28 มิ.ย. 2021 เวลา 03:38 • สุขภาพ
🌸หญ้าฝรั่น🌸ประโยชน์เยอะ ....... !!! 🌸 🌸การรับประทาน หญ้าฝรั่นทุกวันจะช่วยถนอมสายตาไม่ให้มืดมนเมื่ออายุมาก ถนอมเซลล์อันซับซ้อนในดวงตาให้สามารถใช้งานนานและทนทานกับโรคได้ดี ป้องกันเซลล์ไม่ให้ตายเพราะมีคุณสมบัติเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่เข้มแข็งอยู่ ช่วยป้องกันดวงตาจากแสงแดด และช่วยขัดขวางไม่ให้เป็นโรคจอตาเสื่อม มีสารสีขึ้นหรือโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ (ศาสตราจารย์ซิลเวีย พิสติ มหาวิทยาลัยอกิลาในอิตาลี)] นอกจากนี้ยังช่วยลดความเครียดที่จอตานอกเหนือจากจุดรับภาพเสื่อม และช่วยป้องกันโรคตาบอดกลางคืนได้
ช่วยบำรุงโลหิตในร่างกาย
ในประเทศเยอรมนีมีการใช้หญ้าฝรั่นเพื่อเป็นยาคลายกล้ามเนื้อประสาท ช่วยผ่อนคลายความเครียดของระบบประสาท
ยอดเกสรและกลีบดอกหญ้าฝรั่นช่วยรักษาภาวะซึมเศร้าได้ (หญ้าฝรั่น, กลีบดอก)
ใช้เป็นยาชูกำลัง
ช่วยบำรุงหัวใจ (ต้น)
ช่วยทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจนในพลาสม่า
ช่วยบรรเทาอาการของโรคหอบหืด (ในเยอรมัน)
ช่วยแก้อาการสวิงสวายหรืออาการรู้สึกใจหวิว มีอาการวิงเวียน คลื่นไส้ ตาพร่ามัว คล้ายจะเป็นลม
ช่วยแก้ซางในเด็ก
ใช้เป็นยาขับเหงื่อ
ดอกและรากหญ้าฝรั่นช่วยแก้ไข้ (ดอก, ราก)
ช่วยขับเสมหะ
ในประเทศเยอรมนีมีการใช้หญ้าฝรั่นเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง อาการปวดในกระเพาะอาหาร
ช่วยบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
ช่วยแก้อาการบิด (ราก)
ช่วยแก้อาการปวดท้องหลังการคลอดบุตรของสตร
ช่วยขับระดูของสตรี
ช่วยแก้อาการเกร็ง เส้นกระตุก ลดอาการกล้ามเนื้อกระตุก
ช่วยระงับความเจ็บปวด
มีการใช้สารสกัดที่ได้จากหญ้าฝรั่นที่มีตัวยาที่ชื่อว่า Swedish bitters เพื่อใช้ในการเตรียมยาบำบัดเพื่อรักษาโรคต่าง ๆ
งานการศึกษาอื่น ๆ ระบุว่าหญ้าฝรั่นอาจมีศักยภาพในคุณสมบัติทางด้านการแพทย์อีกหลายอย่าง
หญ้าฝรั่น
✅#ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของหญ้าฝรั่น
สารเคมีที่พบในหญ้าฝรั่นได้แก่ Crocin 2%, Destrose, Picrocrocin 2%, Riboflavin และน้ำมันหอมระเหย
#ประโยชน์ของหญ้าฝรั่น
🔗เชื่อว่าหญ้าฝรั่นมีสรรพคุณช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและมีอายุยืนยาว
🔗หญ้าฝรั่นมีรสขมอมหวานและมีกลิ่นหอมแบบโบราณ นำมาใช้ทำเป็นยาหอมได้
🔗หญ้าฝรั่นนิยมนำมาใช้ในการประกอบอาหาร ใช้แต่งกลิ่นและสีของอาหาร โดยจะช่วยทำให้อาหารมีสีเหลืองส้มสว่าง อย่างเช่น ลูกกวาด ขนมหวาน เค้ก พุดดิง คัสตาร์ด รวมไปถึงเหล้าและเครื่องดื่ม
🔗หญ้าฝรั่นเป็นเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอมและกลิ่นติดทนนาน เมื่อนำมาใช้ทำอาหารจึงไม่ต้องใช้มาก และนิยมนำมาใส่ในขั้นตอนสุดท้ายของการปรุงอาหาร เนื่องจากเป็นเครื่องเทศที่มีราคาแพงมากจึงมักนิยมใส่ในอาหารในโอกาสพิเศษต่าง ๆ เพื่อเฉลิมฉลอง
🔗นอกจากนำมาใช้แต่งกลิ่นอาหารแล้ว ยังใช้แต่งกลิ่นเครื่องหอมและน้ำหอมหรือน้ำอบได้อีกด้วย
🔗ใช้ในการย้อมสีผ้า โดยให้สีเหลือง
เป็นฝอยสีแดง เรียกว่า “หญ้าฝรั่น” นะครับ
หญ้าฝรั่น
หญ้าฝรั่น (ออกเสียงว่า ฝะ-หรั่น)
🌿🍁🌿🍁🌿🍁🌿🍁🌿🍁🌿🍁🌿🍁🌿🍁
#ลักษณะของหญ้าฝรั่น
#ต้นหญ้าฝรั่น จัดเป็นพืชล้มลุก ลำต้นมีความสูงประมาณ 10-30 เซนติเมตร และมีความสูงเฉลี่ยน้อยกว่า 30 เซนติเมตร มีลำต้นอยู่ใต้ดินลักษณะคล้ายหัวเผือกหรือหัวหอม มีอายุหลายปี ในประเทศไทยยังไม่มีการเพาะปลูกหญ้าฝรั่น
ต้นหญ้าฝรั่น
#หัวหญ้าฝรั่น ลักษณะคล้ายกับหัวหอม เป็นที่สะสมกักตุนแป้ง หัวเป็นเมล็ดกลมสีน้ำตาล มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4.5 เซนติเมตร และห่อหุ้มด้วยเส้นใยขนานกันหนา
ลักษณะหญ้าฝรั่น
#ใบหญ้าฝรั่น ลักษณะยาวเรียวแหลมแคบ มีสีเขียว แต่ละใบมีความยาวถึง 40 เซนติเมตร
ใบหญ้าฝรั่น
🌸ดอกหญ้าฝรั่น ก้านดอกจะแทงออกมาจากหัวใต้ดิน ลักษณะของดอกมีรูปร่างคล้ายดอกบัว ดอกมีสีม่วง มีกลีบดอก 5-6 กลีบ กลีบดอกลักษณะเรียวยาวคล้ายรูปไข่ มีเกสรขนาดยาวโผล่พ้นเหนือดอก เกสรตัวเมียมีสีแดงเข้ม ดอกอยู่ได้นานประมาณ 2-3 สัปดาห์ มักออกดอกในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
#เกสรหญ้าฝรั่น หรือที่เรียกว่า หญ้าฝรั่น คือยอดเกสรเพศเมียสีแดงสดยื่นยาวออกมาโผล่พ้นเหนือดอก มีลักษณะเป็นง่าม 3 ง่าม แต่ละง่ามมีความประมาณ 25-30 มิลลิเมตร มักเก็บดอกเมื่อตอนดอกเริ่มบาน ส่วนที่เก็บคือเกสรตัวเมีย โดย 1 ดอกจะมีเกสรอยู่เพียง 3 เส้นเท่านั้น ส่วนวิธีการเก็บก็คือเด็ดออกจากดอกแล้วเอามาทำให้แห้งด้วยการคั่ว นอกจากนี้การเก็บเกสรต้องรีบเก็บในวันเดียวเพราะว่าดอกจะโรยหมด แล้วยังต้องรีบนำมาคั่วให้แห้งในทันที ส่วนการเก็บก็ต้องใช้แต่แรงงานคนเท่านั้นประกอบกับว่าพืชชนิดนี้มักขึ้นในที่ลาดเขาซึ่งมีอยู่ไม่กี่แห่งในโลก โดยดอกหญ้าฝรั่นประมาณ 100,000 ดอก จะให้เกสรตัวเมียที่แห้งแล้วประมาณ 1 กิโลกรัม หรือที่เราเรียกว่า "หญ้าฝรั่น" นั่นเอง ซึ่งมีราคาแพงมาก ๆ และมีค่ามากกว่าทองคำเมื่อเทียบน้ำหนักกัน
ราคาเกสรหญ้าฝรั่น เริ่มต้นที่ 30,000 กว่าบาท ไปจนถึงหลายแสนบาทเชียวนะครับ💵
#สรรพคุณของหญ้าฝรั่น
ใช้เป็นยาบำบัดรักษาโรคมะเร็ง ช่วยต่อต้านมะเร็ง และต่อต้านสารก่อกลายพันธุ์
มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
ช่วยลดระดับไขมันและคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด
ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย
ช่วยทำให้เจริญอาหาร
🔗ในตำรายาสมุนไพร Farmakuya ซึ่งเป็นตำรับยาสมุนไพรโบราณระบุว่า หญ้าฝรั่นมีสรรพคุณนำมาใช้ทำเป็นทิงเจอร์ที่มีชื่อว่า Tinctura Opiicrocata
นิยมใช้กับข้าวปรุงรสต้นตำรับหรืออาหารจากต่างประเทศ เช่น ข้าวบุหรี่, ข้าวหมาก ข้าวปิลาฟ (Pilaf Rice), ข้าว Pilaus ของอินเดีย, ข้าวปาเอญ่า (Paella) ของสเปน, ข้าว Risotto Milanese ของอิตาเลียน, ซุปทะเลรวมมิตรแบบฝรั่งเศส หรือบุยยาเบส (Bouillabaisse) ด้วยการใช้หญ้าฝรั่นนำมาชงด้วยน้ำร้อนแล้วกรองเอาแต่น้ำ หรือนำมาบดให้ละเอียดและผสมลงในอาหารหรือใส่ทั้งเส้น
🔖#ข้อควรรู้เกี่ยวกับหญ้าฝรั่น
สภาพอากาศและสภาพภูมิประเทศเป็นปัจจัยสำคัญและมีผลต่อคุณภาพและปริมาณการผลิตของหญ้าฝรั่น ดังนั้นผลผลิตที่ปลูกคนละพื้นที่ จึงมีผลโดยตรงในเรื่องของคุณสมบัติและสรรพคุณของหญ้าฝรั่นที่ต่างกัน ซึ่งจากผลการวิจัยและค้นคว้าพบว่าหญ้าฝรั่นที่ปลูกในประเทศอิหร่าน มีสารพิษที่เจือปนในปริมาณที่น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับหญ้าฝรั่นจากประเทศอื่น ๆ จากข้อได้เปรียบดังกล่าวจึงสามารถใช้ต่อรองราคากับประเทศคู่ค้าอื่น ๆ ได้ และยังเป็นเกณฑ์แบ่งระดับคุณภาพ รวมถึงมาตรฐานระหว่างหญ้าฝรั่นที่ผลิตในประเทศอื่นอีกด้วย
❌#หญ้าฝรั่นปลอมก็มีเหมือนกัน เนื่องจากเป็นพืชที่มีราคาสูงมาก จึงมีผู้ฉวยโอกาสผลิตสินค้าลอกเลียนแบบขึ้นมา ด้วยการนำดอก Rose–Coloured ที่มีทั้งลักษณะและคุณสมบัติคล้ายกับหญ้าฝรั่น มาผสมปนกับหญ้าฝรั่นบดหรือผง ซึ่งเมื่อนำมาละลายน้ำดู น้ำก็จะเกิดเป็นสีเหลืองเช่นเดียวกับหญ้าฝรั่น โดยวิธีการตรวจสอบ
โดยวิธีการตรวจสอบ
♦วิธีแรก ก็คือ ให้นำหญ้าฝรั่นผงประมาณ 2-3 มิลลิกรัม มาผสมกับกรดซัลฟิวริกเข้มข้น 2-3 หยดในหลอดทดลอง แล้วทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หากเป็นหญ้าฝรั่นของแท้ก็จะเปลี่ยนจากสีแดงเข้มหรือสีแดงน้ำตาลเป็นสีแดงม่วง
♦วิธีที่สอง ให้นำหญ้าฝรั่นผงประมาณ 2-3 มิลลิกรัม นำมาบดกับกรดซัลฟิวริก 1 หยดบนกระจกแก้วแล้วนำไปส่องดูด้วยกล้องไมโครสโคป ที่มีกำลังขยาย 100 ก็จะเห็นผล หากเป็นหญ้าฝรั่นของแท้ก็จะเปลี่ยนสีฟ้า และเกิดรัศมีทรงกลดสีฟ้าอยู่รอบ ๆ
🌀#การเก็บรักษาหญ้าฝรั่น เนื่องจากสี กลิ่น และรสชาติของหญ้าฝรั่นมีคุณสมบัติที่ระเหยได้ง่าย โดยเฉพาะหญ้าฝรั่นที่เป็นผงหรือเป็นฝอย ดังนั้นจึงควรเก็บให้พ้นแสงแดดและในที่ที่ปราศจากความชื้น โดยเก็บไว้ในขวดโหลแก้วที่มีฝาปิดได้อย่างมิดชิด หรือจะเป็นขวดโลหะก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงของรสชาติและสรรพคุณของหญ้าฝรั่นนั่นเอง และที่สำคัญอย่างมากก็คือไม่ควรนำหญ้าฝรั่นมาบดเป็นผงถ้าหากยังไม่ได้ใช้งาน
🌸🌸🌸👉ผลข้างเคียงของหญ้าฝรั่น
การรับประทานหญ้าฝรั่นในปริมาณมากเกินไปอาจเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น อาจมีอาการวิงเวียนศีรษะ อาเจียน มีอาการอ่อนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนตัว ตัวสั่น ผิวเหลือง มีเลือดกำเดาไหล มีเลือดออกบริเวณเปลือกตาและริมฝีปาก ถ่ายเป็นเลือด เลือดออกภายในมดลูก และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากพบอาการในเบื้องต้นต้องรีบไปพบแพทย์โดยด่วน ทั้งนี้จากการค้นคว้าและวิจัยพบว่า ปริมาณการบริโภคหญ้าฝรั่นคือไม่ควรเกิน 1.5 กรัมต่อวัน
ขอบคุณที่มาข้อมูล
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)
storyคนอยากเล่า
28/6/64
โฆษณา