การใช้ชีวิตในบ้านที่เหมือนนรก
.
ช่วงแรกซิลเวีย และเจนนี่ สามารถใช้ชีวิตใต้ชายคาเดียวกันกับเกอร์ทรูด และลูกๆ ได้เข้ากันเป็นอย่างดี
พวกเขาร่วมร้องเพลง พูดคุย กินอาหารร่วมกัน ซึ่งสองสาวซิลเวีย เจนนี่ ก็ช่วยทำงานบ้านให้เป็นการตอบแทนความดีที่ได้รับจากครอบครัวของเกอร์ทรูด
.
ถึงแม้ว่าครอบครัวเกอร์ทรูดจะปฏิบัติกับสองสาวจากครอบครัวไลเคนส์ดีแค่ไหน แต่สภาพการอยู่อาศัยจริงๆ คือสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า “ชีวิตในบ้านหลังนี้” ไม่ได้ดีอย่างที่คิด
.
สองสาวซิลเวีย และเจนนี่ ต้องใช้ห้องนอนร่วมกับลูกๆ ของเกอร์ทรูด ซึ่งไม่มีเตียงมากพอ เด็กๆ จะต้องผลัดกันนอนพื้นสลับกันไป นี่คือจุดหนึ่งที่ครอบครัวไลเคนส์ ไม่เคยเข้าไปสังเกตสภาพความเป็นอยู่ของลูกๆ ในบ้านหลังนี้เลย แต่นั่นก็เทียบอะไรไม่ได้กับ “นรก” ที่สองสาวซิลเวีย - เจนนี่ กำลังจะต้องเผชิญ
.
เกอร์ทรูดได้รับค่าฝากเลี้ยงดูซิลเวีย และเจนนี่ เป็นจำนวนเงิน 20 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ เป็นจำนวนเงินที่อาจไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็มากพอจะทำให้เกอร์ทรูดดีใจ และมีความหมายต่อเธอเอามากๆ แถมก่อนที่ครอบครัวไลเคนส์จะออกเดินทางไปทำงาน ยังได้จ่ายเงินล่วงหน้าไว้จำนวนหนึ่งด้วย
.
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ปัญหาก็เริ่มเกิดขึ้น เพราะครอบครัวไลเคนส์ “จ่ายเงินช้า” ทำให้เกอร์ทรูดไม่พอใจอย่างแรง และความโกรธเกรี้ยวนั้นก็ไม่ได้ไปไหนไกล มันถูกระบายมาที่เด็กทั้งสอง ความโหดเหี้ยมครั้งแรกเกิดขึ้นกับเจนนี่ หลังจากที่ได้เงินช้า เจนนี่ถูกลากขึ้นบันไดแล้วฟาดด้วยเข็มขัดหนัง และตะโกนด้วยความโมโหว่า “กูจะเอาพวกมึงมาเลี้ยงเพื่ออะไร!?” แต่ในวันถัดมาเกอร์ทรูดก็ได้รับค่าตอบแทนตามที่ตกลงไว้
.
สองวันหลังจากเกิดเหตุการณ์รุนแรงต่อเจนนี่ ครอบครัวไลเคนส์ได้เดินทางมาเยี่ยมสองสาว เพื่อตรวจสอบความเป็นอยู่ของเด็กๆ แต่ทั้งซิลเวีย และเจนนี่ ก็ไม่ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ครอบครัวฟัง
.
หลังจากมีปัญหาเรื่องเงินเป็นครั้งแรก ดูเหมือนว่าทัศนคติของเกอร์ทรูดที่มีต่อเด็กๆ จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เธอยังคงไม่ชอบขี้หน้าซิลเวียและเจนนี่ ความโหดเหี้ยมครั้งที่สองเกิดขึ้นเมื่อซิลเวียกำลังเก็บขวดที่บ้านมาขายเพื่อเอาเงิน เกอร์ทรูดเลยไม่พอใจ และเรียกซิลเวียมาตีด้วยไม้พายซ้ำๆ ที่บริเวณหลังและศรีษะเพื่อลงโทษ
.
หลังจากนั้นเรื่องราวความรุนแรงต่างๆ ยิ่งทวีคูณมากขึ้น โดยมีเป้าหมายหลักคือ “ซิลเวีย” เพราะมองว่าเจนนี่เป็นโปลิโออยู่แล้ว สงสาร ไม่อยากลงมือมากมายนัก
.
ตัวอย่างเหตุการณ์สยองที่ซิลเวียต้องเผชิญจากเกอร์ทรูดมีมากมาย ทั้งถูกกล่าวหาว่าซิลเวียทำเสื้อผ้าไหม้ แล้วลงโทษด้วยการนำไม้ขีดมาเผาปลายนิ้วของซิลเวีย มีการด่าทอด้วยความเกลียดชัง “รู้ไหมว่ากูเกลียดมึงแค่ไหน กูจ้องจะหาวิธีใหม่ๆ มาทำลายชีวิตมึงตลอด”
.
ความโรคจิตของครอบครัวเกอร์ทรูดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากการทำร้ายร่างกายซิลเวีย ยังเพิ่มวิธีการอดอาหาร โดยสั่งให้ซิลเวียไปคุ้ยขยะมากินเอาเอง ความโหดร้ายเกินมนุษย์แบบนี้ หากเราพบเห็นคงต้องห้ามปรามใช่ไหมครับ แต่กับครอบครัวของเกอร์ทรูด พวกเขากลับซ้ำเติมซิลเวีย คอยร่วมวงกับแม่มาทำร้ายเพื่อระบายความเครียด และรู้สึกสนุกที่ได้เห็นเธอทรมาน แถมยังชักชวนเพื่อนมาทำร้ายซิลเวียด้วย โดยที่เจนนี่ ผู้เป็นน้องสาวได้แต่มองด้วยความเจ็บปวด ที่ช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย
.
ซิลเวียต้องทนทุกข์ทรมานในหลายรูปแบบที่เพิ่มขึ้นทุกวัน เธอถูกใช้เป็นกระสอบทราย จับทุ่มเพื่อฝึกวิชายูโด ถูกเอาบุหรี่จี้ตามร่างกาย ถูกราดด้วยน้ำเดือดและขัดแผลพุพองด้วยน้ำเกลือ ถูกจับขังไว้ที่ชั้นใต้ดิน ให้อาหารเป็นอุจจาระ รวมถึงถูกล่วงละเมิดทางเพศอย่างพิสดารเกินจะจินตนาการได้ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับเกอร์ทรูดอีก เพราะทำให้พื้นบ้านเปรอะเปื้อน เกอร์ทรูดจึงทุบตีอย่างหนัก โดยมีฉากหลังเป็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของลูกๆ ในบ้านหลังนี้
.
ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ไม่อาจหลุดรอดสายตาของชาวบ้านละแวกใกล้เคียงไปได้ หลายคนได้ยินเสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซิลเวีย แล้วตามมาด้วยเสียงหัวเราะสะใจของคนในบ้าน แต่น่าเศร้าที่พวกเขาเลือกที่จะ “ปล่อยผ่าน” เพราะไม่อยากยุ่งเรื่องคนอื่น เป็นที่รู้กันว่าบ้านของเกอร์ทรูด เป็นที่ซ่องสุมของพวกอันธพาล ยิ่งทำให้ไม่มีใครเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย
.
มีอยู่วันหนึ่ง เกอร์ทรูด ได้เรียกลูกๆ เเละอันธพาลในละแวกนั้นมาที่บ้าน แล้วสั่งให้เอาเข็มขนาดใหญ่เผาไฟ แล้วกรีดลงบนหน้าท้องของซิลเวียเพื่อสักคำว่า "I'M A PROSTITUTE AND PROUD OF IT" (ฉันเป็นโสเภณีและชั้นภูมิใจ) ซึ่งมันจะเป็นบาดแผลทางกาย และทางใจที่จะติดตัวซิลเวียไปตลอดกาล ความโหดร้ายทารุณทั้งหมดที่ซิลเวียได้พบเจอ ทำให้เธอกำลังจะตาย
.