สรุปสั้นๆจากหนังสือ
•เทคนิคหลับสนิท นอนน้อยแค่ไหนก็สดชื่น•
เราทุกคนใช้เวลานอน 1 ใน 3 ของชีวิต ดังนั้นการนอนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
เนื่องจากปัญหาจากการนอนจะส่งผลต่อสุขภาพกายและใจ
แต่ในชีวิตจริงเราหลายคนคงพบเจอปัญหามากมายจากการนอน ไม่ว่าจะเป็น
•นอนแล้วแต่ยังไม่หายเพลีย
•ตื่นเช้าลำบาก ยากที่จะลุก
•เวลานอนไม่ค่อยจะมี
•นอนเยอะเกินไปจนวันๆไม่ได้ทำอะไร
หนังสือเล่มนี้ได้พูดถึงแนวทางในการเพิ่มคุณภาพการนอนใน 4 ขั้นตอน ได้แก่
1. เพิ่มประสิทธิภาพการนอนด้วยเทคนิค หลับง่ายตื่นไว
2. เพิ่มคุณภาพการนอน พร้อมฟื้นฟูสมองและร่างกายแบบฉับไว
3. 5 วิธีงีบหลับระหว่างวันที่ทำให้ไม่เหนื่อยและไม่เพลีย
4. ตื่นนอนตี 5 ให้เป็นกิจวัตรในเวลา 2 เดือน
ขั้นตอนที่ 1 : ลดเวลาบนที่นอนด้วยการหลับง่ายตื่นไว
• หลับง่าย
เราต้องมีการตั้งเงื่อนไขให้ชัดเจนว่า เมื่อเข้าห้องนอนเห็นเตียงนอนจะต้องนอนเท่านั้น เราไม่ควรทำกิจกรรมอื่นๆในห้องนอนไม่ว่าจะเป็น การเล่นโทรศัพท์ การดูทีวี การนำอาหารเข้าไปกิน เป็นต้น
ในบางครั้งถ้ามีเรื่องวิตกกังวลหรือกลุ้มใจก่อนนอน ให้เขียนเรื่องที่ไม่สบายใจลงบนสมุดรึกระดาษ จากนั้นให้เข้านอนทันที อีกทั้งเราสามารถทำสมาธิกำหนดลมหายใจเพื่อช่วยให้การทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติทำงานเป็นปรกติซึ่งจะส่งผลให้เราสามารถหลับได้ง่ายขึ้น
• ตื่นไว
โดยปรกติการตื่นในช่วงเช้าของเราจะใช้นาฬิกาปลุกเป็นหลัก ดังบ้าง เบาบ้าง แล้วแต่ความชอบ ซึ่งในบางครั้งเราก็รู้สึกไม่อยากลุกจากที่นอน นอนกลิ้งไปกลิ้งมา รอให้นาฬิกาปลุกดังอีกครั้ง ซึ่งทำให้เสียเวลาในส่วนนี้ไปไม่มากก็น้อย ซึ่งเทคนิคที่นำมาใช้ก็คือ การตื่นตามอุดมคติของตัวเอง โดยก่อนนอนให้เรานึกเวลาที่ต้องการจะตื่นให้ชัดเจน โดยอาจจะใช้การสะกดจิตตัวเองด้วยการ ตบหมอนพร้อมนับครั้งตามเลขเวลาที่ต้องการตื่น และที่สำคัญเราต้องเชื่อไว้เสมอว่า “เราทำได้”
ขั้นตอนที่ 2 : เพิ่มคุณภาพการนอนให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูร่างกายได้เต็มที่
โดยปรกติในช่วงเวลาการนอนของเรา ร่างกายจะมีการหลั่ง Growth hormone เพื่อขจัดความเหนื่อยล้า และฟื้นฟูร่างกายที่สึกหรอ ซึ่งอายุที่เพิ่มขึ้นก็มีผลต่อการหลั่ง Growth hormone ที่น้อยลงซึ่งส่งผลทำให้เรารู้สึกนอนเยอะและยังไม่หายเพลีย อีกทั้งยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้คุณภาพการนอนลดลงไม่ว่าจะเป็น การกินอิ่มแล้วนอน / การดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอน / การหลับก่อนเข้านอน 2-4 ชั่วโมง
วิธีที่สามารถเพิ่มคุณภาพการนอนให้ดีขึ้นได้แก่ การรับประทานอาหารเสริม / การเลือกชุดนอนที่ใส่สบายไม่รัดแน่นจนเกินไป / การใช้เครื่องนอนที่มีประสิทธิภาพ / การนอนในอุณหภูมิที่เหมาะสม เป็นต้น
ขั้นตอนที่ 3 : การงีบหลับระหว่างวันเพื่อลดความอ่อนเพลียและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
มีทั้งหมด 5 วิธี โดยหลักการและการนำไปใช้คร่าวๆมีดังนี้
ซึ่งหลักการของการงีบหลับที่สำคัญคือ การทำให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลายที่สุด
ขั้นตอนที่ 4 : ตื่นนอนตี 5 ให้เป็นกิจวัตรในเวลา 2 เดือน
กฎคือ : ต้องไม่รีบร้อน
•เราต้องรู้เวลานอนเฉลี่ยเดิมของตัวเอง
•ลดเวลานอนด้วยการนอนให้เป็นเวลาและตื่นให้เร็วขึ้น
(จำกัดการลดเวลานอนสูงสุดสัปดาห์ละ 15 นาที)
•มีการทำ Wake up Check Sheet เพื่อประเมินตัวเองว่าหักโหมเกินไปรึเปล่า
•ผิดพลาดได้ไม่เกิน 2 ครั้งต่อสัปดาห์
(ห้ามพลาด 2 วันติดกัน)
และสุดท้ายคือการทำให้เป้าหมายเราชัดเจนยิ่งขึ้น โดยให้คิดไว้เสมอว่า เวลาที่เราได้เพิ่มขึ้นจากการนอนจะนำไปใช้ทำอะไร โดยอาจเชื่อมโยงเป้าหมายเรากับการให้รางวัลตัวเอง
เพื่อให้การฝึกลดระยะเวลาในการนอนมีความสนุกและน่าตื่นเต้นมากขึ้น
ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อย
ผมหวังว่าทุกคนจะนอนอยากมีคุณภาพและมีความสุขขึ้นนะครับ ^^
ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ ผู้อ่านทุกคนสามารถเสนอแนะแนวทางการเขียนได้นะครับ ผมจะนำไปปรับปรุงต่อไปครับ 😊
หากชื่นชอบผลงานสามารถติดตามเพจเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนในการสร้างสรรค์เนื้อหาดีๆ ได้นะครับ 🙏
ปล.ผู้เขียนกำลังจะเริ่มทดลองทำตามคำแนะนำของหนังสือ
ในระยะเวลา 2 เดือน จะตื่นเช้าขึ้นให้ได้ครับ คืบหน้ายังไงจะมาแชร์ให้ฟังนะครับ
- 80
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
