27 มิ.ย. 2021 เวลา 12:00 • การตลาด
มาดู Smart Cart ที่ไม่ใช่ Smart Card ที่ถูกพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างไร ทั้งที่ลูกค้าก็ยังไม่เคยรู้มาก่อนว่าต้องการสิ่งๆนี้
แล้วคนไทยจะได้อะไรจากเทคโนโลยีนี้?
Credit: https://globalnews.ca/news/6180433/grocery-store-apps-smart-carts/
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราจะเห็นว่าธุรกิจค้าปลีกโดยเฉพาะโมเดิร์นเทรด มีการปรับตัวโดยการใช้เทคโนโลยีมาอำนายความสะดวกให้กับลูกค้ามากขึ้น มีการลดจำนวนพนักงานหน้าร้านลง แต่ก็เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยียังมีค่าใช้จ่ายที่สูงอยู่
แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ที่ผู้ประกอบการโดยเฉพาะร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ ต้องประสบปัญหาเรื่องของรายได้ที่ลดลงและยังต้องจ่ายค่าแรงพนักงานต่อ รวมทั้งมาตรการที่ต้องลดการสัมผัสเพื่อลดโอกาสแพร่เชื้อ จึงเป็นตัวเร่งที่ติดจรวดให้ผู้ประกอบการต้องพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อมาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
Social Distancing, https://news.yahoo.com/lesson-essential-services-during-coronavirus-120036235.html
เทคโนโลยีที่มาแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ถูกพัฒนาและนำไปใช้แล้วในต่างประเทศ ที่มาการพัฒนาโดย Grocery giant Sobeys Inc. ประเทศแคนาดา ที่เรียกว่า Sobeys smart cart หรือรถเข็นอัจฉริยะ และ Super Market Walkthrough ที่เป็นการพัฒนาของห้าง Habitat by honestbee ที่ประเทศสิงคโปร.
1
ซึ่งทั้งคู่มีการพัฒนาในรูปแบบที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก แต่มีเป้าหมายเดียวกันคือ สามารถลดการสัมผัสและลดการปฏิสัมพันธ์กับพนักงานขายและลูกค้าคนอื่นๆ สร้างความต้องการของลูกค้า และเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า ที่เป็น Lazy Economy ที่มีความหมายว่าเป็นระบบเศรษฐกิจใหม่ที่ไม่ต้องการความยุ่งยากซับซ้อนในการซื้อสินค้า หรือว่าการจับจ่ายซื้อสินค้าแบบออกแรงน้อยที่สุด
1
การเข้าไปใช้บริการของ Sobeys smart cart จะต้องทำการลงทะเบียนให้ข้อมูลของเราไปก่อน แล้วทำการสมัครเป็นสมาชิกของร้านสาขาที่จะเข้าไปใช้บริการ เมื่อเข้าไปแล้วก็ทำการเลือกรถเข็นอัจฉริยะ แล้วก็ทำการเลือกซื้อสินค้าได้ตามที่เราต้องการ รถเข็นก็จะสามารถคิดเงินค่าสินค้าได้ในทันที
Credit: https://d2cdo4blch85n8.cloudfront.net/wp-content/uploads/2019/10/Caper-Smart-Shopping-Cart-Featured-image.jpg
ในกรณีที่เราต้องการค้าสินค้าที่เราไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน รถเข็นอัจฉริยะก็สามารถนำทางเราไปหาสินค้าได้ เมื่อนำสินค้าลงในรถเข็นแล้ว ระบบ AI ก็จะทำการคำนวณว่าเราต้องการทำอาหารเมนูอะไร ซึ่งระบบก็จะบอกว่าต้องซื้ออะไรเพิ่ม แล้วรถเข็นก็จะนำทางไปหาสินค้านั้นให้ด้วย (ล้ำจริงๆของบอก)
เมื่อซื้อสินค้าได้ตามต้องการแล้ว เราก็สามารถชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตได้ที่รถเข็นเลย (ในคลิปไม่เห็นว่าสามารถสแกนจ่ายผ่านมือถือ) หลังจากนั้นก็สามารถนำสินค้ากลับบ้านได้โดยไม่ต้องผ่านพนักงาน เรื่องนี้ก็สามารถตอบโจทย์เรื่องของโอกาสการสัมผัสเชื้อลงได้มาก ที่สำคัญเทคโนโลยีนี้มีการพัฒนาและใช้มาก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด เป็นการทำตลาดที่มุ่มเน้นในการตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ได้เปลี่ยนแปลงไป
Credit: https://www.youtube.com/watch?v=2_c-9vJi4b0
คราวนี้เรามาดูกันที่ฝั่งเอเชียกันบ้างที่ประเทศสิงคโปร เขาใช้เทคโนโลยีที่ตอบสนองเรื่องเดียวกันกับ Sobeys smart cart แต่วิธีการแตกต่างกันอย่างมาก เทคโนโลยีนี้ได้ถูกพัฒนาและนำมาใช้ที่ห้างค้าปลีกที่มีชื่อเสียงของคนสิงคโปร Habitat by honestbee การเข้าไปใช้บริการมีความเหมือนกันคือ ลูกค้าต้องลงทะเบียนแล้วกรอกข้อมูลตามข้อกำหนดของร้านก่อน จึงจะสามารถเข้าไปใช้บริการได้
สิ่งที่แตกต่างคือ รถเข็นสินค้าของร้านเป็นแบบธรรมดามากๆ การเข้าไปเลือกซื้อสินค้าในร้านก็ไม่ได้มีอะไรที่ดูว่ามีเทคโนโลยีอะไรเลย มีการวางสินค้าแบบร้านทั่วไปที่ให้ลูกค้าเลือกซื้อใส่รถเข็น(ไม่อัจฉริยะเอาซะเลย) เลือกแล้ววางเท่านั้นเอง หลังจากเลือกสินค้าเสร็จแล้วก็นำสินค้าไปคิดราคาที่จุดจ่ายเงิน (Check Out)
Credit: Singapore SMART Supermarket Walkthrough
เมื่อเราเข็นรถเข็นเข้าไปในซอง หลังจากนั้นระบบ AI ก็จะทำการคำนวนข้อมูลรายการสินค้าแล้วออกมาเป็นจำนวนเงินที่เราต้องชำระ หลังจากนั้นเราก็ทำการสแกนจ่ายเงินผ่าน QR Code ความมหัศจรรย์ของเทคโนโลยีนี้ก็คือ สินค้าในรถเข็นคันนี้จะถูกส่งไปตามสถานที่ที่เราทำการลงทะเบียนไว้ ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่เรากำหนดว่าเราเดินทางไปถึงแล้ว
ทำให้เราไม่ต้องลำบากขนสินค้าที่ซื้อไปให้เมื่อย เราสามารถที่เดินเลือกซื้อสินค้าอื่นๆต่อได้อย่างสบายใจ เป็นการตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาของลูกค้าได้มาก เพราะทำให้ลูกค้ามีความสะดวกสบายขึ้น ทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้าเพิ่มได้แบบเนียนๆด้วย
1
Credit: Singapore SMART Supermarket Walkthrough
การพัฒนาเทคโนโลยีทั้ง 2 แบบเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าก็จริง แต่มุมมองในการแก้ปัญหาต่างกันเพราะจุดที่ยืนต่างกัน Sobeys พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมา ที่มีค่าใช้จ่ายที่สูงมากและลูกค้าอาจจะไม่ได้ต้องการเท่าไรนัก เพียงแต่ทำให้ดูแปลกใหม่ขึ้นมาเท่านั้นเอง
แต่สิ่งที่ Habitat by honestbee ดำเนินการคือการจัดการในกระบวนการที่เป็นปัญหากับลูกค้า ซึ่งก็คือความกังวลกับสินค้าที่ซื้อที่ต้องนำไปด้วยระหว่างเดินเลือกซื้อสินค้าอื่นๆเพิ่ม หรือจะต้องนำสินค้าไปเก็บที่รถก่อน ทำให้ผู้ประกอบการเสียโอกาสในการขายสินค้าเพิ่มได้ เพราะหลายคนก็อาจเปลี่ยนใจไม่ซื้อแล้วเมื่อมาถึงรถหรือเมื่อมีสินค้าพะรุงพะรัง
1
Credit: Singapore SMART Supermarket Walkthrough
เชื่อว่าอีกไม่นานเทคโนโลยีในรูปแบบนี้จะถูกนำมาใช้ในประเทศไทยในระยะเวลาอีกไม่นาน เพื่อตอบสนองต่อปัญหาที่กล่าวไว้ข้างต้น และสิ่งที่คนไทยจะได้ประโยชน์นอกเหนือจากความสะดวกสบายแล้ว ต้นทุนสินค้ามีโอกาสถูกลงได้อีกจากการลดค่าใช้จ่ายคงที่ของผู้ประกอบการและจากการที่มีการซื้อสินค้าเพิ่มากขึ้นต่อครั้ง
ในมุมของการทำธุรกิจร่วมกับผู้ประกอบการค้าปลีก นั่นก็คือเรื่องการพัฒนาระบบบรรจุภัณฑ์ ทั้งขนาดและปริมาณที่คุ้มค่าที่สุด รวมถึงการเขาไปร่วมทำธุรกิจขนส่งกับผู้ประกอบการรายใหญ่ นอกจากนี้แล้วผลผลิตทางการเกษตรจะต้องมีการพัฒนาที่สามารถระบุข้อมูลการตรวจสอบย้อนกลับได้ (Traceability) จึงจะทำให้สินค้าขายได้มากขึ้น
1
ที่มา: Nutrilite Traceability ตอนที่ 1 | AmwayToday
และนี่ก็คือสิ่งที่คนไทยจะได้รับจากการมาเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ของการค้าปลีก
อ้างอิง:
เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคในโลกออนไลน์โดย ดร.รุจิกาญจน์ สานนท์ Instructor, Business Administration Faculty RMUTT SME RMUTTC2 SME Online 64
Caper Smart Cart - Make Shopping Magic - YouTube
Singapore SMART Supermarket Walkthrough - YouTube
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernizationmarketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
สนใจการทำตลาดสุขภาพ ติดต่อได้ที่
รวบรวมรายการสินค้าโปรโมชั่นเด็ดๆโดนๆ สนใจคลิ๊ก: https://www.facebook.com/VROnlinepromotion4u
โฆษณา