11 นิสัยเล็กที่ทำให้เงินเหลือใช้และรวยในที่สุด!
การที่จะทำให้เรามั่นใจว่าเราจะมั่นคั่งได้ในอนาคตนั้น เราต้องพัฒนาทักษะและนิสัยเรื่องการจัดการเงินขั้นพื้นฐานก่อน เพื่อให้เราจัดการเงินของเราได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการสร้างนิสัยทางการเงิน ที่จะทำให้อนาคตด้านการเงินของเรานั้นสดใสและสวยงามค่ะ
1. ติดตามข้อมูลการใช้จ่ายของเรา
จะบอกว่าสำหรับใครบางคน ข้อนี้เป็นข้อที่ยากมาก สำหรับแอดมินเองก็ยากมากค่ะ แต่เราจะไม่ท้อและยอมแพ้เพราะเรื่องแค่นี้ เพราะนี้คือข้อที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้เรารู้ที่มาที่ไปของเงินเรา และสามารถทำให้เราจัดการเงินของเราได้ดีขึ้นมากๆ ยิ่งถ้าเป็นการบันทึกทุกอย่างได้จะดีมากๆ เพราะถ้าบันทึกแค่คร่าวๆอาจจะทำให้เรารู้สึกว่าไม่ได้ผลอะไรเท่าไร และจะทำให้เราหยุดไปซ่ะอย่างงั้น
เราให้ความสำคัญกับหลายๆเรื่องในชีวิต อย่าลืมให้ความสำคัญกับเรื่องเงินของเราด้วยนะคะ
2. ใช้ชีวิตประหนึ่งว่ามีเงินน้อยกว่าที่มีจริงๆ (Live below your means)
ในช่วยแรกเริ่มของการเก็บเงินหรือสร้างเนื้อสร้างตัว แน่นอนหากเราหามาได้เท่าไรก็ใช้ไปหมดเท่านั้น มันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่เราจะมีเงินออม ดังนั้นมันจึงสำคัญมากๆในการที่เราเลือก Lifestyle และการเป็นอยู่อย่างระมัดระวัง สำหรับแอดมินข้อนี้แอดมินคิดว่าก็ไม่ถึงกับต้องอดอยากอะไร เพียงแต่คำว่า “ของมันต้องมี” ในบ้างครั้งถ้าเราคิดดีๆมันอาจจะไม่ต้องมีก็ได้น่ะ อาจจะลดหรูลงมาบ้างในบ้างครั้ง แค่นี้ก็ช่วยให้เราเก็บเงินเพิ่มได้แล้วนะคะ
11 นิสัยการเงินเล็กๆที่ทำให้เงินเหลือใช้และรวยในที่สุด
3. จ่ายให้ตัวเราเองก่อนเสมอ (Pay yourself first)
ในที่นี้คือเราเก็บออมก่อนเลยเป็นอย่างแรก ก่อนที่เราจะเอาเงินเดือนหรือรายได้เราที่ได้มาไปใช้จ่ายอย่างอื่นๆ วิธีนี้เป็นวิธีที่หลายๆคนใช้แล้วได้ผลมาก ยกตัวอย่างแอดมินเองก็ใช้วิธีนี้ค่ะ คิดซ่ะว่านี่คือรายจ่ายอีกตัวนึงของเรา รายจ่ายที่สำคัญที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรสำคัญกว่ารายจ่ายตัวนี้ หากใครที่เพิ่งเริ่มแล้วไม่รู้จะหักไว้เท่าไรก็เริ่มจาก 10% ของรายได้เราไปก่อนก็ได้ค่ะ ให้แยกบัญชีไว้เลย หรือว่าจะแยกไปเก็บไว้ในกองทุนรวมก็ได้ เดี๋ยวพอเราเห็นจำนวนเงินที่มากขึ้นแอดมินเชื่อว่าเราจะอยากเก็บเพิ่มอย่างแน่นอนค่ะ
4. ตั้งงบประมาณรายจ่าย
และพยายามทำให้ได้อย่างที่ตั้งงบไว้ การตั้งงบไว้นั้นดีตรงที่ว่าเราจะรู้ขอบเขตของการใช้ เพราะถ้าเราไม่มีขอบเขตให้กับตัวเราเอง รู้ตัวอีกทีอาจจะใช้มากเกินจำเป็นก็ได้ เช่น ค่าช๊อปปิ้ง หรือการดื่มสังสรร เป็นต้น แต่ก็อย่าให้ตึงจนเกินไปเพราะไม่อย่างนั้นเราจะมีความรู้สึกท้อ และจะเลิกทำไปในที่สุด เดี๋ยวในบทต่อๆไปแอดมินจะมาแชร์วิธีการตั้งงบแบบง่ายๆและทำได้จริงให้ลองนำไปปรับใช้กันดูนะคะ
5. อย่ายืมหรือสร้างหนี้เพื่อใช้จ่าย
แน่นอนว่าการสร้างเครดิตนั้นสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีข้อกังขาเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่สิ่งที่คุณคงไม่อยากให้มันเกิดขึ้นแน่นอนก็คือการใช้ชีวิตที่ต้องพึ่งเครดิตและต้องกู้ยืมเพื่อนำเงินมาหมุนอยู่ตลอด
เมื่อใช้อย่างระมัดระวัง เครดิตเป็นเครื่องมือที่ดีในการช่วยสร้างอนาคตทางการเงินของคุณ
แล้วใช้ยังไง ที่จะสร้างอนาคตทางการเงินที่ดี สรุปง่ายๆเลยคือ ถ้าหากคุณไม่มีเงินสดในบัญชีของคุณเท่ากับมูลค่าของชิ้นใดๆก็ตามที่คุณจะซื้อด้วยการเครดิต อย่าเพิ่งซื้อมัน แทนที่จะใช้เครดิตในการซื้อสิ่งที่คุณไม่สามารถจ่ายได้ ให้ใช้เครดิตเป็นเครื่องมือที่จะทำให้คุณไม่เสียสิทธิประโยนช์ในบางเรื่องจะดีกว่าค่ะ
6. เริ่มคิดเรื่องการลงทุน
เรื่องที่สำคัญต่อมาเลยคือการลงทุน เพราะเมื่อคุณศึกษาและเรียนรู้วิธีการลงทุน ในอนาคตเงินที่คุณหามาได้จะช่วยคุณทำงานอีกแรง !
แอดมินขอแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนสนิทของการลงทุนๆที่หลายๆท่านอาจจะเคยรู้จักกันมาแล้ว นั้นก็คือคุณ ‘ดอกเบี้ยทบต้น’ น้ันเอง ถ้าเอาแบบเข้าใจง่ายๆคือการที่เงินช่วยสร้างเงินต่อไปนั้นเอง ซึ่งดอกเบี้ยนี้จะช่วยเราในการทำเงินเพิ่มนั้นเองค่ะ
ดอกเบี้ยทบต้นนี้แหละเป็นเหตุผลที่พวกเราลงทุนกัน เพื่อให้เงินได้ต่อเงินไปเรื่อยๆค่ะ
7. ตั้งเป้าหมายทางการเงิน
ในเมื่อเราอยากสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเราเอง เราต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนมากเพื่อที่เราจะได้ไปถึงเป้าหมายได้ง่ายขึ้น แล้วตั้งยังไงหล่ะ? เราสามารถปรับใช้ SMART goal ได้ค่ะ
S (Specific) - เจาะจง เช่น ตัวเลขเท่าไร ระยะเวลากี่ปี
M (Measurable) - วัดผลเป็นตัวเลขเพื่อติดตามได้
A (Achievable) - เป้าหมายที่ท้าทายแต่เป็นไปได้
R (Realistic) - ต้องเป็นเป้าหมายสมเหตุสมผล และอยู่บนความเป็นจริง
T (Time-bound) - มีกรอบเวลาชัดเจน ไม่ใช่ว่าทำไปเรื่อยๆและหวังว่าซักวัน..
วิธีการตั้งเป้าหมายแบบ SMART Goals
8. หลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตตามรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น
ข้อนี้เคยเกิดขึ้นกับแอดมินค่ะ และมันดูเหมือนจะเป็นความสามารถพิเศษของมนุษย์เราทุกคนด้วย เราทุกคนมีแนวโนมที่จะใช้จ่ายมากขึ้นตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น เราใช้จ่ายไปกับสิ่งที่โดยปกติแล้วเราก็ไม่ต้องมีมันก็ได้ แต่เพียงแต่ตอนนี้เรามีเงินมากขึ้นแล้วและจ่ายมันได้แล้วก็เท่านั้น
และเป็นเพราะข้อนี้แหละค่ะที่หลายคนรู้สึกว่า เอ๊ะ.. เราก็มีรายได้มากขึ้นหนิ แต่ทำไมยังไม่มีเงินเก็บซักทีน่ะ?
9. ป้องกันความเสี่ยงตัวคุณเองด้วยการมีเงินสำรองฉุกเฉิน
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์การเงินแบบไหนก็ตาม อยากให้คุณระลึกไว้เสมอว่าเราควรที่จะมีเงินสำรองฉุกเฉิน อย่างน้อย 3-6 เท่าของรายจ่ายต่อเดือนเราเสมอ
และเมื่อคราวฉุกเฉินมาถึงและต้องใช้เงินก้อนนั้น เราก็ต้องเติมมันกลับขึ้นมาเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่แน่นอนในอนาคตนะคะ
แล้วเหตุการณ์แบบไหนที่เรียกว่าฉุกเฉินบ้าง? เช่น โดนปลดออกจากงานกระทันหัน เหตุการณ์คล้ายๆกับช่วงโควิดที่เกิดขึ้นมั้ยคะ? ใช่ค่ะ แบบนี้แหละค่ะ หรืออาจจะบ้านหลังคารั่ว, รถที่ต้องซ่อม เป็นต้น
10. ศึกษาการจัดการการเงินส่วนบุคคลเพิ่มเติม
ยิ่งเราเรียนรู้มาเท่าไรเกี่ยวกับการจัดการการเงินของเรา เราจะมองเห็นช่องทางและโอกาสเพิ่มเติมทำให้เราไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น แอดมินว่านิสัยที่เราต้องฝึกฝนกันในข้อนี้สำคัญมากๆเลยหล่ะ
11. ค่อยทบทวนแผนการเงินเราเรื่อยๆ
เราควรที่จะทบทวนแผนการเงินเราอยู่เสมอเพื่อที่จะได้รู้ว่าเรานั้นไปถึงไหนแล้วกับแผนที่ได้วางไว้ ซึ่งข้อนี้จะทำให้เราเห็นว่าทำไมเราถึงควรทำข้อ 1 (ติดตามข้อมูลการใช้จ่ายของเรา) เพื่อที่ว่าเราจะได้มีข้อมูลเพื่อทบทวนแผนของเรานั้นเอง ลิสต์ด้านล่างนี้เป็นข้อมูลที่เราควรทบทวนทุกๆเดือนค่ะ
- รายได้ทั้งหมดที่เราหามาได้ทั้งเดือน
- รายจ่ายของเดือนนั้นๆ
- งบประมาณที่เราตั้งมา - ดูว่ามันทำได้จริงมั้ย หรือว่าควรปรับเปลี่ยน
- การชำระหนี้ - สถานะและจำนวนเงินคงค้าง
- จำนวนเงินสำรองฉุกเฉิน
- การลงทุนที่เราลงไป
- รายรับและรายจ่ายที่กำลังจะเข้ามาในเดือนถัดไป
หากเพื่อนๆทำทั้งหมดจนเคยชินแล้ว แอดมินรับรองว่าอนาคตของเราต้องสดใสแน่นอนค่ะ แอดมินก็กำลังฝึกให้เป็นนิสัยเช่นกัน แล้วเจอกันที่ปลายทางที่สดใสของเราค่ะ 😊
หากเพื่อนๆคนไหนมีข้อสงสัย หรืออยากที่จะพัฒนาการเงินของตัวเองแต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน
สามารถพูดคุยและติดตามได้ที่ช่องทาง 😊
LINE: https://lin.ee/hfYtFEV8
Youtube: https://bit.ly/3qUZpjE
Blockdit: https://bit.ly/2OylN5r
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
