Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อีกด้านหนึ่งของยุค90'
•
ติดตาม
30 มิ.ย. 2021 เวลา 06:51 • ประวัติศาสตร์
นักเรียน นักเลง part2
ระยะเวลากว่า60ปีนั้น เป็นเวลาที่นานพอที่จะกล่าวได้ว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาคู่บ้านคู่เมืองเรา ไม่ต่างอะไรกับปัญหาคอรัปชั่นโกงกินเลยทีเดียว
แล้วมันเกิดจากอะไร? ทำไมถึงต้องตีกัน?
เป็นเวลาหลายสิบปี หลายรัฐบาลและหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่างพยายามหาต้นเหตุของปัญหาดังกล่าว แต่ก็ไม่เคยมีชุดไหน หรือใครเลย ที่สามารถฟันธงได้ว่า มันเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ และเมื่อไม่รู้สาเหตุ จึงไม่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างสมบูรณ์เสียที
ด้วยความที่ผมเองเป็นคนชอบอ่าน ชอบฟังเรื่องพวกนี้ ประกอบกับพอจะมีประสบการณ์ตรงอยู่บ้าง เลยจะขอรวบรวมมูลเหตุตามที่เคยได้ยินได้อ่านมาให้ได้วิเคราะห์กันครับ
ทั้งนี้ มันเป็นการตกผลึกทางความคิดของผม ซึ่งมันอาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้นะครับ เรามาลองสรุปเป็นข้อๆกันเลย
1. การแข่งขันกีฬา
หนึ่งในสาเหตุหลักๆที่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของมหากาพย์นี้ ก็น่าจะมาจากการแข่งขันกีฬานี่แหละครับ โดยสมัยก่อนกรมพลศึกษาจะจัดให้มีการแข่งขันกีฬาของโรงเรียนต่างๆขึ้น ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องมีการกระทบกระทั่งกัน ระหว่างนักกีฬาในการแข่งขัน และกองเชียร์ทั้งสองฝ่าย ซึ่งโดยปกติแล้ว การยัวยุ แซวกัน มันก็เป็นชนวนเหตุให้เกิดการกระทบกระทั่งง่ายที่สุดอยู่แล้ว
2. กิจกรรมต่างๆ
ในอดีตนั้น แม้จะเป็นเมืองหลวง แต่กรุงเทพเองก็ไม่ได้มีสถาบันเทิงสำหรับวัยรุ่นมากมายนัก ทำให้เวลามีการจัดกิจกรรมพิเศษขึ้นตามสถานที่ต่างๆ เช่น งานคอนเสิร์ต งานแสดงสินค้า หรือแม้แต่ลานสเก็ต ก็กลายเป็นแหล่งรวมวัยรุ่นจากทั่วทั้งกรุงเทพให้มาเจอกัน วัยรุ่นเป็นวัยที่เลือดร้อน จุดเดือดต่ำ ตามฮอร์โมนที่พลุ่งพล่านอยู่แล้ว มากันเป็นหมู่คณะ เดินชนกันบ้าง มองหน้ากันบ้าง ก็ไม่แปลกที่จะมีการชกต่อยกัน
1
3. สถานที่ตั้ง การเดินทาง
สองข้อแรกนั้น นานๆจึงจะมีโอกาสได้เจอกันสักที แต่ข้อสามนี่ ต้องได้เจอกันเกือบทุกวัน แล้วถ้ายิ่งเคยมีเรื่องบาดหมางกันมาจากสองข้อด้านบน รวมถึงข้อที่จะกล่าวต่อไปด้วยแล้วล่ะก็ มีแต่ต้องพังกันไปข้างนึงเท่านั้น!!
1
4. โรงเรียนสตรี
ในหน้าประวัติศาสตร์โลกนั้น มีหลายครั้งที่สตรีเป็นมูลเหตุสำคัญในการเกิดสงคราม ซึ่งในยุทธจักรนักเรียนนักเลงเองก็ไม่ต่างกัน
เนื่องด้วยสมัยก่อน โรงเรียนจะแบ่งเป็นโรงเรียนชายล้วน หรือหญิงล้วน ที่เป็นสหศึกษานั้นมีจำนวนน้อยมาก ส่วนโรงเรียนอาชีวะยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถึงจะไม่ได้รับแต่นักเรียนชาย ก็แทบจะไม่ค่อยมีผู้หญิงเข้าเรียนอยู่แล้ว
ตรงนี้ผมมองว่าเป็นเรื่องของวัฒนธรรมบ้านเรานะครับ ไม่ใช่เรื่องอื่น อย่าเพิ่งตีความผิด ด้วยเหตุที่แบ่งแยกชายหญิงกันแบบนี้ บริเวณหน้าโรงเรียนหรือละแวกใกล้เคียงโรงเรียนสตรี ก็จะเป็นแหล่งรวมตัวของหมุ่มกระทงจากหลากหลายสถาบันเป็นเรื่องธรรมดา มองหน้ากันไป มองหน้ากันมา มีเรื่อง!!
1
เห้ย ไอ้นั่นมันไปจีบเด็กมึงว่ะ มีเรื่อง!! เห้ย เด็กกูมันทิ้งกูไปคบกับไอ้นั่นว่ะ...กระทืบแม่ง!! ก็จะประมาณนี้แหละครับ
ทั้ง4หัวข้อที่ผมสรุปมา มันเป็นสิ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นมูลเหตุหลักๆ ตั้งแต่ยุคเริ่มต้น ก่อนที่จะลุกลามบานปลายกลายมาเป็นยุคที่ต้องเรียกว่า "ฆาตกรในเครื่องแบบนักเรียน" อย่างในช่วงสิบกว่าปีหลังมานี่
มูลเหตุมันมาจากจุดเล็กๆครับ แต่ที่มันลุกลามใหญ่โต เพราะมันมีปัจจัยอย่างอื่นเข้าสนับสนุนด้วย เช่น การบอกต่อกันจากรุ่นสู่รุ่น จากเรื่องเล็กก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้น ตามอารมณ์ของผู้เล่าต่อ ,การปลูกฝังความเป็นอริที่ส่งต่อให้รุ่นหลัง , ความอยากเป็นที่ยอมรับของพี่เพื่อนน้องในสถาบัน ,ความต้องการสร้างชื่อให้สถาบัน ในการก้าวขึ้นสู่บัลลังค์จ้าวยุทธภพ เป็นต้น
สิ่งต่างๆเหล่านี้ ถูกถ่ายทอด จนกลายเป็นปลูกฝัง กลายเป็นธรรมเนียม เป็นวัฒนธรรมจากรุ่นสู่รุ่น เรียนที่นี่ เป็นอริกับที่ไหน เรารู้กันตั้งแต่ยังไม่ได้สมัครเรียนด้วยซ้ำ
ถ้าคุณจินตนาการไม่ออก เรื่องเหล่านี้ก็ไม่ต่างอะไรกับสงครามไทยกับพม่า ที่เราต้องเรียนมาตั้งแต่เด็กจนโต และถูกปลูกฝังมาโดยตลอดว่า ทัพพม่าทำสิ่งใดไว้กับบ้านเมืองของเราบ้างนั่นแหละครับ
บทต่อไป เราจะมาคุยกันถึงสถานการณ์โดยรวม รวมถึงเกร็ดต่างๆที่เกี่ยวข้องกันนะครับ
ท่านใดเคยมีประสบาการณ์ ก็มาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้ครับ ที่สำคัญ อย่าลืมกดติดตาม เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ😊
ภาพจาก Sanook.com
1 บันทึก
1
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
นักเรียน นักเลง ยุค90'
1
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย