4 ก.ค. 2021 เวลา 13:45 • คริปโทเคอร์เรนซี
สรุป 7 เรื่องพื้นฐานที่สายเทคนิคคอลต้องรู้
.
.
มาเอาใจสายกราฟเทคนิคคอลกันบ้างดีกว่า วันนี้แอดเอาความรู้พื้นฐานสำหรับสายกราฟมาฝาก
.
โพสนี้เหมาะมากๆสำหรับใครที่เพิ่งเริ่มเข้ามาเทรดทั้ง คริปโต หุ้น หรือฟอเร็ก ก็ใช้ได้เหมือนกัน หรือใครที่เป็นเทนเดอร์มืออาชีพอยู่แล้วก็ลองอ่านทวนความรู้ได้เช่นกัน
โดย 7 เรื่องที่สายกราฟควรรู้มีดังนี้
1.แนวโน้มของกราฟ
2.Market Cycle
3.แพทเทิร์นกราฟ
4.แนวรับแนวต้าน
5.Stoploss
6.Volume
7.Indicator พื้นฐาน
.
ซึ่งในโพสนี้แอดจะขอสรุปแบบคร่าว ๆ ให้ทุดคนได้รู้จักกันก่อน ส่วนโพสเจาะลึกการใช้งานแต่ละอันเดี๋ยวแอดทำโพสแยกออกมาให้อ่านกัน
.
อย่าลืมกดไลค์ กดติดตามเอาไว้นะ จะได้ไม่พลาดสาระดี ๆ แบบนี้ทุกวันค่า
แนวโน้มของกราฟ
.
กราฟทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นกราฟหุ้น ทอง คริปโต หรือ forex จะประกอบไปด้วย 3 ช่วงใหญ่ ๆ คือ
.
Uptrend = แนวโน้มตลาดขาขึ้นแรง ๆ
Downtrend = แนวโน้มตลาดขาลงแรง ๆ
Sideway = แนวโน้มตลาดไซต์เวย์ ราคาไม่ไปไหน
Market Cycle
.
Market Cycle คือวัฐจักรของกราฟทุกชนิด คล้าย ๆ กับการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ของมนุษย์ โดย Market Cycle จะประกอบไปด้วย 4 ระยะดังนี้
.
1.ระยะสะสม หรือระยะเก็บของของนักลงทุนนั่นเอง
ซึ่งกราฟในช่วงนี้จะเป็นแนวโน้วแบบ Sideway เรียกได้ว่าราคาไม่ขึ้นไม่ลง ไม่ไปไหนเลยเหมือน Bitcoin ในปัจจุบัน ทำเอานักลงทุนรายย่อยหลาย ๆ คนเบื่อแล้วขายออกไปลงทุนในอย่างอื่นแทน เพราะไม่รู้ราคาจะวิ่งตอนไหน
.
2.ระยะขาขึ้น
กราฟในช่วงนี้จะวิ่งแรงมาก พุ่งขึ้นจนหลาย ๆ คนเริ่มจับตามอง และเข้ามาลงทุนในช่วงนี่้ เพราะหวังว่ามันจะขึ้นต่อไปอีก ช่วงนี้ลงตัวไหนก็ได้กำไร ซึ่งช่วงนี้จะอยู่ในแนวโน้ม Uptrend
.
3.ระยะแจกจ่าย หรือระยะขายทำกำไร
เมื่อกราฟขึ้นไปแรง ๆ ในระยะขาขึ้น จนไปถึงจุดหนึ่งที่คนคิดว่าราคามันสูงเกินไปแล้ว ก็จะเกิดความลังเลของนักลงทุน บางคนก็ขายทำกำไรช่วงนี้ แต่บางคนก็ช้อนซื้อ ดังนั้นกราฟในช่วงนี้ จะเป็นแนวโน้ม Sideway + Uptrend หรือ Sideway Up ยังขึ้นแต่เป็นการขึ้นที่อ่อนแรงแล้ว ดังนั้นใครที่ซื้อในช่วงนี้โอกาสติดยอดดอยสูงมาก
.
4.ระยะปรับฐาน หรือขาลง
เมื่อกราฟไม่มีแรงซื้อเข้ามาแล้วราคาก็จะค่อย ๆ ปรับตัวลง เมื่อในตลาดไม่เหลือแรงซื้อเข้ามามีแต่แรงขายกราฟก็จะดิ่งลงเหวทันทีเพราะทุกคนต้องแย่งกันขายถูกไม่งั้นก็จะขายไม่ออก โดยกราฟจะลงไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดที่คนเริ่มเห็นว่าต่ำแล้ว หรือราคาสมเหตุสมผลกับสิ่งที่ควรจะเป็นแล้วก็จะจบระยะขาลง
.
แล้ววัฐจักรนี้ก็จะวนกลับมาที่ ระยะสะสมอีกครั้งเมื่อราคาเริ่มนิ่งแล้ว ซึ่งอาจจะใช้เวลาในระยะสะสม 1 สัปดาห์ 1 เดือน หรือเป็นหลายปีก็ไม่มีใครทราบได้
แพทเทิร์นกราฟ
.
แพทเทิร์นกราฟเป็นรูปแบบกราฟที่มักจะเกิดขึ้นบ่อย ๆ ซึ่งอาจจะเป็นหรือไม่เป็นตามแพทเทิร์นี้ก็ได้ แต่สำหรับเทรดเดอร์ก็ควรจำรูปแบบกราฟนี้ให้ได้แล้วจะมีประโยชน์มาก ๆ กับการเทรดจากกราฟ
.
ยกตัวอย่างเช่น
Double Bottom / Top เป็นรูปแบบการกลับตัวของกราฟเมื่อกราฟชนแนวรับหรือต้นสองครั้งแต่ไม่ผ่าน แสดงว่ามีโอกาสกลับไปอีกทางนึง
.
ใครที่อยากดูแพทเทิร์นกราฟอื่น ๆ เพิ่มเติมดูได้ที่นี่เลย : https://www.facebook.com/stockerday/posts/132381072120880
2
แนวรับแนวต้าน
.
เป็นการลากแนวสำคัญที่มักใช้ในการดูจุดเข้าซื้อหรือจุดทำกำไร ซึ่งสามารถดูแนวรับแนวต้านได้หลายแบบ แต่ที่นิยมกันมากที่สุดคือการดูด้วยจุดกลับตัวที่สำคัญก่อนหน้า หรือจุดที่ีราคามาชนแนวนี้บ่อย ๆ แล้วกลับตัว
.
โดยสามารถดูการหาแนวรับแนวต้านเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย : https://www.facebook.com/stockerday/posts/132381072120880
Stop loss
.
Stop loss เป็นเครื่องมือหนึ่งในการบริหารความเสี่ยงโดยกำหนดจุดที่ต้องการทำกำไร หรือตัดขาดทุนไว้ เพื่อไม่ให้ได้กำไร หรือขาดทุนมากกว่าจุดที่ ตั้ง Stop loss ไว้
.
ดูวิธีการตั้ง Stop loss แบบละเอียดได้ที่นี่เลย : https://www.facebook.com/stockerday/posts/183857836973203
Volume
.
1.Fake หรือ ขึ้นทิพย์ / ลงทิพย์
คือ แท่งเทียนยาว แต่ Volume บาง
โดยปกติแล้วแท่งเทียน กับ Volume ควรจะไปในทิศทางเดียวกัน แต่ถ้าสวนทางกันแบบแสดงว่าเป็นแท่งที่ไม่แข็งแรงพร้อมจะกลับตัวได้ตลอด
.
2.Trend หรือ ขึ้นจริง / ลงจริง
คือแท่งเทียนยาว และ Volume เยอะด้วย
โดยถ้าเกิดลักษณะแบบนี้แสดงว่าคนส่วนใหญ่คิดเห็นไปในทางเดียวกัน เป้นแท่งเทียนที่แข็งแรง
.
3.Squat หรือ ย่อเตรียมโดด
คือแท่งเทียนสั้น แต่ Volume เยอะ
การเกิดลักษณะแบบนี้ แปลว่ากำลังสะสมพลังอยู่สังเกตว่าการเกิดแบบนี้ แท่งเทียนจะสั้นแต่ไส้เทียนจะยาว แสดงว่ามีการลากราคากัน มีคนซื้อหรือเทขายช่วงนั้นเยอะ แต่ราคาไม่ค่อยไปไหน แต่แท่งต่อไปก็ไม่แน่
.
4.Weak หรือ ซึมๆ
คือแท่งเทียนสั้น และ Volume น้อย
การเกิดลักษณะแบบนี้ ส่วนใหญ่จะเกืดในตลาดที่ Sideway อยู่ คือคนตัดสินใจยังไม่ได้ว่ามันควรจะขึ้นหรือลงดังนั้นราคาก็จะไม่ค่อยไปไหนนัก
.
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/stockerday/posts/188032089889111
Indicator พื้นฐาน
.
อินดิเคเตอร์เป็นเครื่องมือที่ดีในการช่วยให้เราสามารถตัดสินใจเข้าซื้อ หรือขายได้ดีขึ้น ซึ่งนิยมใช้ในหมู่เทรดเดอร์สายเทคนิคคอลกัน ยกตัวอย่าง 3 ตัวหลัก ๆ ที่นิยมใช้ เช่น
.
1.CDC ActionZone v3 2020
เป็นอินดิเคเตอร์ไว้บอกจุดเข้าซื้อหรือขายแบบง่ายๆ โดยถ้ากราฟเปลี่ยนจากเป็นโซนสีแดง เป็นสีเขียวให้เข้าซื้อตรงนั้น แต่ถ้าสีเขียว เปลี่ยนเป็นสีแดงให้ขายที่จุดนั้น
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/stockerday/posts/142725087753145
.
2.RSI
เป็นอินดิเคเตอร์ไว้ดูโมเมนตัมการซื้อขาย ว่าตอนนี้มีปริมาณการขายที่มากเกินไปหรือซื้อมากเกินไป ถ้ากราฟสูงกว่า 70% แสดงว่าซื้อเยอะเกินไปแล้ว แต่ถ้าต่ำกว่า 30% แสดงว่าขายเยอะเกินไปแล้ว
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/stockerday/posts/169652338393753
.
3.Macd
เป็นอินดิเคเตอร์ที่ไว้ดูว่ากราฟตอนนี้เป็นขาขึ้นหรือลง โดยถ้ากราฟอยู่สูงกว่า 0.00 แสดงว่าอยู่แนวโน้มขาขึ้น ถ้าน้อยกว่าแสดงว่าขาลง
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/stockerday/posts/196982762327377
1
สิ้นสุดการรอคอย!!
เปิด #preorder เสื้อ Stocker Day ฉลองครบ 70,000 like 🎉
.
เปิดให้สั่งจองแล้วกับเสื้อเพจ Stocker Day คอลเลคชั่นแรก ที่แอดและลูกเพจร่วมกันออกไอเดียจนเกิดเป็นเสื้อลายน่ารัก ๆ แบบนี้ออกมา
.
เสื้อเป็นเสื้อยืด คอกลม ผ้า Cotton แท้ 100%
สกรีนแบบ Digital สีสวย ใส่สบาย
.
มีให้เลือกทั้งเสื้อสีดำ และสีขาว
มีไซต์ S M L XL XXL
.
ราคาเพียงตัวละ 399 บาท (ไม่มีค่าส่งเพิ่ม)
#พิเศษ สั่งสองตัวขึ้นไป เหลือเพียงตัวละ 350 บาทเท่านั้น!!
.
ด่วนน้า แอดจะเปิดรับออเดอร์ตั้งแต่วันที่ 3-10 กรกฏาคม 64
มีจำนวนจำกัดแค่ 500 ตัวเท่านั้นใครสั่งเกินกว่านี้ไม่มีของแล้วนะ
.
และแอดไม่ทำลายนี้เพิ่มแล้วด้วยนะบอกก่อน อยากให้มันมีจำนวนจำกัดจริง ๆ ไม่ Mint มาเพิ่ม แต่ Burn ทิ้งอาจจะมีบ้าง 5555
.
ใครที่สนใจ อยากจะสนับสนุนแอดมินให้มีกำลังใจ
ทำคอนเทนต์ดี ๆ ออกมาให้ทุกคนอีกต่อ ๆ ไป
.
สามารถสั่งจองได้ที่ : https://forms.gle/2eE387772pW5sUwi8
หรือถ้ามีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ inbox เพจเลย
รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่โพสนี้เลย : https://www.facebook.com/stockerday/posts/210818220943831
โฆษณา