2 ก.ค. 2021 เวลา 06:33 • ประวัติศาสตร์
7 ชั้นเยาวราช ในสยามนี้มีเรื่องเล่าตอนที่ 369
โดย ดร. สุวิจักขณ์ ภานุสรณ์ฐากูร
ถนนเยาวราช สร้างมาตั้งแต่สมัย รัชกาลที่ 5 โดยกว่าจะสร้างถนนสายนี้เสร็จ ใช้เวลานับ 10 ปี ทั้ง ๆ ที่ถนนเส้นนี้มีความยาวเพียงกิโลเมตรเศษเท่านั้น
สาเหตุของการสร้างถนนล่าช้า เนื่องจากถนนดังกล่าว เป็นที่ตั้งบ้านเรือนของคหบดีและผู้มีอำนาจ อย่างเช่นคนภายใต้ปกครองของอังกฤษ ปะปนอยู่กับ ชาวบ้านสามัญธรรมดา
ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ เกิดการทำรางวัด ที่ไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งเกิดกรณีพิพาท ทำให้หน่วยงานราชการทั้งฝ่ายโยธาธิการเองและฝ่ายนครบาลต่างมีปัญหาที่ตกลงกันไม่ได้
กระทั่งในที่สุดพระพุทธเจ้าหลวงทรงตัดสินชี้ขาดในเรื่องของการก่อสร้างถนนสายดังกล่าวว่า หน่วยงานหน่วยไหนต้องจะรับผิดชอบตรงไหนและอย่างไร เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา ทุกอย่างจึงเป็นที่ยุติและดำเนินการจนแล้วเสร็จ
ผ่านมาหลายปีจนกระทั่ง ถึงยุคที่กรุงเทพฯ เริ่มสร้างตึกราบ้านช่องกันหนาแน่น บนถนนเยาวราชก็เช่นกัน ที่เกิดสิ่งก่อสร้าง ทันสมัยขึ้นมาอาคารหนึ่ง เรียกว่า 7 ชั้นเยาวราช โดยอาคารดังกล่าวได้ติดตั้งลิฟท์ ขึ้นเป็นตัวแรกในประเทศไทยด้วย
ผมเองไม่ทัน ตอนที่ 7 ชั้นเยาวราชเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศ แต่ผมทันตอนตึกโชคชัยซึ่งมีความสูง 25 ชั้น และ ตึกโรงแรมดุสิตซึ่งมีความสูงใกล้เคียงกัน เป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย
เรามาดูข้อมูลของตึก 7 ชั้นเยาวราชกันหน่อยครับ ว่า มีรายละเอียดและความเป็นมาอย่างไร
โรงแรมไชน่า ทาวน์ ของอมร อภิธนาคุณ นายกสมาคมชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งแต่เดิมตึกแห่งนี้ ก็เคยเป็นตึกที่สูงที่สุดคือตึก 7 ชั้น ที่มีชื่อเสียงบนถนนเยาวราช
สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2463 ซึ่งสมัยนั้นเป็นตึกที่สูงที่สุดของกรุงเทพฯแถมยังมีลิฟต์ใช้เป็นแห่งแรกของประเทศ ซึ่งเป็นแหล่งบันเทิงที่ทันสมัยที่สุดของกรุงเทพฯ สะท้อนถึงความเจริญก้าวหน้าทางธุรกิจของย่านเยาวราชในสมัยนั้น
เพราะมีทั้งบ่อนการพนัน ภัตตาคาร ห้างสรรพสินค้า เป็นทั้งโรงแรม แม้กระทั่ง "ซ่องโสเภณี" สารานุกรมไทยบันทึกเอาไว้ว่า โสเภณีบนชั้น 7 ของตึก 7 ชั้น ระหว่างปี พ.ศ.2463-2473 มีราคาค่าตัวต่อคืนที่แพงมากเมื่อเทียบกับโสเภณีทั่วไป 3-5 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับโสเภณีทั่วไปแล้วถือได้ว่าแพงมาก และสำนวน "สวรรค์ชั้น 7" ก็เกิดขึ้นในตอนนั้นเองค่ะ
ที่มา : ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช
โฆษณา