ทำไม USDT ถึงมีโคตรความเสี่ยง
ถ้าอยากรู้ต้องอ่าน
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin หรือ Cryptocurrency ตัวอื่น ๆ นั้น "ความผันผวน" ถือเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลให้นักลงทุนทั้งมือใหม่และมือเก๋าต่างก็ต้องปวดหัว
.
เพราะในบางช่วงเวลานักลงทุนเพียงอยากรักษามูลค่าของพอร์ตให้นิ่งเพื่อรอจังหวะการเข้าซื้อเหรียญใหม่ ๆ ในช่วงเวลาที่ยังมาไม่ถึง
.
ด้วยปัญหานี้เลยทำให้โลกการลงทุน Cryptocurrency จำเป็นต้องมีเหรียญประเภท Stablecoin หรือ เหรียญดิจิทัลที่มีมูลค่าเกือบคงที่เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอย่าง USD นั่นเอง
.
#กำเนิด USDT
USDT เป็นเหรียญ Stablecoin ที่ถูกออกโดยบริษัท Tether ซึ่งการผลิตเหรียญป้อนเข้าสู่ระบบ blockchain โดยใช้หลักการแบบ Dollar Representative หรือก็คือ ทุก ๆ เหรียญ USDT ที่ Tether เป็นคนผลิตจะมีสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐหนุนหลังอยู่แบบ 1 : 1
.
โดย Tether เคลมว่าหากนักลงทุนที่ถือ USDT ต้องการแลกกลับมาเป็น USD ก็สามารถทำได้ ทำให้ USDT เปรียบเสมือนตัวแทนของ USD ที่อยู่บน blockchain เท่านั้นเอง
.
ปัจจุบัน Tether ได้ป้อน USDT ไปในหลาย blockchain แต่เครือข่ายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคงหนีไม้พ้น Ethereum ที่ USDT สร้างบนมาตรฐาน ERC-20 และมูลค่าตลาดของ USDT อยู่ที่ $62.81B ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาด Stablecoin เกินกว่า 50% เลยทีเดียว
.
#ปัญหาอยู่ตรงไหน
หากเราลองนึกดูดี ๆ เราจะพบว่า USDT เป็นเหรียญที่ออกโดยตัวกลางและดูแลความปลอดภัยทั้งหมดโดยบริษัท Tether แต่เพียงผู้เดียว นั่นทำให้นักลงทุนต้องมีความเชื่อมั่น หรือ Trust ใน Centralized Authority มาก ๆ
.
จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า “ USDT มีสกุลเงิน USD หนุนหลังอยู่จริงรึเปล่า ”
เพราะเราต้องมั่นใจให้ได้ว่า ทุกเหรียญ USDT ที่ป้อนเข้าสู่ blockchain จำเป็นที่มีสกุลเงิน USD หรือ สินทรัพย์อื่น ๆ ที่มีมูลค่าเท่ากันกับจำนวน USDT ที่ออกไป
.
คำถามนี้ทำให้เราต้องพึ่งพาการตรวจสอบระบบบัญชีของบริษัท Tether จากบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีอีกทีหนึ่ง
แต่ความเซอร์ไพรส์มีอยู่ว่า บริษัท Tether ไม่ได้รับการตรวจสอบมาเกือบ 3 ปีแล้ว !
.
มันจึงทำให้นักลงทุนหลายฝ่ายต่างกังวลว่า Tether อาจมีการผลิต USDT มากเกินกว่า USD ที่หนุนหลังอยู่ หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ มีความเป็นไปได้ว่า Tether อาจจะเสก USDT ขึ้นมาจากอากาศ นั่นเอง
.
ส่วนอีกคำถามหนึ่งที่ใหญ่ไม่แพ้กันสำหรับ Stablecoin แบบ USDT คือ
“ สกุลเงินดอลลาร์ที่หนุนหลัง USDT นั้นเก็บไว้ที่ไหน และ เก็บไว้เฉย ๆ รึเปล่า ”
.
เพราะการเป็น Dollar Representative ของ USDT นั่นต้องหมายถึง การนำสกุลเงิน USD ไปเก็บไว้ในตู้เซฟสักทีบนโลกใบนี้ ห้ามนำไปทำอย่างอื่น
.
เพราะหาก Tether นำไปฝากไว้กับธนาคารหรือ Money Market จะทำให้เกิดการ " Double Spending " รูปแบบหนึ่งเกิดขึ้น
.
#ลองนึกภาพดูนะครับ
หาก Tether ทำการออก USDT โดยมี USD หนุนหลังอยู่จริง ๆ แล้ว Tether ก็นำ USD ไปฝากกินดอกเบี้ยกับธนาคารสักแห่งนึง สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ธนาคารก็จะนำ USD ไปปล่อยกู้เพื่อไปใช้จ่ายในโลกปกติ ส่วน USDT ถูกนำไปใช้จ่ายในโลกของ Defi
.
พอจะเริ่มเห็นอะไรไหมครับว่ามูลค่าของ USD เท่าเดิมแต่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนหนึ่งอยู่โลกปกติ อีกส่วนอยู่บนโลก Defi
.
ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์แล้ว ค่าเงินของ USDT ควรจะต้องเฟ้อ 1 เท่าตัว เพราะเงิน 1 ก้อนเริ่มต้น (USD) ถูกนำไป Double Spending 2 รอบ
.
หากมองตามนี้ Tether ที่ดูแลการออก USDT ก็เหมือนกับกำลังทำ Private QE อัดฉีดเข้าไปในระบบนั่นเอง ..
.
จริง ๆ แล้วยังมีอีกหลายคำถามสำคัญเกี่ยวกับความเสี่ยงของ Stablecoin อย่าง USDT เช่น
“ ใครจะรับผิดชอบกับความเสียหายหาก USDT ไม่มี USD หนุนหลัง ”
“แล้วต้องฟ้องศาลที่ประเทศไหนเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม”
และอีกมากมายก่ายกอง
.
.
ทำให้จริง ๆ แล้ว เหรียญดิจิทัลประเภท Stablecoin อย่าง USDT ที่ดูเหมือนมีความเสี่ยงต่ำ แต่กลับซ่อนความโคตรความเสี่ยงเอาไว้ภายในแบบปิดมิดชิดที่หากนักลงทุนไม่เอะใจก็แทบไม่ทราบถึงความเสี่ยงตรงนี้เลย
.
แต่สำหรับนักลงทุนตัวจริงแล้ว การศึกษาก่อนการลงทุนจะทำให้เราต้องวางแผนรับมือกับความเสี่ยงไว้ทุกกรณีเสมอ ไม่เว้นแม้แต่โคตรความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับเหรียญ Stablecoin อย่าง USDT
แอด EFUNDA.
- 19
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
