27 มิ.ย. 2021 เวลา 23:00 • ประวัติศาสตร์
107 ปีที่แล้ว อาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์แห่งออสเตรีย ถูกลอบปลงพระชนม์ ซึ่งเป็นชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 1914 หรือ 107 ปีที่แล้ว เกิดการลอบปลงพระชนม์ อาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์แห่งออสเตรีย ขณะที่ท่านเสด็จพระดำเนินด้วยรถเปิดประทุนในกรุงซาราเยโวของบอสเนีย
โดยการลอบปลงพระชนม์เป็นฝีมือของ กาฟริโล พรินซิป ชาวบอสเนียเชื้อสายเซิร์บ สมาชิกกลุ่ม Mlada Bosna ซึ่งเป็นขบวนการปฏิวัติของคนรุ่นใหม่ในบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา โดยสมาชิกส่วนใหญ่เป็นชาวเซิร์บ
เหตุความขัดแย้งเกิดจากในปี 1908 ออสเตรีย-ฮังการี ประกาศผนวกเอาดินแดนบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิตน มันเลยสร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงให้กับนักชาตินิยมอย่างชาวเซิร์บและสลาฟใต้ในคาบสมุทรบอลข่าน
หลังเกิดเหตุลอบปลงพระชนม์ออสเตรีย-ฮังการีได้ยื่นข้อเรียกร้องแก่เซอร์เบีย โดยข้อเรียกร้องนั้นคือ การที่ให้เจ้าหน้าที่ออสเตรีย-ฮังการีมีอำนาจในดินแดนของเซอร์เบียเพื่อการสอบสวนคดีลอบปลงพระชนม์
ด้านจักรพรรดิวิลเลียมที่ 2 แห่งเยอรมนี ซึ่งเป็นพันธมิตรของออสเตรีย-ฮังการี เมื่อได้ทรงทราบการตอบรับข้อเรียกร้องของเซอร์เบีย ก็ได้มอบนโยบายให้กับกระทรวงต่างประเทศให้แจ้งออสเตรีย-ฮังการีว่า เหตุในการประกาศสงครามนั้นได้จบไปแล้วในวันที่ 28 กรกฎาคม แต่ลีโอโปลด์ กราฟ ฟอน เบิร์ชโทลด์ เสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศของออสเตรีย-ฮังการี ได้ยุยงให้จักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟประกาศสงครามกับเซอร์เบีย ซึ่งเขาสามารถยุยงได้สำเร็จ
เหตุการณ์นี้ควรยุติได้ด้วยวิถีทางการทูต แต่กลับกลายเป็นลุกลามดึงให้หลายประเทศที่เป็นพันธมิตรของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมสงคราม จนกลายเป็นมหาสงครามหรือสงครามโลกครั้งที่ 1 ตลอดการสู้รบกว่า 4 ปี มีทหารต้องเสียชีวิตกว่า 8 ล้านนาย หลังสิ้นสุดสงครามยังทำให้จักรวรรดิเยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการี และออตโตมันล่มสลายไปพร้อมกับราชวงศ์ผู้ปกครอง รวมถึงราชวงศ์โรมานอฟของรัสเซียที่ถึงกาลสิ้นสุดหลังการปฏิวัติในปี 1917 หรือที่เรารู้จักกันว่า การปฏิวัติรัสเซีย
ลงนามในสนธิสัญญาแวร์ซาย ณ พระราชวังแวร์ซาย กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
อีกทั้งในวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1919 หรือ 102 ปีแล้ว สงครามโลกครั้งที่หนึ่งยุติลง หลังการลงนามในสนธิสัญญาแวร์ซาย ณ พระราชวังแวร์ซาย กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นการยุติสถานะสงครามระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตรและจักรวรรดิเยอรมัน ซึ่งเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง อีกทั้งในสนธิสัญญากำหนดไว้อีกว่า จักรวรรดิเยอรมันต้องยอมรับผิดในฐานะผู้ก่อสงครามแต่เพียงผู้เดียว (อนุประโยคความรับผิดในอาชญากรรมสงคราม) อันได้แก่ ถูกปลดอาวุธ ยกดินแดนให้แก่ประเทศอื่น ตลอดจนต้องชดใช้ค่าปฏิกรรมสงครามให้แก่กลุ่มประเทศฝ่ายไตรภาคีจำนวนมหาศาล
ขอขอบคุณแหล่งที่มา
- วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สามารถติดตามข่าวสารเรื่องแปลกใหม่ ประวัติศาสตร์โลก ตามเทรนได้ที่
โฆษณา