ผู้นำประเทศที่มาจากคนที่ทำงานราชการมาทั้งชีวิต เวลารับรายงานการประชุมในแต่ละเรื่อง ก็จะอวยกันแต่เรื่องดีๆ ไม่ยอมบอกความจริง กลัวการพูดเรื่องจริง จะประเมินอะไรในแต่ละเรื่อง ก็จะมีแต่ตัวเลขดีๆ ข้อความดีๆที่ฟังแล้วเจริญหู เจริญตา ไม่ยอมพูดข้อมูลที่เป็นความจริง เป็นลักษณะนิสัยของระบบราชการ (ดูจากวิธีการประเมินระบบราชการได้เลย ปากบอกประเมินเพื่อพัฒนา แต่เห็นของจริงไม่มีการพัฒนาอะไรเลย แต่ผลการประเมินก็ดีมากตลอด) ทีนี้พอเป็นสถานการณ์โควิดแบบนี้ เราจึงเห็นผู้นำประเทศที่ได้รับแต่ข้อมูลที่มีแต่เรื่องดีๆ สถานการณ์ดีๆที่พอรับมือไหว จากลิ่วล้อทั้งหลาย ที่ประเคนส่งมาให้ โดยผิดจากความเป็นจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราจึงเห็นความพล่อยๆออกจากปากผู้นำที่บอกว่า
- อีก 120 วันจะเปิดประเทศ
- เรายังมีเตียงและหมอพอเพียงรับมือไหว
- สิ้นปีนี้เราจะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านคน(100ล้านโดส)
- เราจะไม่ล๊อคดาวน์ ประชาชนต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับสถานการณ์แบบนี้
ซึ่งในความเป็นจริงทำไม่ได้ซักอย่างเพราะไม่ตรงกับสถานจริงที่เกิดขึ้น หมอที่เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันตอนนี้ต่างออกมายอมรับว่า เรามีเตียงและหมอไม่พอ วัคซีนที่ให้เร่งฉีดถูกพิสูจน์แล้วว่าหมอพร้อม แต่วัคซีนไม่พร้อม ทั้งที่จะฉีดให้ได้ตามเป้า เราต้องฉีดไม่ต่ำกว่า 4แสน5 หมื่นโดสต่อวัน แต่เราทำได้จริงแค่ 2 วันแรก ที่เหลือทำไม่ได้เพราะวัคซีนไม่มาตามนัด (อันนี้ผู้นำก็ปากเปราะอีก ว่าหมอว่าฉีดเร็วไป) ปากบอกไม่ล๊อคดาวน์ แต่พอดึกๆก็ย่องมาประกาศล๊อคดาวน์ซะงั้น ทั้งๆที่บอกประชาชนว่าเราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน แต่รัฐบาลกับไม่เคยเรียนรู้ที่จะอยู่กับโควิด การสั่งไม่ให้มีการนั่งทานอาหารในร้าน จึงดูเป็นเรื่องงี่เง่ามาก อะไรที่ทำให้คิดว่าการนั่งทานอาหารด้วยกันที่ร้านจะลดการระบาดแพร่เชื่อได้มากกว่าการนั่งทานอาหารด้วยกันที่บ้าน เดี๋ยวนี้คนไปทานอาหารที่ร้านก็ระวังตัวกันทุกคน ไม่มีใครนั่งโต๊ะร่วมกันคนแปลกหน้าหรอกครับ ประชาชนเขาก็ปรับตัว เรียนรู้กันอยู่ทุกวัน ปัญหาการรับรู้ข้อมูลของผู้นำประเทศที่เป็นข้าราชการ จึงเป็นแบบนี้ไม่เคยรับรู้ของจริง รับรู้แต่ของดีๆที่ลิ่วล้ออยากให้รู้พอเหมือนกบในกะลา คล้ายผู้อำนวยการกองสลาก ที่รับรู้แต่ข้อมูลดีๆว่าไม่มีใครขายฉลากเกินราคา ทั้งๆที่ทั้งประเทศเขารู้กันหมดว่าไม่มีใครขายฉลากเท่าที่ราคากำหนด
ข้อเสียอีกข้อของผู้นำประเทศที่เป็นข้าราชการทุกวันนี้ คือการที่ยังคงมีความรู้สึกของการเป็นเจ้าคนนายคนอยู่ ไม่ได้รู้สึกหรอกว่าข้าราชการคือผู้รับใช้ประชาชน ดังนั้นการพูดจากจึงไม่เคยมีความถ่อมตน ให้ความรู้สึกของความเท่าเทียมกับประชาชน จึงใช้น้ำเสียงที่มีความบ้าอำนาจ ข่มผู้ฟังตลอดหรือไม่ก็พูดเหมือนเล่นกับผู้ที่มีวัยที่ต่ำกว่า ใช้คำพูดไม่เคยดูกาละเทศะ ยังไม่เคยเห็นผู้นำประเทศนี้พูดจาดีๆ เป็นหลักเป็นการซะที ถ้าไม่มีบทพูดดีๆที่ทีมงานทำให้ ปล่อยให้พูดเองนี่พูดจาได้เลอะเทอะ ออกทะเล ปล่อยมุกสลึง 2สลึง นะจ๊ะ เจ๊าะแจ๊ะไปเรื่อยเปื่อยไม่เคยได้ประเด็นเป็นเรื่องเป็นราว หรือถ้าหงุดหงิด่ก็เอะอะ ทำเสียงดุ เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาแบบคนวัยทอง ชนิดที่ว่าไม่เคยเจอผู้นำประเทศแบบนี้ที่ไหนในโลก
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
