28 มิ.ย. 2021 เวลา 11:01 • ประวัติศาสตร์
“โมเฮนโจดาโร (Mohenjo-Daro)” อารยธรรมที่สาปสูญ
1
“โมเฮนโจดาโร (Mohenjo-Daro)” คืออารยธรรมที่สาปสูญในอินเดีย โดยเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในลุ่มแม่น้ำสินธุ และได้รับการกล่าวขานว่าเป็นอารยธรรมที่มีความซับซ้อนและลึกลับที่สุดอารยธรรมหนึ่ง
2
อารยธรรมโมเฮนโจดาโร มีความเจริญก้าวหน้าเมื่อเทียบกับอารยธรรมในช่วงเวลาเดียวกัน หากแต่ก็ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าวัฒนธรรมของพวกเขาเป็นอย่างไร โดยผู้คนในอารยธรรมนี้มีชื่อเรียกว่า “ฮารัปปัน (Harappan)”
1
อารยธรรมนี้ดำรงอยู่เมื่อ 3,300-1,300 ปีก่อนคริสตกาล หากแต่แตกต่างจากอารยธรรมอื่นๆ เช่น อียิปต์ เมโสโปเตเมีย หรือจีน และจากหลักฐานทางโบราณคดี ก็พบว่าชาวฮารัปปันนั้นมีความก้าวหน้าและมั่งคั่งกว่าอารยธรรมอื่นๆ ในช่วงเวลาเดียวกัน
3
ในช่วงที่รุ่งเรือง มีประชากรภายใต้อารยธรรมนี้กว่าห้าล้านคน กระจายอยู่ตามเมืองต่างๆ กว่า 1,000 แห่ง
3
หนึ่งสิ่งที่ทำให้อารยธรรมโมเฮนโจดาโรนั้นมีความลึกลับ ก็คือตัวอักษร ซึ่งไม่สามารถเลียนแบบได้ และมีเอกลักษณ์แตกต่างจากตัวอักษรของอารยธรรมอื่นๆ
นักประวัติศาสตร์ได้พยายามที่จะแกะความหมายในตัวอักษรของพวกเขา และเท่าที่พอจะตีความได้ ก็พบว่าชาวฮารัปปันน่าจะรักสงบ อยู่อย่างสันติ
จากการค้นคว้าจากหลักฐาน พบว่าชาวฮารัปปันนั้นมีสถานะเท่ากัน อยู่ในสังคมระดับเดียวกัน ทำงานอยู่ในชุมชนเดียวกัน มีผลประโยชน์เหมือนๆ กัน โดยเชื่อว่ามีผู้นำในแต่ละชุมชน
1
หนึ่งในสิ่งที่ขุดพบในโมเฮนโจดาโรเมื่อปีค.ศ.1927 (พ.ศ.2470) คือรูปแกะสลักรูปนักบวชหรือกษัตริย์ มีส่วนสูงประมาณ 17.5 เซนติเมตร ถึงแม้ว่าจะเชื่อกันว่าชาวฮารัปปันไม่มีกษัตริย์หรือนักบวชก็ตาม
เนื่องจากไม่มีการสร้างวิหารหรือพระราชวัง จึงเชื่อว่าอารยธรรมนี้ไม่มีศาสนาหรือระบบรัฐบาล และเนื่องจากไม่มีหลักฐานถึงการดำรงอยู่ของรัฐบาลหรือกษัตริย์ จึงเป็นไปได้ว่าชาวฮารัปปันนั้นปกครองตนเอง
2
จากหลักฐานที่พบ คาดว่าชาวฮารัปปันน่าจะชื่นชอบสัตว์หลายๆ ชนิด โดยดูจากศิลปวัตถุที่พบ และยังขุดพบเครื่องปั้นดินเผา และเครื่องเพชรอีกจำนวนหนึ่ง
1
นอกจากนั้น พวกเขายังมีชื่อเสียงในการทำแผ่นอิฐ ซึ่งแผ่นอิฐของชาวฮารัปปันนั้นมีคุณภาพ กันน้ำและคงทนกว่าอิฐในยุคเดียวกัน
อีกหนึ่งสิ่งที่น่าอัศจรรย์ก็คือระบบส่งน้ำ อารยธรรมโมเฮนโจดาโรมีระบบส่งน้ำที่น่าอัศจรรย์ ทำให้การเพาะปลูกนั้นงอกงาม รวมทั้งยังมีระบบการระบายน้ำ และยังพบว่าพวกเขามีโรงอาบน้ำสาธารณะ และแต่ละบ้านก็มีห้องอาบน้ำของตนเองอีกด้วย
จากหลักฐานทางโบราณคดี พบว่าอารยธรรมนี้กำเนิดเมื่อราวๆ 3,300 ปีก่อนคริสตกาล และเริ่มตกต่ำเมื่อ 2,600-1,900 ปีก่อนคริสตกาล ก่อนจะสาปสูญไปเมื่อราว 1,900-1,300 ปีก่อนคริสตกาล โดยมีสาเหตุมาจากความรุนแรงบางอย่าง
มีทฤษฎีเกี่ยวกับอารยธรรมโมเฮนโจดาโรมากมาย หนึ่งในทฤษฎีก็คือ ชาวอารยันได้เข้ามาในบริเวณนี้ และเข่นฆ่าผู้คน ทำให้ชาวเมืองต่างทิ้งเมือง
1
อีกทฤษฎีก็คือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ทำให้แม่น้ำไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ ระบบการส่งน้ำก็ใช้การไม่ได้ จึงทำให้อารยธรรมนี้ล่มสลายลงในที่สุด
1
แต่ไม่ว่าสาเหตุจะเป็นอะไร อารยธรรมนี้ก็เป็นอีกหนึ่งอารยธรรมที่น่าศึกษา และดึงดูดผู้สนใจในเรื่องราวของประวัติศาสตร์
2
โฆษณา