5 ก.ค. 2021 เวลา 04:32 • กีฬา
The Rock and Stone Cold: ก่อน Wrestlemania 15 ความเป็นพี่น้องมันอยู่ในสายเลือด
(บทความแปลจากส่วนหนึ่งในหนังสือ The Rock Says)
:
แฟนๆมวยปล้ำยุค90-2000 ต้องจำกันได้แน่นอนว่าถ้าพูดถึงพระเอกของ WWE (หรือ WWF สมัยนั้น) ในยุค Attitude นั้นต้องมีชื่อของ The Rock และ Stone Cold อยู่แน่นอน โดย “Stone Cold” Steve Austin นั้นย้ายจาก WCW มาอยู่กับทาง WWE เมื่อปี 1996 และ The Rock ก็เริ่ม debut กับทาง WWE ในปีเดียวกันอีกด้วย
ทั้งคู่มีบทที่ถูกวางอยู่ด้วยกันหลายหนรวมไปถึงการเจอกันในศึกใหญ่ที่สุดแห่งวงการมวยปล้ำอย่าง Wrestlemania อีกด้วย โดยทั้งคู่เจอกันแบบ ตัวต่อตัว ใน Wrestlemania ภึง 3 ครั้ง (15,17 และ 19) และวันนี้เราจะมาพูดถึงการเจอกันครั้งแรกใน Wrestlemania ครั้งที่15 กันก่อนครับ
Wrestlemania 15 จัดในเดือนมีนาคมปี 1999 ที่สนามเฟิส ยูนิออน เซ็นเตอร์ ฟิลาเดเฟีย, รัฐเพนซิลเวเนีย The Rock เคยเล่าไว้ในหนังสือของตัวเองที่ชื่อ “The Rock Says” ไว้ว่า “คืนก่อน Wrestlemania ผมนอนไม่หลับเลย ผมคิดแค่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้” “ผมไม่อยากรบกวนภรรยาของผม Dany (ภรรยาเก่า) ผมเลยไปอยู่ที่โซนรับแขกของโรงแรมแล้วก็ชมวิวของเมืองไปพร้อมกับคิดถึงเรื่องของวันพรุ่งนี้ว่าจะต้องเป็นคืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตผม”
“ผมคิดถึงอะไรหลายอย่างมาก ทั้งท่าที่เตรียมไว้ใช้ จังหวะต่างๆที่ผมคิดว่าทำออกมาได้ดี คือผมคิดภาพทุกอย่างของวันพรุ่งนี้ไว้หมดเลย.
ณ จุดนี้ ผมยังไม่ได้คุยกับ Steve Austin เลยด้วยซ้ำ เรารู้แค่ว่าแมทข์นี้ทำเพื่อ Austin ก็คือให้เขาชนะแบบใสสะอาดแล้วได้แชมป์ไป แต่อย่างไรก็ตาม มันมีพื่นที่ว่างเปล่าในหัวผมอีกมาก
มันไม่เกี่ยวกับการหงุดหงิดที่เราเสียแชมป์ แต่ผมตั้งใจอยากให้ Austin ได้แชมป์จริงๆ ไม่ใช่แค่ในบท แต่ในชีวิตจริงอีกด้วย Austin เป็นคนที่โคตรมันส์ เป็นหนึ่งในเพื่อนที่สนิทที่สุดสำหรับผม ผมอยากทำออกมาให้ดีไม่ใช่แค่เพื่อผมหรือเพื่อแฟนๆ แต่เพื่อตัว Austin ล้วนๆ
1สัปดาห์ก่อนถึงแมทช์ เราได้คุยกันเล็กน้อย ผมได้เสนอไอเดียไปประมาณว่า “Steve ผมมีไอเดียนะ เราจะทำแบบนี้ๆ….” Austin ก็ตอบกลับมาว่า “เออ ชอบไอเดียนี่หวะ แต่ว่าจะเป็นยังไงถ้าเราทำแบบนี้ๆๆ….” แล้วเขาก็เริ่มเสนอไอเดียออกมาเรื่อยๆ
ทว่าก่อนวันจริงเราไม่ได้คุยกับเลยแม้แต่น้อย ทำให้การวางแผนของเราที่ซึ่งซับซ้อนมากจะเริ่มในวันพรุ่งนี้ซะแล้ว ผมไม่ได้กลัวนะ เพราะก่อนหน้านี้ผมร่วมงานกับ Austin ออกมาได้ดีมาตลอด ผมเชื่อเขาแล้วเขาก็เชื่อผม เราเป็นเหมือนทีมและแน่นอนว่าเราจะทำโชว์ออกมาได้อย่างโครตมันส์แน่นอน
ผมตื่นมาประมาณ 8 โมงเช้า คืนนั้นผมนอนไปประมาณ 5 ชั่วโมง ผมไปถึงสนามประมาณบ่ายโมงครึ่ง
ที่โรงอาหารผมเข้าไปคุยกับ Pat Patterson คนที่ดูแลแมทช์นี้ (Agent) เขาเป็นคนที่มีจิตวิทยาของมวยปล้ำสูงมากๆคนนึงในวงการ แล้วก็เป็นคนที่คิดวิธีจบแมทช์ได้เก่งมากๆ มันเป็นหน้าที่ของเขาเลยที่ต้องวางแผนแบบไหนให้เข้าสู่จุด Climax และคนดูมีส่วนร่วมกับแมทช์มากที่สุด ขณะที่เรากำลังคุยกันอยู่ Austin ก็มาถึงพอดี
“กินไรยัง Steve?”
“กินแล้วครับ”
“เจอกันบนเวทีอีก 15 นาทีนะ”
“โอเคๆ เดี๋ยวไป”
เราไปเจอกันบนเวที ผมใส่เสื้อราคา 500 USD (16,000 บาท) รองเท้า 200 USD (6,400 บาท) ส่วน Austin ใส่เสื้อของตัวเองลาย Stone Cold, หมวกลาย Stone Cold, กางเกงขาสั้น, รองเท้า Magnum เราคุยกันอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง เราซ้อมแบบย้อนหลังอีกด้วย ก็คือซ้อมตอนจบมาจนถึงตอนเริ่มเพื่อให้เราเห็นภาพตั้งแต่ต้นจนจบ และทำให้ทุกอย่างออกมาเป็นธรรมชาติมากขึ้น
Vince McMahon (เจ้าของ WWE) เดินออกมาเห็นเรากำลังซ้อมอยู่ เขาไม่ได้มาเพื่อเฮฮากับเราเพราะวันนี้วันจริง สถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียด เขาปล่อยให้เราซ้อมไปประมาณนึงแล้วเราก็มั่นใจแล้วว่า แมทช์ออกมาดีแน่นอน
เรากลับไปที่ห้องแต่งตัว มันเป็นอารมณ์ที่อธิบายยากมากคุณคิดดูว่าคนที่เราทำงานด้วยแล้วมีความสุข เราเคมีเข้ากันมากๆเห็นถึงพลังงานบางอย่างในห้องแต่ตัวได้เลย ซักพักเราเริ่มคุยกันอีกทีแล้วทีนี้บทสนทนามันก็เริ่มเร็วขึ้น
“ถ้างั้นลอง-”
“เหวี่ยงนายออกจากเชือกใช่ป่าว”
“ใช่..”
“เออดี ถ้างั้นนายลองใส่ท่า Swinging Neck-Breaker ด้วย….”
“เห้ย! นั่นคือสิ่งที่ผมคิดอยู่เลย ลองท่านี้กันก็ได้”
อะดรีนาลีนผมเริ่มหลั่ง ผมตื่นเต้นมากๆ เราไม่ได้คุยกันปกติแล้ว แต่เราตะโกนใส่กันแล้ว แล้วมั่นใจได้เลยว่า “แมทช์นี้แม่งเดือดแน่นอน!”
เวลาผ่านไปช่วงนึง Jim Ross (ผู้บรรยายของ WWE ในขณะนั้น) เข้ามาเคาะประตูถามเราว่าอยากฟังแผนของคืนนี้ก่อน เวลาพากย์จะได้เตรียมตัวถูก Jim เป็นคนที่เตรียมตัวดีมากและตั้งใจทำงานเพื่อให้คุณภาพออกมาดีเหมือนกับแมทช์บนเวที
Pat Patterson กับ Earl Hebner (กรรมการอาวุโส) เดินเข้าพร้อมกับพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “แมทช์นี้เดือดแน่นอน”
โชว์จะเริ่มตอน 2 ทุ่ม เปิดโชว์โดยวง Boyz II Men ร้องเพลง America the Beautiful มีนักมวยปล้ำประมาณ 30-40 ดูอยู่หลังเวทีพอเพลงจบผมมองหน้า Austin เขาเอามือจับที่ท่อนแขนตัวเองเพื่อลดความขนลุก ผมยิ้มให้แล้วพูดไปว่า “ผมก็เป็นเหมือนกันแหละ”
ก่อนออกไปโชว์ผมวิดพื้น กระโดดไปมา พยายามทำให้เหงื่อไหล Austin ก็วิ่งเพื่ออบอุ่นร่างกาย เราพยายามพูดถึงคิวในแมทช์อีกรอบว่ามีอะไรบ้าง ทบทวนท่าต่างๆกันไปมา
หลังเวทีผมได้ยินเสียงคนดูที่คอยเชียร์และคาดหวังกับคู่เอกในคืนนี้มาก หัวใจผมหล่นไปอยู่ตาตุ่ม ผมหยิบน้ำมาขวดนึงเอามาล้างมือเพราะว่าตื่นเต้น Austin เดินมาที่ผมชูสองนิ้วสองคร้ัง นั่นคือสัญลักษณ์การทักทายของ Rock และ Austin เราแปะมือกันชี้หน้ากันแล้วแปะมือกันอีกที
“เจอกันข้างนอกนะ” “เอาหน่อยโว้ย” เราตะโกนพร้อมกัน
ผมเอาน้ำราดที่หัวเล็กน้อยก่อนหยิบเข็มขัดแชมป์ของผมแล้วพอเพลงเปิดตัวผมเล่น…. “เราพร้อมลุยกันแล้ว”
หลังจากจบแมทช์ ผมเดินกลับมาหลังฉากก่อน เพลง Stone Cold ยังเล่นอยู่เลยผมรู้แหละว่าเขากำลังฉลองกับชยชนะนี้อยู่บนเวที กระดกเบียร์สนุกกับคนดูอยู่แน่นอน ผมยินดีกับเขามากๆเลย และสำหรับเราทั้งสอง แต่ผมตั้งอยู่ในบท ผมก็ทำท่าหงุดหงิดไปเรื่อยๆจนเดินเข้าไปหลังฉาก
พอเดินถึงข้างหลังทุกๆคนรายล้อมผมไปหมดทั้ง Vince McMahon, ทีมงานคนอื่นๆ และนักมวยปล้ำ
“ทำดีมาก Rock”
“แมทช์ที่ดีที่สุดเลย”
“มันเจ๋งมาก”
“ขอบคุณครับขอบคุณจริงๆ”
เสียงประตูเปิดขึ้นมา Stone Cold เดินมาหาผมวางเข็มขัดแชมป์ไปที่โซฟา ผมรีบเดินไปหาเขาแล้วกอดอยู่ประมาณ10วิได้ ราวกับเราเป็นพี่น้องกันจริงๆ เราเข้าใจกันทุกอย่างจริงๆ
“ขอบคุณมากนะ”
“ขอบคุณ ผมยินดีมาก”
พอเรากอดกันเสร็จเรานั่งบนโซฟาทีนี้คนอื่นๆก็เริ่มเข้ามาที่ห้องแต่งตัว หนึ่งในนั้นก็คือ Jim Ross ที่เข้ามากอดเราและจับมือเราทั้สอง เขาพูดแค่ว่า “โอ้โห…. นี่น่าจะเป็นแมทช์ที่ดีที่สุดที่ผมเคยพากย์เลยแหละ”
ทุกคนมาจัดปาร์ตี้เล็กๆที่ห้องแต่งตัว Mark Yeaton กรรมการกำกับเวลาก็ยกถังเบียร์มาแล้วตะโกนว่า “แดกเบียร์กันเถอะ!” เราก็ดื่มแล้วคุยกันอย่างงั้นทั้งคืน
“แบบนี้แหละคือสิ่งที่ Wrestlemania ต้องการ มันไม่มีแมทช์ไหนยิ่งใหญ่ไปกว่านี้อีกแล้ว”
ทั้งห้องแต่งตัวต่างพากันฉลองให้กับความสำเร็จในคืนนี้ ผมยกเบียร์ขึ้นแล้วตะโกนไปว่า “ดื่มให้กับคืนนี้!”
หลังจากนั้นทั้งสองต่างประสบความสำเร็จไปมากมายในวงการมวยปล้ำแถมยังเจอกันอีกหลายครั้ง และเจอกันใน Wrestlemania อีก2ครั้งนั่นก็คือ ครั้งที่17และ19 โดยในแมทช์สุดท้ายก่อนเลิกปล้ำของ Stone Cold ก็เจอกับคนใกล้ตัวและน้องชายสุดสนิทของเขา The Rock นั่นเอง
#มวยปล้ำบอย #wrestlingboi
โฆษณา