4 ก.ค. 2021 เวลา 12:58 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
🎙Tom of July🎙
โดย มิสมาต้า
ทอม ครูซ เกิดวันที่ 3 กรกฎาคม 1962
วันชาติของอเมริกา ตรงกับวันที่ 4 กรกฎาคม
รอน โควิค อดีตทหารผ่านศึกผู้สูญเสียขา และ ชีวิตวัยหนุ่ม ให้กับความรักชาติในสงครามเวียดนาม เกิดเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 1946
รอน ได้กลายเป็นนักเขียน เป็นนักกิจกรรมผู้ต่อต้านสงคราม และ ได้เขียนหนังสืออัตชีวประวัติที่มีเนื้อหาส่วนใหญ่เกี่ยวกับสงครามนั้น
จน โอลิเวอร์ สโตน ได้ขอหนังสือนี่เพื่อนำไปดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์​ แล้วนำไปสร้างจนกลายเป็นหนังที่ชนะรางวัลลูกโลกทองคำ และ รางวัลออสการ์ ในปี 1990 ในชื่อเรื่อง Born on the fourth of July หรือ เกิดวันที่ 4 กรกฎาคม
📽🎞🎥
สำหรับผู้เขียน  ได้เริ่มรู้จักพี่ทอมของสาวๆ มาตั้งแต่เรื่อง Mission impossible ภาคแรก
ซึ่งก็แน่นอนค่ะว่าตัวเองก็ได้ถูกตกด้วยความหล่อที่เรียกว่าบาดใจของพี่ทอม จนกลายเป็นโอตะของพี่เขาตั้งแต่ตอนนั้นเลย
จากนั้นก็ได้ย่างก้าวเข้าไปสู่โลกแห่งหนังของพี่ทอมในไม่ช้า ไม่ว่าจะจากในโรงภาพยนตร์​ หรือ จากหนังแผ่น อย่างเช่นเรื่อง Top gun , Far and Away , Day of thunder , หนังตระกูล Mi , A Few Good Men, Jack Reacher , Jerry Maguire และ อีกมายมายหลายเรื่อง
จนบังเอิญได้ไปเห็นแผ่นปิดของหนังสงครามเรื่องนี้เข้าไป จึงลองเข้าไปดูโดยที่ไม่ได้ศึกษา​หาข้อมูล หรือ งานรีวิวอะไรมาก่อนเลย แล้วจากภาพบนใบปิดจึงทำให้คิดไปเองว่าในหนังจะต้องสาดลูก​กระสุนใส่กันจอทะลุแน่นวล
1
นั่นก็เพราะในตอนนั้นเรายังไม่รู้จัก โอลิเวอร์ สโตน จึงไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่านี่คือผู้กำกับที่งานดีมีรางวัล  เราจึงนั่งดูหนังเรื่องนี้แบบจิตตกทั้งเรื่องจนมีอาการปวดหัวในรอบแรก และ กลับมาดูแบบค่อนข้างเข้าใจในตัวหนังมากขึ้นในรอบที่สองถึงสาม
พี่ทอมของพวกเราแสดงเป็น รอน โควิค อเมริกันหนุ่มผู้วางอนาคตให้ตัวเองเอาไว้ไกลมากๆ
รอนเป็นหนุ่มคนดัง เป็นแชมป์มวยปล้ำมหาวิทยาลัย และ รักชาติ ตามกระแสการโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลที่จูงใจให้ผู้ชายออกไปแสดงความเป็นลูกผู้ชายในสงครามของรัฐบาล ณ ดินแดนโพ้นทะเล
ลูกชายที่ครอบครัว​คอยประคบประหงม​ และ ผ่านการอบรมสั่งสอนเพื่อให้มีอนาคตในเส้นทางการเมือง เขาจึงเดินเข้าสู่สงครามนั้นด้วยจิตใจ​อันมุ่งมั่น และมองสงครามนั้นด้วยมุมมองเพียงด้านเดียว
📽🎞🎥
สงครามเวียดนามที่อเมริกันเป็นผู้พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงทั้งในสนามรบ และในทางการเมือง
พี่รอนของเราได้ถูกสงครามพรากขาของเค้าไป แล้วยังก่อบาดแผลในใจให้กับตนเองที่เกิดจากการพลาดไปยิงจนเพื่อนทหารด้วยกันตายเพราะเกิดอาการหลอน บวกกับการมองย้อนแสงจนแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร
1
บาดแผลทางร่างกายของทหารผ่านศึกทุกคนนอกจากจะเกิดความเจ็บ​ปวดที่ร่างกายแล้ว  บาดแผลที่ฝังอยู่ภายใต้จิตใจกลับทำร้ายพวกเขามากกว่าทุกสิ่ง  โดยเฉพาะรอนผู้สูญสิ้นอนาคตอันสวยหรูที่วางเอาไว้ จนกลายเป็นหมดความศรัทธาต่อรัฐบาลของตน
ในยุคที่ ฮิปปี้ ภายในสังคมอเมริกันเริ่มเติบโต สงครามจึงเป็นความไม่เข้าท่าในสายตาของคนกลุ่มนั้นที่พากันออกไปประท้วงต่อต้านสงคราม
รอน กับ ฮิปปี้ จึงมีมุมมองต่อสงครามที่ต่างกันในช่วงแรก จนกระทั่งเขาถูกเมินเฉยจากรัฐบาลที่มอบเพียงเหรียญกล้าหาญอันเป็นเศษเหล็กที่แสดงถึงสัญลักษณ์ความโง่ในสายตาของเขา และเพื่อนทหารหนุ่มทุกคน
การไม่เป็นที่ต้อนรับของหน่วยงาน สังคม และ ผู้คนรอบข้าง จึงทำให้รอนค่อยๆ ตกผลึกจนเข้าใจว่าประชาชนอย่างพวกเค้าคือเหยื่อของนายทุน และรัฐบาลที่เขาเคยเทิดทูน​
วิถีฮิปปี้ที่เคยมีอดีตเป็นทหารผ่านศึกของรอนจึงเกิดขึ้น ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา รอนได้กลายเป็นแกนนำประท้วงรัฐบาล รวมทั้งเป็นแกนนำต่อต้านสงคราม
ทุกวินาทีในหนังตั้งแต่กระสุนนัดแรกเริ่มขึ้น มิสลืมภาพความหล่อใสๆ ของพี่ทอมไปจนไม่เหลือเค้าร่างเดิมเลย
การแสดงอันทรงพลังที่พี่ทอมสื่อออกมาทุกอิริยาบท ไล่ตั้งแต่รอยยิ้ม ดวงตาที่ทอความหวัง ความโกรธ ความเสียใจ ความผิดหวัง ร้องไห้ด้วยความทุกข์​ เมามายเพื่อให้ลืมทุกอย่าง บ้าคลั่งแบบขาดสติ เผลอหื่นกาม แล้วกลับมาตั้งสติได้ จนกลายเป็นนักกิจกรรมไฮปาร์คที่ทุกคนต้องหยุด​ฟัง
ใครไม่เคยดูต้องไปดูค่ะ  แล้วเราจะลืม อีธาน ฮันท์ ไปเลย
⚽️⚽️⚽️
นี่คือผลงานที่ดีที่สุดในแง่ของหนังแนวอีโมชั่นของพี่ทอม แม้ว่าพวกเราจะเคยดูหนังขายฝีมือของเค้าอย่าง The Firm , A Few Good Men, Magnolia , Collateral หรือ Valkyrie กันมาบ้าง
1
หนังที่ว่ามาทุกเรื่องนั่นคือมัดรวมกันยังไม่เท่าบทของ รอน โควิค ในสายตาของเราเลย
ในปี 1990 ทอมชนะรางวัลลูกโลกทองคำ และ มีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาดารานำชาย
น่าเสียดายว่าในเวทีหลังซึ่งเป็นเวทีอันดับหนึ่งของวงการบันเทิงโลก พี่แกแพ้ให้กับฝีมือการแสดงของ แดเนียล เดย์ ลูอิส
ซึ่งนักวิจารณ์พากันบอกว่า การแสดงของ ทอม ครูซ เหมือนได้แชมป์ พรีเมียร์ ลีก หรือ แชมป์ยุโรป
แต่การแสดงของ แดเนียล ถือว่าเป็น Treble Champs
จะอย่างไรก็ตาม พี่ทอมของเราคือดาราที่เข้าใจศักยภาพ และจังหวะชีวิตของตัวเองอย่างน่าเหลือเชื่อ
เขาไม่ใช่ดาราสายรางวัลแบบ ทอม แฮงค์ , ไม่อินดี้แบบดิคาปริโอ , ไม่เน้นขายบุคลิกแบบ จอห์นนี เดปป์ หรือ ไม่รับงานดิบห่ามแบบ แบรต พิตต์
เค้าจึงวางโพสิชั่นให้ตนเองแบบเหมือนมีการวางแผนว่าจะรับงานแบบใดในช่วงนั้น ไม่ว่าจะเป็นหนังทำเงิน หนังกระแส และหนังขายตัวเอง ทุกอย่างคือดีสำหรับแฟนๆ และ คนที่ไม่ใช่แฟนเองก็ยังมีความยอมรับ
หรือหนังที่เขาลงเงินเป็นผู้สร้างอย่าง Elizabethtown ที่เป็นตัวแทนของความงดงาม , หนังตระกูล Mi เพื่อตอบสนองตนเอง และเป็นหนังบ็อกซ์​ออฟฟิศ​ และถึงจะเคยแอบงงๆ ว่า พีาทอมจะพาตนเองกับภรรยาไปแก้ผ้าทำอะไรในหนังของคัลท์ที่ดูยากของ สแตนลีย์ คูบริก ทำไม
แต่ทั้งหมดนี้คือตัวตนของเขาเจ้าค่ะ
My พี่ Tom สุนทรสนาน
#มิสมาต้า
โฆษณา