไว้จะเปิดไส้ในมาเปรียบเทียบให้ฟังนะ)
.
- ถ้าสนใจกองนี้ ในไทยมี 2 กอง คือ #TGENOME และ #TMBESGENOME
.
6. #ARKF : ARK Fintech Innovation ETF (https://ark-funds.com/fintech-etf)
เน้นลงทุนในกลุ่ม Digital Wallets / Mobile Payments / Lending / Risk Transformation / Artificial Intelligence / eCommerce
.
#ทำไมต้องARKF
- ใน US จำนวนผู้ใช้งาน Digital Wallet เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 4-5 ปีมานี้ จนแซงจำนวนบัญชีเงินฝากปกติแล้ว
- การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้มีสาเหตุหลักมาจาก ต้นทุนในการทำธุรกรรมที่่ต่ำลง เช่น บัตรเครดิต กู้เงิน ลงทุน ประกัน (เหมือนๆจะช่วยตัดตัวกลางออกไป)
.
- โดยเฉพาะในด้านการกู้เงินที่ไม่ต้องอาศัยตัวกลาง (peer-to-peer) ทำให้ Digital Wallet มีสัดส่วนในกลุ่มธุรกิจสินเชื่อนี้มากขึ้น
- research ของ ARK ยังชี้ถึงแนวโน้มการขยายตัวของ Digital Wallet จากราว 100 ล้านคนในปี 2020 เป็น 230 ล้านคนในปี 2025
- ซึ่ง Potential ของลูกค้า Digital Wallet คาดสูงถึง 19,900 USD ต่อคน (ในปี 2025) ซึ่งมากกว่าบริการอื่นๆ เช่น Venmo CashApp Robinhood Chime
.
- ผมอ่านแล้วก็นึกถึง พฤติกรรมการใช้จ่ายของคนไทยนะ จากที่พกเหรียญ พกแบงก์ เริ่มปรับมาพกบัตรเครดิต บัตรเดบิต แล้วปรับมาพกมือถือ ใช้จ่ายด้วย App ต่างๆ ทั้งของธนาคารเอง หรือ Wallet ของแต่ละเจ้าที่ออกมา ซึ่งเราจะเห็นได้จาก เป๋าตังค์ หรือ TrueMoney Wallet เป็นต้น
.
- ถ้าสนใจกองนี้ ในไทยมี 2 กอง คือ #MFTECH #TMBESFINTECH
.
7. #Cryptocurrency
.
- อีกเรื่องหนึ่งที่ผมให้ความสนใจ คือ การเติบโตของ Cryptocurrency ซึ่ง ARK เองก็มีมุมมองเชิงบวก (bullish) ต่อเรื่องนี้ ทั้งในด้านตัวกลาง มูลค่า และคุณเคธี่ก็มองว่า BTC จะ 5 แสนเหรียญในระยะยาว
- 22 มิ.ย.64 (ก่อนผมเขียนบทความนี้ 4 วัน) BTC ปรับตัวลงราว 30000 เหรียญ ทำให้ ARK เพิ่มการลงทุนใน GBTC หรือ GRAYSCALE BITCOIN TRUST BTC ซึ่งเป็นกองทุนทรัสต์ขนาดใหญ่ที่ลงทุนใน Bitcoin (BTC)
.
- โดยลงทุนรวม 8 ล้านหุ้น มูลค่า 240 ล้านเหรียญ คิดเป็นสัดส่วน 4.16% ของ ARKW (อันดับ 8 ของกอง) >>>> อ่านไม่ผิดหรอก GBTC อยู่ใน ARKW ไม่ใช่ ARKF
- ถ้าคิดขำๆ ผมดูแล้วว่า BTC และ GBTC มี correlation กันสูง การขึ้นลงของ BTC อาจส่งผลต่อผลประกอบการของ ARKW ก็ได้
- ใครจะลง ARKW ก็ระวังหน่อย ถ้าคุณไม่ชอบ BTC แต่ก็ยังดีที่มีสัดส่วน 4-5% อาจจะไม่กระทบผลการดำเนินงานมาก
- แต่ถ้าคุณชอบ BTC ผมว่า.....ก็ลงเองก็ได้มั้ง 5555 ไม่ต้องซื้อผ่าน ARKW
.
ผมเองไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโต ขอไม่แสดงความเห็นเรื่องนี้นะครับ ใครสนใจไปศึกษาต่อนะ ลองอ่านกันดูต่อในลิ้งที่ผมพอจะหาข้อมูลมาได้ครับ
.
.
8. #ARKX : ARK Space Exploration & Innovation ETF
เน้นลงทุนใน Reusable Rockets / Orbital Aerospace / Suborbital Aerospace / Aerial Drones / 3D Printing / Enabling Technology
.
- กองใหม่ๆสดๆร้อนๆ เพิ่งตั้งเดือนมี.ค.2564 เรียกได้ว่า ธีมอวกาศ ธีมจรวด ไฮเทคสุดๆ คือ ไกลตัวผมมาก ดาวเทียม การเดินทางแบบ Hypersonic จาก 10 เหลือ 2-3 ชม. การไปอาศัยอยู่บนดวงจันทร์ ดาวอังคาร
- ทั้งนี้ ARK มองว่า ต้นทุนจรวด ดาวเทียมจะต่ำลง สวนทางกับจำนวนดาวเทียมที่น่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
.
- คือ ที่ ARK เขียนมาก็เป็นตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของเค้า แต่เรื่องนี้ยอมรับว่าผมก็มองไม่ออกจริงๆ
- อาจจะเพราะไกลตัว + กองทุนเพิ่งออกขาย ก็ต้องรอดูว่าจะมีบลจ.เจ้าไหนเอากองนี้มาขายไหม เพราะตอนนี้ยังไม่มีขายในไทยจ้า (อยากได้ต้องไปซื้อ ETF เอง)
.
9. #เปรียบเทียบในแต่ละด้าน
.
#ประเทศที่ลงทุน
- ส่วนใหญ่ คือ US 70-80% รองลงมาแต่ละกองจะลงในยุโรป หรือ เอเชีย ทั้งนี้กองที่ลงในเอเชีย มากๆ คือ ARKQ 20% ARKF 25% เช่น Baidu Alibaba JD.com Tencent MEITUAN PINDUODUO
.
#ขนาดMarketCap
- ส่วนใหญ่เกือบทุกกองจะเน้นในหุ้นขนาด Mega-Large Cap (1 หมื่น ถึง 1 แสนล้าน USD ขึ้นไป) จะมีเพียง ARKG ที่ในพอร์ต 44% เป็นหุ้นขนาด Medium (2 พัน - 1 หมื่นล้าน USD)
.
#Sector
- ในหัวข้อนี้ผมไม่โฟกัสมาก เพราะหุ้นแต่ละตัวมักอยู่ในกลุ่ม IT Healthcare และ Communication Services แต่การแบ่งกลุ่มของ ARK ละเอียดกว่านั้น ควรสังเกตจาก Technology sector
.
#TechnologySector
จุดต่างของ ARK กับกองอื่นๆ จะละเอียดในกลุ่มเทคที่ลงแยกย่อย ดังนี้
.
- ARKK เน้น Ecommerce + Cloud Computing + Digital media รวมกัน 30 กว่า% แต่ก็จะกระจายไปหลายกลุ่มมาก 22 กลุ่ม
- ARKQ เน้น Autonomous Vehicle 42% + Robotics 20%
- ARKW เน้น Ecommerce 22% และคละในธีมเดียวกันใกล้ๆกัน เช่น Cloud Computing 14% + Digital media 14% + Big data 12%
- ARKG เน้น Target therapeutics 25% และคละในธีมเดียวกันใกล้ๆกัน เช่น Molecular Diagnotics 16% + Bioinfomatics 16%
- ARKF เน้น Transaction Innovation 28% + Customer facing platform 21%
- ARKX เน้น aerospace beneficiaries 40% + Orbital aerospace 28% + enabling technology 25%
.
การแบ่งกลุ่มเทคให้ละเอียด ทำให้เราเห็นความละเอียดในการคัดเลือกธีมที่เหมาะสมในแต่ละกอง แต่จะมีเพียง ARKK ที่มีธีมหลายๆธีม
.
#หุ้นรายตัว
ผลจากการแบ่งกลุ่มเทคโนโลยีดังกล่าว ทำให้ ARKK มีหุ้น Top10 ที่คล้ายกัน Top10 ของแต่ละกองถึง 8 ตัว คือ
- TESLA 10% ที่ซ้ำกับ ARKQ 10% ARKW 10%
- TELADOC 6% ซ้ำกับ ARKW 4% ARKG 7%
- SQUARE 4.6% ซ้ำกับ ARKF 10%
- SHOPIFY 4.5% ซ้ำกับ ARKW 5.2% ARKF 5.7%
.
- แต่ ARKK มีหุ้นซ้ำกับ ARKW มากถึง 8 ตัว นอกจากที่ list ข้างบน คือ ROKU TWILIO UNITY SPOTIFY
- ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ ARKK กับ ARKW มีผลตอบแทนรายปีที่ใกล้เคียงกัน
.
- ARK เป็น Active ETFs มีข้อดีนอกเหนือจากการซื้อขายได้ทุกวันทำการ คือ เราสามารถติดตามไส้ในของกองได้ทุกวันทั้ง 30-60 ตัว แต่อย่างไรก็ดี กอง ARK ก็ไม่ได้เน้น Trading และเปลี่ยนรายชื่อหุ้นบ่อย แต่เน้นซื้อถือและทยอย Trim ทำกำไรเวลาหุ้นปรับขึ้นแรง และซื้อเพิ่มเวลาหุ้นที่ถือปรับลงแรง (แต่มีมุมมองในตัวธุรกิจที่ยังดีอยู่)
.
#ผลตอบแทนและความเสี่ยง
- จะเห็นว่า ARK ทุกกองมีผลตอบแทนที่น่าสนใจหลัก 14-40% ในปี 2019 และก้าวกระโดดไปที่ 100%-150% ในปี 2020
- ส่วนปี 2017 ก็ยังถือว่าขึ้นแรงเช่นกัน 40-80% แต่ 2018 ก็นิ่งเลย ถ้าดูขำๆ แปลว่าถ้าปีไหนบวกแรงๆ ปีต่อมาอาจจะติดลบไม่ก็ย่อ ดั่งเช่นในปี 2021 ผลตอบแทน YTD(25 มิ.ย.) อยู่ที่ -3 ถึง 8%
.
- ด้วยผลตอบแทนที่ผันผวนขนาดนี้ ถือว่าเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนอย่างมาก ผมมองว่า ผลตอบแทนกองนี้จะไม่ Stable และแกว่งมากกว่ากองทั่วไป เนื่องจากเป็น Thematic (เสี่ยงกว่า sector ลงไปอีก)
- หมายถึงเวลาขึ้นก็พุ่งแรง เวลาลงก็ไปทั้งกลุ่มเช่นกัน ซึ่งสังเกตได้จากค่าความผันผวนอยู่ในช่วง 30-42% (กองหุ้นปกติมีค่า SD = 15-20%)
- ตัวเลข SD ที่สูงขนาดนี้ผมไม่ค่อยแปลกใจนะ เพราะหุ้นที่เลือกเป็นหุ้นขนาดกลางเล็ก ซึ่ง ARK ต้องระวังเรื่องสภาพคล่องและการแบ่งน้ำหนักลงหุ้นรายตัวด้วย >> แต่ก็มีรายงานที่บอกว่า ARK ก็จะเป็น Liquidity Provider เวลาหุ้นที่ถือปรับลงเยอะๆ ARK จะรับไว้เอง ตราบใดที่มุมมองไม่เปลี่ยน
.
- ทั้งนี้ Maximum Drawdown (5Y) แต่ละกองจะอยู่ในกรอบ 35-42% อาจจะไม่ต่างจากกองหุ้นแต่ละที่มากนัก แต่เวลาหุ้นลง มันลงเร็วมากๆจ้า ขึ้นเร็วเหมือนกันนะครับ อย่าตกใจ.....ล่ะ
.
#ค่าธรรมเนียม
- ทุกกองใกล้กัน 0.75-0.79% แต่มี Nikko ARK 1.50% แต่อย่างไรก็ดี วันนี้ผมรีวิวแต่กอง ARK เท่านั้น ถ้าเป็นกองไทยก็จะมีค่าธรรมเนียมอีกต่อนึง ไว้จะมารีวิวให้อ่านอีกรอบนะครับ
.
10. #มุมมองจากFunManager
.
- ARK คือ กอง Active ที่ซื้อได้ Real Time แต่ถ้าซื้อที่ไทย ก็ไม่ได้ราคา real time นะ
.
แม้ ARK จะเน้นธีม Disruptive Technology แต่ ARK แต่ละกองมีความเฉพาะตัวของมัน สังเกตดีๆจะเห็นความแตกต่างของธีมการลงทุนที่ต่างกัน โดย
.
- ARKQ ดูจะเป็นเรื่องรถ EV หุ่นยนต์ >> TMB-ES-AUTOMATION
- ARKW เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ Computer Internet ระบบ Cloud แถมลงในหุ้นที่ลงทุนในคริปโตเบาๆด้วย >> T-NEXTGEN TMB-ES-INTERNET WE-CYBER
- ARKG ไปทางสุขภาพ ชีววิทยาไปเลย >> T-GENOME TMB-ES-GENOME (และ 13% ใน LH-INNO-A)
- ARKF เรื่องฟินเทค + คริปโต >> MFTECH TMB-ES-FINTECH
- ARKX เรืองดาวเทียม อวกาศ >>> ยังไม่มีกองในไทยที่ลงได้
- ARKK และ Nikko ARKK เน้น Disruptive Technology รวมๆ แต่ไม่ใช่ Fund of funds ถ้าจะลงต้องเป็น Nikko Ark >> TMB-ES-GINNO T-ES-GINNO KFINNO-A
- แต่ PWIN และ LHINNO-A จะเป็น Fund of funds มากกว่า ซึ่งจะมีลง ARKG ด้วยเพราะ Nikko จะมีเพียงธีมย่อย DNA Sequencing เท่านั้น
.
****คนที่จะลงกองนี้ต้อง #เข้าใจในแนวโน้มธุรกิจและอุตสาหกรรม #มากกว่าไปยึดกับผลตอบแทนย้อนหลัง ผมเองแทบเฉยๆกับตัวเลขในอดีต เพราะมันไม่ได้การันตีอนาคตเลย
คำตอบของคำถามว่าจะเลือกกองไหนดี คือ คุณชอบ Theme ไหนล่ะ ?
.
- แต่ผมสนใจหลักการเลือกหุ้นมากกว่า ซึ่ง ARK ก็จะมีมุมมอง บทวิเคราะห์จากแต่ละ Technology breakdown ที่น่าสนใจมาให้อ่าน
- ถ้าคุณไปลองไล่ดูแล้วชอบแนวคิด หรือแนวโน้มธุรกิจเหล่านี้ ผมว่า ARK ก็น่าสนใจเหมือนกัน
.
- อย่างไรก็ดี คุณไม่สามารถลดความผันผวนจากการลงทุนใน ARK ได้ แต่สิ่งที่คุณทำได้ คือ การถือให้นาน ตามมุมมองของ ARK ที่เน้นการเติบโตอย่างน้อย 3-5 ปี
.
- เพราะที่ผ่านมาเห็นคนเข้าไปติดดอยจำนวนมาก เพราะผลตอบแทนย้อนหลังมันน่าสนใจ และไม่ได้ศึกษามันดีพอ
- คุณสามารถเลือกจัดพอร์ตในสัดส่วนกองละ 5%-10% แล้วแต่ชอบ ถ้าจะใส่ให้สัดส่วนมากกว่านี้ แปลว่า ซื้อลืมไปเลย (แต่คุณจะทนได้ไหมเวลามันย่อตัวลงมา แบบรอบมี.ค. 64 ก่อนหน้านี้)
.
สุดท้ายนี้ Fun Manager อยากฝากไว้ว่า การลงทุนไม่จำเป็นต้องคิดอะไรให้มันซับซ้อนมาก แต่ต้องมีหลักการและเข้าใจในสิ่งที่คุณลงทุน เท่านี้ก็เพียงพอแล้วครับ
.
=========================
หากท่านชอบงานเขียนของผม ฝากกด Like กด Share ด้วยนะครับ เพื่อเป็นกำลังใจในการทำบทความต่อไป
.
ขอให้โชคดีในการลงทุน และสนุกสนานกับการเรียนรู้ครับ
.
จิรภัทร โบสุวรรณ, CFP®
.
===========================
คำเตือน : บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้ และไม่ได้ชี้นำการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลของกองทุนรวมก่อนการลงทุน เพราะผลตอบแทนในอดีตไม่ได้การันตีผลตอบแทนในอนาคตนะครับ
โฆษณา