3 ก.ค. 2021 เวลา 09:18 • ธุรกิจ
Thai central bank leads pack, buying 90 tonnes of gold over April and May
ธปท.ดอดซื้อทองคำ กว่า 90 ตัน ติดอันดับสูงที่สุดในปีนี้!!
By bullion star
1
ในช่วงต้นเดือนเมษายนของปีนี้ ธนาคารกลางของฮังการี ทำให้ตลาดทองคำตกตะลึงด้วยการประกาศซื้อทองคำจำนวนมหาศาล 63 ตันในช่วงเดือนมีนาคม และทำให้ทองคำสำรองเพิ่มขึ้นสามเท่าจาก 31.5 ตันเป็น 94.5 ตัน
ในขณะที่การซื้อทองคำจำนวน 63.5 ตัน เป็นการซื้อทองคำที่ใหญ่ที่สุดในปีนี้ โดย
ธนาคารกลางในช่วงปี 2564
ประเทศไทยอยู่ในโพลปี 2564 เนื่องจากธนาคารกลางของประเทศไทยได้ เปิดเผยต่อสาธารณชนว่า ในช่วงสองเดือนของเดือนเมษายนและพฤษภาคม ได้ซื้อทองคำจำนวน 90 ตัน
ซึ่งทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่อันดับต้นๆ ในการซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกในช่วงครึ่งแรกของปี 2564
การซื้อทองคำของธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นการสะสมทองคำระยะสั้นที่สูงที่สุด นับตั้งแต่โปแลนด์ ซื้อทองคำ 100 ตัน ในลอนดอน ช่วงครึ่งแรกของปี 2019 และนำทองคำกลับมายังกรุงวอร์ซอโดยทันที
โดยทองคำสำรอง 90 ตัน ของไทย เพิ่มขึ้น 43.5 ตัน ในเดือนเมษายน และเพิ่มขึ้นอีก 46.5 ตันในเดือนพฤษภาคม ทำให้ทองคำสำรองรวมจาก 154 ตันเป็น 244 ตัน เพิ่มขึ้น 58.4%
แม้ว่าจะมีการประกาศซื้อทองคำโปแลนด์และฮังการี ได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย แต่ก็ไม่อาจพูดถึงการซื้อทองคำ 90 ตันของไทยได้เช่นเดียวกัน การเผยแพร่ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสถานะข้อมูลสำรองระหว่างประเทศ ก็ไม่มีความคิดเห็นจากธนาคารกลางไทยว่าพวกเขาได้ซื้อทองคำจำนวนมหาศาลนี้
สถานที่แรกที่ส่งไปคือ ทองคำสำรองของไทย จากรายงานแสดงทองคำสำรองของไทยที่รายงานเป็น ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า การถือครองทองคำของไทย เพิ่มขึ้นจาก 4,948,620 ออนซ์ ในวันที่ 26 มีนาคม เป็น 6,351,976 ออนซ์ ในวันที่ 30 เมษายน ซึ่งก็คือการเพิ่มขึ้น 43.65 ตัน
ซึ่งในช่วงต้นเดือนมิถุนายน รายงานนี้แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยรายงานการถือครองทองคำจำนวน 7,862,528 ออนซ์ของทองคำ เพิ่มขึ้น 46.98 ตัน และเพิ่มขึ้นสะสม 90.6 ตัน ณ สิ้นเดือนมีนาคม
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ IFS แสดงการเปลี่ยนแปลงในการรายงานการถือครองทองคำของไทย
แต่เสียดาย ไม่มีความเห็นจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับการซื้อทองคำใหม่ที่มีขนาดใหญ่ โชคไม่ดีที่เราไม่รู้มากเกี่ยวกับทองคำที่ ธปท. ซื้อ ซึ่งไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับ
oไม่รู้ว่าทองคำที่ซื้อ จะอยู่ในรูปของทองคำแท่งหรือออนซ์ก็ตาม
oสถานที่จัดเก็บทองคำที่ซื้อ (ในประเทศไทย หรือบางทีในลอนดอน หรือสวิตเซอร์แลนด์)
oไม่รู้ว่า ของที่ซื้อมาใหม่จะถูกเก็บหรือให้ยืมไปแล้ว
เนื่องจากตลาดทองคำของธนาคารกลางเป็นความลับอย่างยิ่ง การขาดข้อมูลจึงถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับเรื่องนี้ และหากธนาคารกลางบางแห่งไม่เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ ก็เป็นเรื่องยากมากที่จะหาคำตอบข้างต้น
ธนาคารกลางไทยยังอยู่ในหมวดหมู่ของธนาคารกลางที่ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับทองคำสำรองของพวกเขา ตัวอย่างเช่น รายงานประจำปีของธนาคาร ไม่ได้เปิดเผยเกี่ยวกับโครงสร้างหรือที่ตั้งของทองคำสำรองที่มีอยู่ บางทีผู้อ่านบางคนอาจรู้
ยังไม่ทราบสาเหตุว่า ทำไมประเทศไทยจึงตัดสินใจเพิ่มการถือครองทองคำอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้นๆ สันนิษฐานได้ว่าประเทศไทยได้ซื้อทองคำจำนวนมากในเวลานี้ ด้วยเหตุผลเดียวกับที่ฮังการีและโปแลนด์
ที่ว่าทองคำ “เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและเก็บมูลค่า” และ“ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ปลอดภัยที่สุดในโลก”
1
ด้วยแรงจูงใจที่คล้ายคลึงกันธนาคารกลางของโปแลนด์กล่าว ว่าได้ซื้อทองคำ เนื่องจาก “ ทองคำเป็นสินทรัพย์กระจายความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และเป็นจุดยึดความเชื่อมั่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาของความตึงเครียดและวิกฤต” และเป็น“การเพิ่มความมั่นคงทางการเงินเชิงกลยุทธ์ของประเทศ ”.
นอกจากนี้เรายังสามารถหาแรงจูงใจที่น่าจะเป็นไปได้สำหรับการซื้อทองคำของธนาคารแห่งประเทศไทย ในเหตุผลบางประการที่เสนอโดยผู้ตอบแบบสอบถาม ในการสำรวจทองคำของธนาคารกลางโลกปี 2564
ซึ่งพบว่าธนาคารกลางทั่วโลกกำลังซื้อทองคำ เนื่องจาก
•ป้องกันในช่วงวิกฤต
•เป็นเครื่องเก็บมูลค่าระยะยาว
•เป็นตัวกระจายพอร์ตการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ
•ขาดความเสี่ยงในการผิดนัดและความเสี่ยงทางการเมือง
•มีสภาพคล่องสูง
และในขั้นวิกฤต ทองคำคือ “ความคาดหมายของการเปลี่ยนแปลงในระบบการเงินระหว่างประเทศ ”โดยธนาคารกลาง
แอดปลา
โฆษณา