3 ก.ค. 2021 เวลา 16:20 • สุขภาพ
มาสะตุ "มหาหิงคุ์" กันเถอะ!!!
งานก็เยอะ และก็ไม่ได้ว่างมากนัก
แต่ก็ต้องแบ่งเวลามาทำ
เพราะเชื่อว่า
ถ้านำมหาหิงคุ์ที่ผ่านการสะตุแล้ว มาปรุงยา
ก็จะช่วยทำให้ตำรับยานั้นๆ มีสรรพคุณที่ดียิ่งขึ้น
ในทางเภสัชกรรมแผนไทยนั้น
มีองค์ความรู้ ที่ถ่ายทอดกันมาอยู่ว่า
เภสัชวัตถุบางชนิด ที่มาจากพืช
หรือสัตว์ หรือแร่ธาตุ ก็ตาม
อาจมีความเป็นพิษเจือปนอยู่ค่อนข้างสูง
ดังนั้น จึงจำเป็นที่ต้องนำมาผ่านกรรมวิธี
การลดความเป็นพิษ หรือแปรสภาพเสียก่อน
เช่น การสะตุ การประสะ หรือการฆ่าฤทธิ์
ก่อนที่จะนำมาเตรียมปรุงยา นั่นเอง
"การสะตุ"
เป็นการใช้ความร้อน หรือ ไฟ
มาทำให้ตัวยานั้นๆ มีฤทธิ์อ่อนลง พิษน้อยลง
หรือเข้าใจได้ว่า ทำให้สะอาดขึ้น ก็ได้ครับ
#สะตุมหาหิงคุ์
"มหาหิงคุ์" ก็เป็นตัวยาที่ต้องสะตุเช่นกัน
เพราะว่าเป็นเภสัชวัตถุชนิดหนึ่ง
ที่มาจากต้นไม้ในสกุลมหาหิงคุ์
ซึ่งพบมากในแถบประเทศตะวันออกกลาง
มหาหิงคุ์ มีลักษณะเป็นชันน้ำมัน หรือ น้ำยาง
ได้มาจากส่วนรากและลำต้น ซึ่งอยู่ใต้ดิน
ดังนั้น สิ่งที่ต้นไม้ดูดซึมไป ก็มีทั้งคุณและโทษ
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ควรสะตุมหาหิงคุ์
ก่อนนำไปปรุงยา นั่นเองครับ
หากถามว่า ไม่ผ่านการสะตุ ได้ไหม?
ตอบได้ไม่เต็มปากเต็มคำนัก ว่า "คงได้"
แต่เชื่อว่า ทุกอย่างคงมีเหตุผลและที่มาที่ไป
ถ้าในตำรับบอกให้สะตุ ก็ทำไปเถอะครับ
"ทำไปด้วยกัน"
ต่อไปนี้จะเป็น "วิธีการสะตุมหาหิงคุ์" นะครับ
จะเล่าผ่านรูปภาพแต่ละภาพ
โดยบรรยายขั้นตอนต่างๆ ใต้ภาพนั้นๆ เลย
สำหรับคนที่สนใจ
ก็สามารถกดดูที่รูปภาพ ทีละภาพ
และอ่านวิธีสะตุ ได้ใต้ภาพเลยครับ
"มหาหิงคุ์"
เป็นเภสัชวัตถุ ประเภท พืชวัตถุ
มันคือ ชันน้ำมัน หรือน้ำยาง ของต้นไม้ชนิดหนึ่ง
รสเฝื่อนร้อนเหม็น
สรรพคุณ : ขับลมในลำไส้ แก้ท้องขึ้น ท้องอืดเฟ้อ
แก้แน่นท้องจุกเสียด แก้ปวดท้อง บำรุงธาตุ
ขับเสมหะ ขับผายลม แก้โรคเส้นประสาท
ช่วยย่อยอาหาร แก้ปวด แก้ชักกระตุก
ทาแก้ท้องขึ้น แก้ปวดท้องในเด็ก
"วิธีการสะตุมหาหิงค์"
1) มหาหิงคุ์ ที่ซื้อมาจากร้านขายยา
อาจมีลักษณะเป็นก้อนใหญ่ๆ สีเหลือง น้ำตาลแดง
หรือบางทีก็ถูกทุบมาให้เป็นชิ้นเล็กๆ ให้แล้ว
หากได้มหาหิงคุ์ ที่เป็นก้อนขนาดใหญ่มา
ก็ให้ทุบ โขลก ตำ ให้เป็นชิ้นเล็กๆ เสียก่อน
เพื่อให้ง่ายต่อการนำไปสะตุครับ
2) เตรียมใบกะเพราแดง เอาแบบสดนะครับ
เลือกเด็ดเอาเฉพาะส่วนใบครับ
3) นำใบกะเพราแดง ใส่หม้อ เติมน้ำลงไป
แล้วตั้งไฟจนเดือด จากนั้นปิดไฟ
4) นำมหาหิงคุ์ที่เตรียมไว้ ใส่ภาชนะ
แล้วเทเอาแต่น้ำกะเพราแดงลงไป
ขั้นตอนนี้ อาจหาตะแกรงกรองน้ำ
มาช่วยกรองเอาแต่น้ำใบกะเพราต้มด้วยก็ได้นะครับ
ส่วนใบที่เหลือ ก็ทิ้งไปครับ ไม่ได้ใช้งาน
ดูเอาได้เลย ว่าน้ำต้มกะเพราแดง มันแดงจริงๆ นะ
5) ละลายมหาหิงคุ์กับน้ำต้มใบกะเพราแดงเข้าด้วยกัน
ขยี้ๆ กวนๆ คนๆ จนกว่าจะละลายนะครับ
6) ในคัมภีร์แพทย์แผนไทย บอกว่า
ให้ละลายมหาหิงคุ์กับน้ำต้มใบกะเพราแดงนะครับ
แต่ไม่ได้บอกว่า ให้เอามหาหิงคุ์ไปตั้งไฟ
แล้วต้มไปกับน้ำกะเพราแดง
มันไม่เหมือนกันนะครับ
ดังนั้น อย่าลัดขั้นตอน
คนให้ละลายวนไป
7) เมื่อมหาหิงคุ์ละลายดีแล้ว
เทใส่ภาชนะแบนๆ จะเป็นถาดสแตนเลสก็ได้ครับ
8) นำมหาหิงคุ์ไปตากแดดให้แห้ง
จะแห้งช้า หรือ แห้งเร็ว
ก็ขึ้นอยู่กับแสงจากพระอาทิตย์แล้วครับ
9) ในรูปภาพนี้
เป็นมหาหิงคุ์ที่ตากแดดมาแล้วสองแดด
สังเกตได้ว่า เริ่มแห้งแล้ว แห้งไวกว่าที่คิด
เพราะ แดดร้อนดีเหลือเกิน
10) นี่ยังไม่แห้งดีนะครับ
แต่สามารถหยิบแล้วลอกออกมาเป็นแผ่นได้แล้ว
ยังคงมีความหนึบๆ อยู่
ต้องตากให้แห้งสนิทจริงๆ
11) ในที่สุด มหาหิงคุ์ที่ผ่านการสะตุ ก็แห้งแล้ว
เราสามารถแซะออกมาเป็นแผ่นๆ ชิ้นๆ ได้เลย
ในครั้งนี้ ผมทดลองทำอยู่สองแบบ
แบบแรก คือ เทใส่ถาดที่มีแผ่นพลาสติกปูพื้นอยู่
ซึ่งเมื่อแห้งแล้ว จะลอกออกได้ง่ายมาก
ยิ่งเทบางๆ พอแห้ง ก็ยิ่งลอกออกง่ายครับ
แบบที่สอง คือ เทใส่ถาดโดยตรง
แบบนี้เมื่อแห้งแล้ว ลอกออกยากมาก
เรียกได้ว่า ต้องใช้มีดแซะออกเลยแหละครับ
12) หน้าตาของมหาหิงคุ์ที่ผ่านการสะตุแล้ว
ก็เป็นดังในรูปภาพสุดท้ายนี้
เราก็เก็บไว้ปรุงยา ไว้ใช้เข้าตำรับยาต่อไปครับ
สุดท้ายนี้
หวังว่า ข้อมูลที่กล่าวมาในข้างต้น
จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจนะครับ
ใครยังไม่เคยลองสะตุมหาหิงคุ์
ก็ยังไม่สาย ที่จะทดลองทำดูนะครับ
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ครับ
โฆษณา