28 มิ.ย. 2021 เวลา 13:26 • หุ้น & เศรษฐกิจ
รู้จักกองทุน e-class มีดีอย่างไร และเคล็บลับการสร้าง 1 ล้านบาทแรก
[แนะนำกองทุน e-class จาก app SCBAM Fund Click]
#เด็กการเงิน ขอพามารีวิวกองทุนประเภท e-class ที่เหมาะสำหรับนักลงทุนทั่วไปที่ต้องการตั้งเป้าหมายลงทุนระยะยาว พร้อมวิธีเก็บเงินให้ได้ล้านแรก พร้อมตัวอย่างวิธีการลงทุนอย่างมีเป้าหมาย ที่เดียวจบ
📌สิ่งที่ได้จากบทความนี้
1. กองทุน e-class คืออะไร
2. กองทุน e-class มีอะไรบ้าง
3. เก็บเงินล้านแรกกับ e-class ใช้กลยุทธ์อะไรดี
4. นอกจาก e-class แล้วมีกองอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง
5. คำถามที่ถูกถามบ่อยเกี่ยวกับ e-class
1️⃣กองทุนประเภท e-class คืออะไร?
e-class เป็นกองทุนชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics) จากค่าย SCBAM ลงทุนผ่านแอพ SCBAM Fund Click เท่านั้น ใน Easy Invest ไม่สามารถซื้อได้นะ โดยกองทุนประเภท e-class เป็นกองทุนรวมปกตินี่แหละ แต่คัดมาจากกองทุนดัชนีต่างๆ มาทำเป็นประเภท e-class เพราะกองทุนดัชนีเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ ความแตกต่างคือ กองประเภทนี้จะไม่เก็บค่าธรรมเนียมการซื้อและการจัดการ เรียกได้ว่าประหยัดลงไปเยอะเลย
1
📌ทำไมต้องลงทุนใน e-class
1. ฟรีค่าธรรมเนียมการซื้อและการจัดการมูลค่ากองทุนรวมสูงสุด 1 ล้านบาท (รวมกำไรแล้ว)
2. เริ่มต้นลงทุนได้ตั้งแต่ 1 บาทเท่านั้น เงินน้อยก็สามารถลงทุนได้
3. สามารถใช้วิธีออมอย่างสม่ำเสมอผ่านฟังก์ชั่น DCA (Dollar Cost Average) ได้อย่างสบาย
4. ลงทุนสะดวกและง่ายผ่าน SCBAM Fund Click
2️⃣กองทุน e-class มีกองอะไรบ้าง?
กองทุน e-class นั้นส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Passive และมีกองที่หลากหลาย สามารถลงทุนได้ทั่วโลก
1. SCBDJI(E) ลงทุนในหุ้นสหรัฐอเมริกา ดัชนี Dow Jones ผ่าน SPDR Dow Jones Industrial Average ETF
2. SCBS&P500E ลงทุนในหุ้นสหรัฐอเมริกา ดัชนี S&P500 ผ่าน SDPR S&P500 ETF
3. SCBEUEQE ลงทุนในหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ผ่าน iShares STOXX Europe 600 ETF
4. SCBNK225E ลงทุนในหุ้นญี่ปุ่น ดัชนี Nikkei225 ผ่าน NEXT FUNDS Nikkei 225 ETF
5. SCBCEHE (ชนิด Hedge) ลงทุนในจีน H Share Index ผ่าน Hang Seng CHINA ENTERPRISES INDEX ETF
6. SCBCEE ลงทุนในหุ้นจีน H-Share Index ผ่าน Hang Seng CHINA ENTERPRISES INDEX ETF
7. SCBCHAE ลงทุนในหุ้นจีนเอแชร์ ดัชนี CSI300 ผ่าน ChinaAMC CSI300 Index ETF
8. SCBINDIAE ลงทุนในหุ้นอินเดีย ดัชนี Nifty50 ผ่าน iShares India 50 ETF
9. SCBKEQTGE ลงทุนในหุ้นเกาหลี ดัชนี MSCI Korea 25/50 ผ่าน iShares MSCI South Korea ETF
10. SCBCTECHE ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีจีน ผ่าน Invesco China Technology ETF
11. SCBSEMI(E) ลงทุนในหุ้นกลุ่ม Semiconductor ผ่าน VanEck Vectors Semiconductor UCITS ETF
นอกจากนี้กอง e-class ยังมีกองทุนประเภทอื่นด้วยนะ ได้แก่ ตลาดเงิน หุ้นไทย กลุ่มอุตสาหกรรมหุ้นไทย อย่าง ธนาคาร พลังงาน หรือทองคำก็มีนะ จริงๆ แล้วกอง e-class มีทั้งหมด 23 กองทุน สามารถดูกองเพิ่มเติมได้จาก infographic และที่: https://scbam.info/3qieVYb
3️⃣กลยุทธ์ล้านแรกผ่าน e-class
หากใครเป็นนักลงทุนมือใหม่ หรือนักลงทุนที่มีประสบการณ์แล้ว แล้วกำลังมองหากองทุนที่ค่า Fee ต่ำหรือแทบจะไม่เก็บเลย e-class คือคำตอบ กลยุทธ์ที่จะแนะนำคือ DCA หรือง่ายๆ คือการออมเงินเท่ากันทุกเดือน ตัวอย่าง เก็บเงินเดือนละ 5,000 ก็จะซื้อกองทุนเดือนละ 5,000 ทุกเดือนไปเรื่อย ๆ เก็บสะสมจนครบ 1 ล้านบาท แต่หากจะได้ถึง 1 ล้านจะใช้เวลาเท่าไหร่ หรือเก็บเงินเท่าไหร่ต่อเดือนดี วันนี้เราจะมาแนะนำตามด้านล่าง
หากกองทุนสามารถทำผลตอบแทนได้เฉลี่ย 5% ต่อปี
เก็บเงินเดือนละ 2,000 บาท จะใช้เวลา 22.5 ปี
เก็บเงินเดือนละ 5,000 บาท จะใช้เวลา 12.1 ปี
เก็บเงินเดือนละ 10,000 บาท จะใช้เวลา 7 ปี
เก็บเงินเดือนละ 20,000 บาท จะใช้เวลา 3.8 ปี
แต่ถ้ากองทุนสามารถทำผลตอบแทนได้เฉลี่ย 8% ต่อปี
เก็บเงินเดือนละ 2,000 บาท จะใช้เวลา 18.3 ปี
เก็บเงินเดือนละ 5,000 บาท จะใช้เวลา 10.6 ปี
เก็บเงินเดือนละ 10,000 บาท จะใช้เวลา 6.4 ปี
เก็บเงินเดือนละ 20,000 บาท จะใช้เวลา 3.6 ปี
แน่นอนว่า หากทำผลตอบแทนได้มากกว่านี้ หรือเก็บเงินได้มากกว่าในตัวอย่าง ก็สามารถไปถึงเป้าหมาย 1 ล้านแรกได้เร็วขึ้นไปอีก ‼
4️⃣เราขอแนะนำกองทุนตามธีมที่น่าสนใจเพิ่มเติมจาก SCBAM ซึ่งเด็กการเงินคัดสรรมาแล้วว่าสามารถเก็บต่อยอดจาก e-class 1 ล้านบาทได้ เช่น
1. SCBTRAVEL ลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและสันทนาการทั่วโลก อย่างสายการบิน เรือสำราญ โรงแรม แพลตฟอร์มการจองต่างๆ เหมาะกับคนที่กำลังมองหากองทุนที่ลงทุนในกลุ่มการท่องเที่ยวโดยตรง โดยลงทุนผ่าน ETF 4 กองทุน คือ TRVL, EXV9, AWAY และ JETS
2. SCBMLCAA เป็นกองใช้การวิเคราะห์เชิงปริมาณและ Machine Learning ในการคัดเลือกหุ้น โดยลงทุนในแบบ All Share ตัวอย่างหุ้นในพอร์ตก็มีอย่าง Alibaba, Tencent, Meituan และส่วนหนึ่งลงใน ETF ที่ล้อตามดัชนี CSI300
3. SCBGHC ลงทุนในอุตสาหกรรม Health Care คือ ยารักษาโรค เครื่องมือแพทย์และ Biotech โดยลงทุนผ่านกองทุนหลัก Janus Global Life Sciences Fund เป็นกองที่ทำผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีได้ไม่น้อยหน้ากองตัว Top ในตลาดเลยนะ การันตีด้วย 4 Stars Rating จาก Morningstar
4. SCBGPROP ลงทุนในกองค่าย Blackrock ชื่อ BFG World Real Estate Securities ลงทุนหุ้นอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก โดยอยู่ในสหรัฐอเมริกา 54% ญี่ปุ่น 9% ฮ่องกง 6% ประเทศแถบยุโรป แคนาดา และจีนอีก ผลตอบแทนเฉลี่ย 5 ปี ทำได้เกือบ 7%
5. SCBPOPA เป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร คือ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มขึ้นของประชากร หรือสังคมผู้สูงอายุ (Aging Population) การเติบโตของสังคมคนชนชั้นกลาง โดยกองนี้ลงทุนในกองทุนหลัก Fidelity Global Demographics Fund ตัวอย่างหุ้นในพอร์ตก็มีเครื่องสำอาง L’Oréal แบรนด์สินค้าหรูอย่าง LVMH Moet Hennessy SE, หุ้น Google และ Amazon การันตีด้วย 5 Stars Rating จาก Morningstar
6. SCBROBOA ลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ หรือเทคโนโลยีเกี่ยวกับหุ่นยนต์หรือระบบอัตโนมัติ เป็นกองประเภท Funds of funds ลงทุนในกองแม่หลายกองอย่าง Pictet-robotics, CS-ROBOTIC Equity, Global X Robotics & Artificial Intelligence ETF, ROBO Global Robotics & Automation Index ETF, iShares Automation & Robotics
5️⃣คำถามที่ถูกถามบ่อยเกี่ยวกับ e-class
1. e-class จะไม่เก็บค่าธรรมเนียมเป็นระยะเวลานานเท่าไร?
ตอบ ตลอดไป ไม่มีกำหนด
2. การจำกัดมูลค่าลงทุน 1 ล้านบาท คิดอย่างไร?
ตอบ เงินต้นบวกกำไร ถ้าเกิน 1 ล้านบาทคือลงทุนเพิ่มไม่ได้แล้ว
3. สามารถสับเปลี่ยน e-class ได้หรือไม่?
ตอบ สามารถสับเปลี่ยน e-class ไปยังชนิด e-class และที่ไม่ใช่ e-class (เช่น d-class หรือ r-class) ของกองทุนอื่นๆได้ทุกกอง
4. หากลงทุนใน e-class รวมกันครบ 1,000,000 บาท ต่อมาพอร์ตปรับเป็น 1,500,000 บาท จะมีคิดค่าธรรมเนียมส่วนที่เพิ่มขึ้นหรือไม่?
ตอบ บลจ.จะไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมการจัดการกับเงินลงทุนทั้งหมดที่อยู่ใน e-class แต่อย่างใด แม้ว่ามูลค่าเงินลงทุนจะเพิ่มขึ้นเกิน 1,000,000 แล้วก็ตาม ดังนั้นจะไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการกับเงินลงทุนทั้ง 1,500,000 บาท หรือมูลค่าใดๆ ก็ตามที่เงินลงทุนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นต่อไปอีกในอนาคต
4
5. หากมีบัญชีซื้อขายกองทุนรวมของ SCBAM อยู่แล้ว แตะต้องการซื้อผ่าน SCBAM Fund Click ต้องเปิดบัญชีใหม่หรือไม่?
ตอบ ไม่จำเป็น แต่หากเปิดบัญชีผ่านตัวแทน จะต้องเปิดบัญชีใหม่
📌สรุป
เด็กการเงินมองว่า e-class เป็นอะไรที่ควรมีจริงๆ นะ การที่ไม่มีการคิดค่าธรรมเนียม จะช่วยให้ผลตอบแทนเราเพิ่มขึ้นได้ หากเราตั้งใจว่าจะลงทุนระยะยาวอยู่แล้ว ซึ่งผลมันจะชัดเจนมากเมื่อเวลาผ่านไป กอง e-class ที่มีอยู่ตอนนี้ก็สามารถจัดพอร์ตได้อย่างสบาย เพราะมีกองให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะกองทุนที่ลงในรายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอินเดีย อเมริกา จีน หรือยุโรปเองก็ดี ตัวอย่างการจัดพอร์ตเพื่อกรณีศึกษาเท่านั้น เช่น
Core: 🇺🇸SCBS&P500E 40%, 🇨🇳SCBCHAE 10%, 🇪🇺SCBEUEQE 10%
Satellite: 🇮🇳SCBINDIAE 20%, SCBCTECHE 10%, SCBSEMI(E) 10%
พอร์ตนี้เรียกได้ว่าครบครันนะ มีทั้งที่รองรับประเทศที่เติบโตได้ดีในระยะยาวและเหมาะเป็น Core Port อย่าง จีน อเมริกา ยุโรป ขณะที่ก็มีกองที่เหมาะสำหรับ Satellite อย่าง อินเดีย หุ้นเทคโนโลยีจีน และหุ้นกลุ่ม Semiconductor ที่สามารถรองรับ Mega trends ในอนาคตและการเติบโตของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้ดี ซึ่งจริงๆ แล้ว E-class เองก็มีสินทรัพย์อื่นที่เพิ่มได้ เช่น หุ้นไทย หุ้นเกาหลี ทองคำ และอื่นๆ
**ตัวอย่างพอร์ตด้านบน เป็นเพียงการจัดเพื่อกรณีศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน ตามเป้าหมายและความเสี่ยงของนักลงทุน**
หากสนใจลงทุนใน E-class ของค่าย SCBAM สามารถเปิดบัญชีออนไลน์ได้เลยที่: https://onlineaccount-fundclick.scbam.com/
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก: https://scbam.info/3qieVYb
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน/ ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนทำการลงทุน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา หรือ บลจ.ไทยพาณิชย์ และผู้สนับสนุนการขายทุกราย SCBAM Client Relations 0 2777 7777 กด 0 กด 6
เด็กการเงินขอขอบคุณข้อมูลจาก SCBAM
เด็กการเงิน DekFinance x SCBAM
โฆษณา