5 ก.ค. 2021 เวลา 07:23 • ความคิดเห็น
เริ่มเป็นที่พูดถึงกันมากขึ้น เรื่องของดารา-เซเลบ
กับการ Call Out ให้ประชาธิปไตย
สำหรับเรา ความเห็นส่วนตัวนะคะ
เราว่าการคอลเอาท์ = การมีจิตสำนึก
1
จิตสำนึกในที่นี่คือจิตสำนึกที่มีต่อสังคม และส่วนรวม
มองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับสังคมเป็นเรื่องใหญ่
แต่ทุกวันนี้สังคมไทยมีความเหลื่อมล้ำโคตรสูง
Gap ระหว่างคนมี Privilege กับคนจนมันกว้างมาก
แน่นอนว่านั่นทำให้คนเราตระหนักถึงปัญหาสังคมไม่เท่ากัน ดังนั้นการที่ทุกคนจะมีจิตสำนึก .. คงยาก
สำหรับเรื่องดารากับการคอลเอ้าท์ให้ประชาธิปไตย
เท่าที่เห็นก็มีอยู่สองพวก คือพวกที่ออกมาเรียกร้องสิทธิให้สังคม และพวกนิ่งเฉย พวกที่ยังโพสต์ภาพชีวิตสวยหรู สวยงาม What a life to live for!!
ท้ายที่สุดก็คงไม่พ้นโดนด่าว่า Ignorance!
ส่วนคนไหนที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย
บ้างก็มีผลกระทบต่อหน้าที่การงาน
ถูกปลดมั่งล่ะ ถูกยกเลิกสัญญามั่งล่ะ
นี่ก็อาจจะเป็นเหตุผลที่เราแทบจะไม่เห็นดาราตัวท็อปๆ
ของวงการบันเทิงออกมาเรียกร้องสิทธิใดใดให้ตัวเองและสังคม เป็นไปได้มั้ยว่าพวกเค้าจะห่วงชื่อเสียงเงินทอง ตราบได้ที่มีงาน มีละคร มีอีเว้นท์ มีแฟนคลับ คือพอเเล้วพวกเค้าแคร์หรือเปล่าว่าประเทศปกครองโดยใคร สังคมจะบิดเบี้ยวแค่ไหน ยังไง .. ไม่แคร์?
ส่วนคนตัวเล็กตัวน้อยก็ต่อสู้ไปสิ
ทั้งๆที่ไม่มี Impact ทางชื่อเสียงในสังคม
กระบอกเสียงก็คงจะเล็กนิดเดียว
เพียงแค่มี Passion ที่อยากจะเปลี่ยนสังคมให้ดีขึ้น
1
น่าเศร้านะคะหากจิตสำนึกยิ่งน้อยลงเมื่อมีชื่อเสียงมากขึ้น แต่ท้ายที่สุดคงไม่มีใครบังคับให้ดาราคนไหนออกมาคอลเอาท์ได้ เว้นแต่จ้าตัวจะลุกขึ้นมาทำด้วยตัวเอง
แล้วดาราจำเป็นต้องออกมาคอลเอาท์มั๊ย⁉️
เราว่าถ้าทำได้ก็เป็นเรื่องดีต่อสังคม
เพราะพวกเค้ามีกระบอกเสียงที่ใหญ่กว่าคนทั่วไป
แต่ควรทำด้วยความตั้งใจและจุดมุ่งหมายที่แท้จริง
รวมถึงมีความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นต่อสังคม
หรือถ้าหากไม่คอลเอาท์ จะอยู่นิ่งๆ เฉยๆ
ก็คงไม่มีใครลากขึ้นมาจากตรงนั้น
แต่ก็ควรตระหนักว่าการออกมาพรีเซนต์ในสิ่งที่คนจำนวนมากไม่มี ในแง่ของหน้าตา วัตถุ หรือไลฟ์สไตล์
แบบไม่แคร์กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับสังคมไปเรื่อยๆ
มันก็จะทำให้พวกเค้าออกห่างจากสังคมไปเรื่อยๆเช่นกัน
วงการบันเทิง เครือข่าย Connection มีความสำคัญ
บางคนมีงานพรีเซนเตอร์เป็นสิบๆ แม้ใจจะอยากคอลเอาท์แทบตาย แต่บริบทในสังคมไทยทำให้เค้าไม่กล้าเสี่ยงก็มี
ไม่ผิดหรอกนะถ้าไม่ออกมาคอลเอาท์
แต่ก็ต้องรับให้ได้เช่นกันเมื่อมีเสียงสะท้อนจากสังคม
เพราะท้ายที่สุดเเล้วอาชีพดารา ก็ต้องทำมาหากินกับความนิยมของประชาชน และพวกเค้าก็ไม่มีทางจำแนกออกมาได้ว่า คนล้านๆคนที่ติดตามเค้าอยู่จะมีจุดยืนเดียวกันทั้งหมด
2
วิกฤตในครั้งนี้ทำให้เห็นได้ชัดขึ้นว่าประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำอย่างชัดเจน ไม่เท่าเทียม ไม่เสมอภาค
คนบางส่วนนอนรอความตาย รอคอยความช่วยเหลืออยู่บ้าน หลายต่อหลายครั้งที่เจ้าหน้าที่ และบุคลากรทางการแพทย์ทำงานจนสลบ .. สลบจริงๆค่ะ
ในขณะที่รัฐมนตรีนั่งกินข้าวหัวเราะคิกคัก ฮิฮิ อยู่ริมหาด
เราได้ยินข่าวคนที่ทนพิษเศรษฐกิจไม่ไหวคิดสั้นจบชีวิตตัวเอง แต่ก็มีคนบางจำพวกที่ชีวิตยังดี๊ดีย์
ตอนนี้เรามองเห็นคนโชคร้ายชัดเจนขึ้น
พอๆกับอภิสิทธิ์ชนก็เป็นที่เห็นได้ชัดเช่นกัน
การที่เรามีโอกาศได้วางแผนชีวิตในอีกห้าปี สิบปีข้างหน้า แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่ต้องคิดว่าจะมีชีวิตรอดต่อไปยังไงในวันรุ่งขึ้น
แต่หน้าที่อย่างหนึ่งที่เราควรมี คือการตระหนักว่ายังมีคนอีกมากกว่าครึ่งของประเทศที่ไม่มีโอกาสแบบเรา สิ่งที่เราได้มามันไม่ได้เกิดจากการที่เราทำงานหนักอย่างเดียว แต่เกิดจากตัวแปรมากมายที่ทำให้เรามีวันนี้
A LITTLE STORY TELLER
โฆษณา