Blockdit Logo (Mobile)
รีวิวซีรีส์ - FromMiMind
•
4 ก.ค. 2021 เวลา 02:15 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
เติบโตและรับพลังบวกไปกับคุณหมอออทิสติก ใน ‘Good Doctor’
สำหรับซีรีส์เรื่อง ‘Good Doctor’ ที่เราหยิบมารีวิวในวันนี้ เป็นเวอร์ชั่นญี่ปุ่นนะคะ ซีรีส์ออกฉายเมื่อปี 2018 แต่จริงๆ แล้วต้นฉบับนั้นเป็นของเกาลี ออกฉายเมื่อปี 2013 นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชั่นของอเมริกาด้วย ออกฉายเมื่อปี 2017
หากถามว่าเวอร์ชั่นไหนคือเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดเราเองก็ไม่สามารถตอบได้ค่ะ เพราะเราเองก็เคยดูแค่เวอร์ชั่นญี่ปุ่นเท่านั้น😅 แต่หากถามว่าเวอร์ชั่นญี่ปุ่นเป็นอย่างไรบ้าง เวอร์ชั่นญี่ปุ่นเป็นซีรีส์ที่ดีมากๆ เรื่องหนึ่งเลยค่ะ
‘Good Doctor’ จะเล่าเรื่องผ่าน มินาโตะ ชินโด (พระเอก) ซึ่งเป็นคุณหมอที่มีอาการของออทิสติก พระเอกได้เข้ามาเป็นแพทย์ฝึกหัดในศูนย์กุมารเวช (หรือหมอเด็กที่เรารู้จักกันทั่วไปนั่นแหละ) ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งก็จะมีเรื่องของธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยศูนย์กุมารเวชนั้นถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษว่าจะให้ยุบ เพราะถือว่าไม่ได้สร้างกำไรให้กับโรงพยาบาลเลย หนำซ้ำยังรับหมอที่เป็นออทิสติกเข้ามาทำงานอีก แต่ทั้งหมดก็ยังไม่ถือว่าเป็นประเด็นหลักของเรื่อง
ประเด็นหลักของเรื่อง คือ ชีวิตของพระเอกที่เข้ามาเป็นหมอในศูนย์กุมารเวช ด้วยความที่เป็นออทิสติก การถูกยอมรับในฐานะหมอจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก นอกจากนั้นตัวพระเอกเองก็มีเรื่องที่ต้องเรียนรู้ เพื่อที่จะกลายเป็นหมอที่ดีเช่นกัน
ซีรีส์จะเล่าให้เราเห็นการเติบโตของพระเอกผ่านแต่ละตอน แต่ละเคสการรักษา แต่ละผู้คนที่ผ่านเข้ามา ต้องบอกก่อนว่าอาการออทิสติกของพระเอกจะเป็นประเภทที่จำเก่ง พระเอกสามารถจำเคสการรักษาที่เกิดขึ้นบนโลกได้ เพียงแค่ได้อ่านมัน ถือว่าเป็นอัจฉริยะเลยก็ว่าได้ แต่ในด้านของการเข้าสังคม พระเอกแย่มากในเรื่องของการเข้าอกเข้าใจคนอื่น ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เขาต้องเรียนรู้ต่อไป
ซีรีส์มีทั้งหมด 10 ตอน ซึ่งทุกตอนจะเต็มไปด้วยมวลของความอบอุ่น ความน่ารักของเด็กๆ (และพระเอกด้วย🥰) สารภาพกันตรงนี้ว่าเราร้องไห้ทุกตอนจริงๆ เอาอยู่มาก ด้วยความที่จำนวนตอนไม่ได้เยอะมา วันนี้ขออนุญาตรีวิวไปทีละตอน และเพื่อนความน่าสนใจขอให้ชื่อตอนตามประเด็นที่เกิดขึ้นในตอนนั้นๆ นะคะ
ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้น
ตอนนี้จะเป็นตอนที่ใช้แนะนำพระเอก เราจะได้รู้ว่าออทิสติกที่พระเอกเป็นส่งผลให้ตัวพระเอกมีบุคคลิกเป็นอย่างไร โดยเล่าผ่าน 2 เคสการรักษา เคสแรกเพื่อแสดงถึงศักยภาพที่พระเอกมี เป็นการบอกว่าเรื่องของความรู้พระเอกเก่ง เคสสองเพื่อให้เห็นว่าทักษะในการเข้าใจคนอื่นของพระเอกแย่มาก
ตอนที่ 2 ความเป็นแม่
เคสในตอนนี้จะเป็นของคุณแม่วัยใส ที่ครรภ์มีปัญหา ซึ่งมีความสัมพันธ์ของแม่ลูกมาเกี่ยวข้อง มีการยกกฎหมายเยาวชนมาพูดเล็กน้อย และตอนนี้พระเอกเริ่มที่จะเรียนรู้และตั้งคำถามแล้ว ซึ่งเราชอบมากประโยคที่ถามมาก ประมาณว่า “เราไม่ได้เป็นหมอเพื่อแค่รักษาคนที่ป่วยหรอครับ?”
ตอนที่ 3 ความผิดพลาด
ตอนนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ความจริงแล้วไม่ใช่แค่พระเอกที่ต้องเรียนรู้และเติบโต ทุกตัวละครเองก็ด้วย เพราะเราทุกคนไม่ได้สมบูรณ์แบบ เราต่างก็มีเรื่องที่ต้องผ่านไปให้ได้กันทั้งนั้น
ตอนที่ 4 ความเข้าใจ
ไม่เพียงแต่ผู้ใหญ่ที่มีเหตุผลในการแสดงออกตัวตน เด็กเองก็มีเหตุผลของเขาเช่นกัน ตอนนี้เป็นตอนที่ทำให้คนดูอย่างเราต้องมานั่งคิดใหม่เลย เราว่าจริงๆ แล้วพระเอกเขาเข้าใจเด็กๆ นะ แต่ด้วยวิธีการแสดงออกของเขาจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะให้คนอื่นที่เป็นผู้ใหญ่เข้าใจ
ตอนที่ 5 ความฝัน
ครึ่งทางแล้ว แน่นอนว่าพระเอกก็เริ่มได้รับการยอมรับจากทุกคนมากขึ้น ในตอนนี้จะเล่าเรื่องความฝันของเด็กๆ ผ่านตัวละครเด็กที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กคนอื่นๆ ตอนนี้ถือเป็นอีกหนึ่งตอนที่สวยงามมากทั้งภาพ เสียง และความรู้สึก
ตอนที่ 6 ทางเลือก
เคสในตอนนี้ถือว่าเป็นเคสที่ยากที่สุดในเรื่องเลยก็ว่าได้ ซึ่งเคสนี้จะไปคล้ายกับปมของพระเอก ที่ก็เคยผ่านสถานการณ์ที่ต้องเลือกมาแล้วเช่นกัน เราจะได้รู้ที่มาที่ไปของพระเอกมากขึ้น
ตอนที่ 7 ความรัก
ตอนนี้เป็นตอนที่เราชอบที่สุด พระเอกเริ่มได้เรียนรู้ในเรื่องของความรัก เรียนรู้ว่าหมอรักษาทุกอย่างไม่ได้ การรักษาชีวิตกับการรักษาความสุขไม่เหมือนกัน
ตอนที่ 8 พี่น้อง
เป็นเคสของน้องที่ป่วย แม่จึงต้องคอยดูแลเป็นพิเศษ จนทำให้ละเลยคนเป็นพี่ไป ด้วยความสัมพันธ์แบบพี่น้อง จึงทำให้เป็นอีกตอนที่ทำให้เราเสียน้ำตาเยอะมาก และตอนนี้ยังเป็นตอนที่ปลดล็อกพระเอกกับตัวละครที่ไม่ชอบเขาด้วย
ตอนที่ 9 ความหวัง
การรักษาหายแล้วในบางครั้งก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะกลับไปใช้ชีวิตที่เราเคยมีได้ เราชอบบทที่พระเอกพูดให้กำลังใจคนไข้ที่กำลังสิ้นหวังมาก ประมาณว่า “คนชอบบอกว่าผมเป็นหมอไม่ได้ แต่ผมก็ยังเป็นได้เลย” ชอบมากๆ
ตอนที่ 10 คุณค่าของเวลา
ในแต่ละตอนเราจะเห็นว่าพระเอกสามารถที่จะเข้าใจคนอื่นได้แล้ว ตอนนี้เป็นตอนที่ยืนยันชัดเจนว่าจริง เคสในตอนนี้คือคนไข้เหลือเวลาแค่ 1 อาทิตย์ ซึ่งทุกคนสิ้นหวังมาก แต่พระเอกกลับบอกว่า 1 อาทิตย์มีตั้ง 7 วัน แล้วก็ไล่ย่อยไปเรื่อยๆ จนหน่วยเป็นวินาที มันก็เป็นวิธีการปลอบใจในแบบของเขา ซึ่งมันน่ารักมากด้วยความใสซื่อของเขาเอง และมันก็เป็นสิ่งที่ย้ำชัดว่าที่ผ่านมาเขาเรียนรู้แล้วนะ ในตอนนี้มีเรื่องของการให้ด้วย เป็นตอนที่สรุปทุกอย่าง ทั้งตัวพระเอก คุณหมอคนอื่นๆ คนไข้ และโรงพยาบาลก็ด้วย
เรื่องสุดท้ายที่ต้องพูดถึง คือ ‘เคนโตะ ยามาซากิ’ คนที่มารับบทเป็นพระเอก จะบอกว่าเขาแสดงเก่งมาก ด้วยตัวบทที่เป็นออทิสติก เราเชื่อสุดหัวใจเลยว่าเขาเป็นแบบนั้นจริงๆ แล้วด้วยความตัวบางของเขาอะ เวลาโดนดุ แล้วทำหน้ามุ้ยคือน่ารักมาก😄🥰 เอาซะลืมภาพที่เท่ห์ๆ ตอนเล่น ‘L-DK’ ไปซะหมดเลย เก่งมากๆ
ก็ประมาณนี้นะคะสำหรับรีวิว ‘Good Doctor’ เวอร์ชั่นญี่ปุ่น อย่างที่บอกไปว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่ดีมากๆ เรื่องหนึ่งเลย ซีรีส์อาจจะไม่ได้มีอะไรที่หวือหวา แต่ความรู้สึกที่ได้คือเต็มอิ่ม เราจะได้หัวเราะ ร้องไห้ไปกับทุกตัวละคร อบอุ่นหัวใจมาก ได้พลังบวกเยอะมากๆ ♥️
- Reference -
💻 Cover made via Canva
โฆษณา