5 ก.ค. 2021 เวลา 15:52 • ไลฟ์สไตล์
ชาที่ไต้หวันในฤดูกาล ต่างๆ ตลอดทั้งปี ต่างกันอย่างไร?
💡ทำไมชาที่ผลผลิต ต่างฤดูกาลกัน ถึงรสชาติไม่เหมือนกัน? Why do teas in different seasons taste differently?
ไต้หวันนั้นมีสภาพอากาศแบบกึ่งเขตร้อน และเป็นเกาะที่สามารถผลิตและ ดื่มชาได้ตลอดทั้งปี ดีมากๆ เมื่อเราจะพูดถึงคุณภาพและฤดูกาลของชา ในเบื้องต้นสามารถมีได้จากสองปัจจัยหลัก คือ
1. คืออัตราส่วนของโพลีฟีนอลและกรดอะมิโนในชา (ratio of Polyphenol with Amino acid)
2. สภาพภูมิอากาศ สภาพภูมิอากาศจะส่งผลต่ออัตราส่วนของโพลีฟีนอลและกรดอะมิโนในชาและอัตราส่วนนี้จะส่งผลต่อระดับการหมักของชาอีกด้วย
💡ลักษณะรสชาติที่แตกต่างกันของชาในฤดูหนาวและชาในฤดูใบไม้ผลิ และปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เกิดความต่างนั้น?
สำหรับชาเขียวหรือชาอู่หลงที่ผ่านการหมักเพียงเล็กน้อย เราตั้งใจอยากให้ชาที่ทำออกมานั้น ยิ่งมีกรดอะมิโนมากเท่าไรก็ยิ่งดี ส่งผลให้น้ำชาที่ได้มีรสหวาน
ดังนั้นชาฤดูหนาวและชาฤดูใบไม้ผลิที่ปลูกและเติบโตในที่อากาศเย็นๆ จึงมีคุณภาพที่ดีที่สุดในแต่ละปี
เนื่องจากว่า สภาพแวดล้อมที่มีความสูงและเย็นมากจนทำให้สามารถลดปริมาณคาเทชิน(สารที่ให้ความขมฝาดในใบชา) ในใบชาได้และในขณะเดียวกันก็ผลิตกรดอะมิโนที่มีรสหวานได้มากขึ้นอีกด้วย
Spring tea timeline ช่วงเวลาเก็บเกี่ยวชาใน ฤดูใบไม้ผลิ ของ Oolong High mountain tea ในพื้นที่ปลูกบนเขาต่างๆ
💡สรุปว่า รสชาติชาของที่เก็บเกี่ยวในฤดูหนาวจะหวานกว่าและขมน้อยกว่าฤดูอื่นๆคับ *ถ้าเป็นชาชนิดเดียวกัน เช่น high mountain Oolong tea. ในขณะที่ชาฤดูใบไม้ผลิ จะได้เรื่องกลิ่นของชาที่เข้มข้นกว่า และกลิ่นที่ได้ ออกมาจากชาจะเป็นกลิ่นดอกไม้หอมๆ และผลไม้ ที่ชัดเจนขึ้นกว่าฤดูอื่นๆ
Summer tea full of tea polyphenols.
”ชาในฤดูร้อน “ชาที่มีสารโพลีฟีนอลอยู่เต็มเปี่ยม!”
สำหรับชาที่ผ่านการหมักอย่างหนัก(heavily ferment)และชาดำ (full ferment) จำเป็นต้องมีคาเทชินมากขึ้นในการหมักและเปลี่ยนเป็นรสชาติที่ซับซ้อนและหลากหลาย ดังนั้นในชาฤดูร้อนที่ปลูกในสภาพอากาศอบอุ่นจึงเป็นตัวเลือกแรกๆ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ปลูกชาด้วยคับ และในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงก็สามารถทำชาที่มีคุณภาพดีบางชนิดได้ด้วยเช่นกันคับ
ใบชา Dong fang mei ren ที่มีชื่อเสียงและราคาสูง ก็เก็บเกี่ยวผลผลิตในฤดูร้อนเช่นกันคับ
ใบชาสด เพื่อนำไปทำชา Dong fang mei ren ที่ต้องการให้เพลี้ยชากัด เพื่อสร้างกลิ่น รสแบบน้ำผึ้งและ ผลไม้รสเปรี้ยว
ยกตัวอย่าง ชาที่เก็บเกี่ยวและผลิตในฤดูร้อน ได้ดี คือ ชา ตงฟางเหมยเหริน (Dong Fang Mei Ren) และ ชาแดงมี่เซียง (Mi xiang Black tea)และชาอื่น ที่ต้องการเพลี้ยจักจั่นสีเขียว ก็จะต้องอยู่ในสภาพอากาศที่อบอุ่นกว่าเพื่อให้มีเพลี้ยจักจั่นได้กัดกินใบชา เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ต้องการสำหรับชาแบบประเภทนั้นๆ
ชาแดง มี่เซียง Mixiang Black tea ที่ให้กลิ่นรสแบบน้ำผึ้ง และผลไม้รสเปรี้ยว จำพวก พีช ลิ้นจี่ บลูเบอรี่ ต่างๆที่ซับซ้อน ที่ต้องอาศัยแมลงในช่วงฤดูร้อน ถึงจะทำชาออกมาได้ดี ตัวนี่เป็นชาในฤดูร้อนที่คุณภาพดี และมีชื่อเสียงมากๆคับ
แต่สำหรับชาอื่น ๆ ที่ไม่ผ่านการหมักและหมักอย่างเต็มที่ ตัวอย่างเช่น ชาเขียว หรือชาอู่หลงแบบสด จะมีคาเทชินและคาเฟอีนมากขึ้นในสภาพอากาศที่อบอุ่นและความขมที่มากกว่าและราคามักจะต่ำกว่าตามไปด้วยคับ
กระประมาณนี้คับ เรื่องฤดูกาล ที่มีความสัมผัส กับรสชา และการผลิตชาที่เหมาะสมในแต่ละฤดูกาล
หวังว่าเพื่อนๆ ทุกคน ก็พอเข้าใจที่มาและสามารถเลือกฤดูชาที่เหมาะสมตามประเภทชาต่างๆ และคาแรคเตอร์ที่ชอบ
ที่สำคัญคือ ต้องลองชิมดูดเวยตนเองคับ เพื่อแยกความแตกต่างว่าเราชอบ คาแรคเตอร์ ชาของฤดูไหนบ้าง?
ขอบคุณทุกๆคน ที่อ่านกันมาด้วยคับ
เดี๋ยวจะทยอยเขียน บทความ น่ารู้ น่าสนใจเกี่ยวกับชา ในนี้เรื่อยๆมากขึ้นคับ คอยติดตามกันได้เลย
โฆษณา