12 ก.ค. 2021 เวลา 03:00 • กีฬา
The Beast and The Manager: ปีศาจและผู้ค้นพบ (Part 1/3)
ว่ากันว่านักมวยปล้ำที่ดีต้องมีทั้งความสามารถในการปล้ำและความสามารถในการเอนเตอร์เทนซึ่งส่วนใหญ่จะต้องเป็นเรื่องของการพูดกับคนดู ซึ่งในวงการก็มีหลายคนทั้ง Shawn Micheals, The Undertaker, Steve Austin, The Rock, CM Punk และในปัจจุบันอย่าง AJ Styles ที่ทั้งปล้ำเก่งและการพูดน่าดึงดูด
แต่ถ้าปล้ำเก่งอย่างเดียวแต่พูดไม่เป็นหละ? หลายๆคนประสบปัญหานี้โดยวิธีแก้ปัญหามีแตกต่างกันไปทั้งการนำตัวไปฝึกพูดหรือการเปลี่ยนบทบาทไปเลย อย่างเช่น Roman Reigns ในปัจจุบัน หรืออีกวิธีนึงคือหากระบอกเสียงให้นักมวยปล้ำไปเลยสิ ถ้ามันฝึกยากขนาดนี้ต้องหาคนมาช่วยทำให้นักมวยปล้ำคนนี้ดูแกร่งขึ้น ดูน่าสนใจขึ้น ซึ่งก็มีนักมวยปล้ำหลายคนได้รับกระบอกเสียงเป็น “ผู้จัดการ” อาทิ Andre the Giant กับ Bobby Heenan, Paul Bearer กับ Kane, Andrade กับ Zelina Vega และแน่นอนคนที่เราจะมาพูดถึงวันนี้ Brock Lesnar กับ Paul Heyman นั่นเอง
“บุคคลคนแรกที่เคยเป็นแชมป์โลก WWE และแชมป์ Heavyweight ของ UFC เริ่มต้นจากการปล้ำDark Match(แมทช์ที่ไม่ได้ออกอากาศ) กับ Funaki นี่แหละ”
“มึงบ้าป่าวให้มันยืนอยู่เฉยๆแบบนักมวยปล้ำยักษ์อ่ะหรอ นี่มันแชมป์มวยปล้ำสมัครระดับประเทศเล่นนะเว้ย”
- Paul Heyman
ก่อนที่จะเป็น Brock Lesnar ตอนมาแรกๆทีมงานหลังฉากหลายๆคนบอกให้วางคาแร็คเตอร์ของ Brock เป็นแบบพวกนักมวยปล้ำยักษ์ใหญ่รุ่นเก่า เป็นกิมมิครัสเซียไหม? Taz ผู้ซึ่งเข้ามาเห็นได้ไปมาบอกกับ Brock ว่า “อย่าไปฟังคนแก่เลย เขาให้คำแนะนำห่วยๆทั้งนั้น แกมันของจริง” Taz เลยพา Brock ไปเจอกับเพื่อนของเขาที่เคยร่วมงานกันที่ ECW อย่าง Paul Heyman แล้วก็เล่าให้ฟังเรื่องนี้ Paul ได้แต่ตอบกลับไปว่า “อย่าไปฟังพวกนั้น ถ้าให้คาแร็คเตอร์นี้กับนายภายใน 6 เดือนนายได้ออกไปที่อื่นแน่ๆ”
และหลังจากนั้น คู่หูผู้จัดการ-นักมวยปล้ำ ในตำนานก็ถือกำเนิด
(ติดตามเราได้ที่ Blockdit: https://www.blockdit.com/pages/5f283f92d2374b139878e47b)
ย้อนกลับไปตอน Brock Lesnar อายุ 17 ปี หนุ่มน้อย Brock ไม่ได้มองมวยปล้ำเป็นกีฬาชนิดแรกที่เขาอยากจริงจัง แต่กลับเป็น American Football ต่างหาก แต่ทว่าด้วยอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าทำให้ Brock เบนเข็มไปที่มวยปล้ำแทน หลังจากฝึกซ้อมกีฬามวยปล้ำมา แชมป์รายการแรกของ Brock ก็คือ National Junior College Athletic Association (NJCAA) จนกระทั่งได้ทุนจากโควต้านักกีฬาของ University of Minnesota และการเรียนมหาลัยครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ Brock ได้เจอเพื่อนในวงการและคู่หูในอนาคตนั่นก็คือ Shelton Benjamin นั่นเอง หลังจากที่ Brock ได้แชมป์ NCAA Division 1 ทำให้ไปเข้าตาทีมงาน WWE จึงจับเซ็นสัญญาโดยทันที โดย Jim Ross อดีตผู้บรรยายของ WWE (ปัจจุบันอยู่กับ AEW) เคยอธิบายว่า “ตอนที่เราเซ็นสัญญา Brock มานั้นเขาขอเรามาอยู่ข้อนึงนั่นก็คือให้เซ็น Shelton ไปด้วย เพราะ Shelton คือโคตรนักกีฬาเหมือนกัน ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะการที่ได้นักมวยปล้ำจาก South Carolina จะเป็นผลดีต่อตัวเขาในวงการแน่นอน และยังทำให้ Brock ก้าวเข้าสู่วงการมวยปล้ำได้มากขึ้นอีกด้วย”
ทั้งสองได้เข้าเป็นนักมวยปล้ำฝึกหัดที่ค่าย OVW ค่ายพัฒนาทักษะของนักมวยปล้ำ WWE (รุ่นเดียวกับ John Cena, Batista และ Randy Orton) ในชื่อแท็กทีม “The Minnesota Stretching Crew”
หลังจากพัฒนาทักษะก็ถึงเวลากับการขึ้นค่ายใหญ่ของ Brock Lesnar ซึ่งนั่นก็คือ Raw หลัง Wrestlemania X8 นั่นเอง
การเปิดตัวครั้งแรกของ Brock Lesnar ครั้งแรกก็ไม่ได้ปล้ำใน Raw ก่อนซะทีเดียว โดย WWE ให้ Brock ลองปล้ำใน Dark Match ก่อนหน้านี้ทั้งในฐานะแท็กทีม The Minnesota Stretching Crew และในฐานะนักมวยปล้ำเดี่ยว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการปล้ำกับ Funaki นั่นเอง (ชมที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=_IaDAfL4qVs) Paul Heyman บอกว่านี่คือการเลือกที่ฉลาดมากเพราะการปล้ำกับคนที่คนละไซส์ทำให้เขาดูแข็งแกร่งมาก
การ debut ครั้งแรกของ Brock ก็คือการกระโดดมาทำร้าย Al Snow, Maven, และ Spike Dudley ในแมทช์ฮาร์ดคอร์ โดยเปิดตัวมากับไม่ใช่ใครที่ไหน Paul Heyman นั่นเอง
(รอติดตามพาร์ท 2 นะครับ)
กดไลค์กดแชร์ มวยปล้ำบอย เพื่อท่านจะไม่พลาดคอนเทนท์มันส์ๆของวงการมวยปล้ำครับผม
#WrestlingBoi #มวยปล้ำบอย
โฆษณา