6 ก.ค. 2021 เวลา 09:24 • กีฬา
พรุ่งนี้แล้วครับ NBA Finals แม้ตามเรตติ้งทั้ง มิลวอกี้ และ ฟีนิกซ์ จะไม่ใช่ตลาดใหญ่นัก ไม่มากมายสตาร์ อย่าง เลเกอร์ส คลิปเปอร์ส วอร์ริเออร์ส หรือ บรูกลิน แต่ต้องยอมรับว่าพวกเขาคือทีมที่ดีพร้อมที่สุดสำหรับรอบชิงในปีนี้
และนี่คือเหล่าเรื่องเล่า ประเด็นน่าจับตาในรอบชิงปีนี้ครับ
รวมผลคนซิง In Finals
ใช้คำนี้คงไม่ผิดนักเพราะ ทั้ง 2 ทีมไม่ได้เข้าชิงมานานมากแล้ว ซันส์ ไม่ได้ชิงมาตั้งแต่ 1993 บั๊กส์ 1974 แถมผู้เล่นชุดนี้ของ 2 ทีมเปิดซิงกับรอบชิงเป็นครั้งแรกทั้งนั้น มีเพียง เจ ครอว์เดอร์ จากซันส์ เท่านั้นที่เคยสัมผัสซีรี่ส์ ที่สำคัญที่สุดของ NBA ครั้งเดียวที่ เจ มีส่วนร่วมคือปีที่แล้วในสีเสื้อ ไมอามี่ ฮีต ซึ่งแพ้ เลเกอร์ส ไป
ผู้เล่นที่มีประสบการณ์ใน Finals 1 คนถ้วนในปีนี้ถือว่าน้อยที่สุดตั้งแต่ 1977 ที่สำคัญโค้ชของพวกเขาทั้ง
Phoenix’s Monty Williams
Milwaukee’s Mike Budenholzer ต่างคุมทีมใน Finals เป็นครั้งแรกในชีวิตเช่นกัน
ชีวิตที่ลุกจากจุดต่ำสุด
ความสำเร็จในการเข้าชิงครั้งนี้ของ ซันส์ ถือว่าเซอร์ไพรส์ มากทีเดียว เมื่อเรามองย้อนไปในภาพรวมเมื่อสามฤดูกาลก่อน นี่คือทีมที่มีสถิติฤดูกาลปกติแย่ที่สุดของลีก แย่ที่สุดในสายตะวันตกเมื่อ 2 ปีก่อน แถมไม่เข้าเพลย์ออฟมาตลอด ทศวรรษหลังแบบนี้ทีมผู้บริหารอย่าง เจมส์ โจนส์ เฮดโค้ช มอนตี้ วิลเลี่ยมส์ ตัวเก๋า คริส พอล เป็นจิ๊กซอว์ ที่สำคัญเหลือเกิน
ชีวิตดี๊ดีราวฝันที่เป็นจริง
ไม่เกินไปหรอกครับกับฝันที่เป็นจริง ถ้าจะนำมาเปรียบเทียบกับชีวิตของ ยานิส อันเดโตคูอัมโป ครอบครัวแอฟริกันอพยพในดินแดนยุโรปอย่างกรีซ กว่าจะเอาตัวรอดจนมีโอกาสเล่นอาชีพในลีกดิวิชั่นสองของ กรีซ กลายเป็นตัวดราฟท์ที่น่าสนใจใน NBA พัฒนาก้าวกระโดดมาเป็น MVP 2 สมัย ตัวออลสตาร์ ติดทีมยอดเยี่ยมทีมแรกของ NBA จนตอนนี้เขามีโอกาสเล่นรอบชิงพาต้นสังกัดที่ดราฟท์เขามาลุ้นแชมป์ครั้งแรกในรอบ 50 ปี
ก่อนหน้านี้แพ้อย่างอกหักแบบน่าเขกกะโหลกอดลุ้นแชมป์ ทว่าโอกาสเติมเต็มฝันของเขาและชาวเมือง มิลวอกี้ วิสคอนซิน มาถึงแล้ว
เครื่องการันตีความเมพของ คริส พอล
ซีรีส์นี้แน่นอยนว่า 1 คนที่จะถูกจับตาทุกฝีเก้าคือ Point God Guard อย่าง คริส พอล ของ ฟันิกซ์ ซันส์ ตลอดเส้นทางใน NBA 16 ฤดูกาล จนกลายเป็นจอมเก๋าวัย 36 ปี ทั้งตัวเลขผลงานที่เขาทำมา นี่คือการ์ดระดับ หอเกียรติยศพันธุ์แท้ ทว่าหากจบอาชีพไปแบบนี้คงมีแฟนๆคอยแซะ คอยแหย่ ก็แค่พวกเลขสวยไม่มีแหวนการันตีก็ไม่มีความหมาย
เชื่อสิ ผมเจอแฟนแบบนี้พูดยัดเหยียดคำนี้ เมื่อครั้งถกถึงความยอดเยี่ยมของ ต็อกตั้น มาโลน บ่อย เพราะสุดท้ายโลกใบนี้ก็ยังมีคนที่ตัดสินอะไรง่ายๆแบบมึงไม่มีแชมป์ ไม่มีถ้วย ก็เท่านั้นไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไร
ใจร้ายชิบ
บทพิสูจน์กระบวนการ NBA Homegrown
แม้สหรัฐอเมริกาจะไม่มีระบบอคาเดมี่สร้างนักกีฬาขึ้นมาให้สโมสรโดยตรงแต่เป็นระบบฝากมหาวิทยาลัยให้เป็นวิธีคัดเลือกเพื่อตรงเข้าสู่ NBA Homegrown จึงถูกนำมาใช้กับทีมที่ลงทุนไปกับ Draft แล้วเชื่อมั่นให้เด็กเหล่านั้นเป็นแกน ไม่ได้เน้นเทรดเอาบิ๊กเนมมากองรวมกันเป็นทางลัดซึ่งทั้ง บั๊กส์ และ ซันส์ เข้าข่ายนี้ทั้ง 2 ทีม
ซันส์ ยึดมั่นกับ เดวิน บูเกอร์ ดราฟท์ตัวเก่งปี 2018 ที่ใช้เวลาไม่นานพิสูจน์ว่าเขาคือเบอร์ต้นเรื่องการทำแต้ม ขนาบข้างด้วย 2 ดาวรุ่งดราฟท์คลาสปี 2018 Deandre Ayton (2018) Mikal Bridges (2018) เช่นกันกับยอดสำรอง Cam Johnson (2019) ถือเป็นกำลังหลักที่ใช้ทุกเกม ผลงานออกเริ่มลงตัวภายใต้การปรุงรสของ มอนตี้ วิลเลี่ยมส์ แม้ ซันส์จะไม่ได้เล่นเพลย์ออฟแต่ในบับเบิ้ล ทัวร์นาเมนต์ปีก่อนพวกเขาชนะรวด 8 เกม จากนั้นเอามาขยำรวมกับตัวเก๋าอย่าง Chris Paul Jae Crowder ก็ยกระดับทีมขึ้นไปอีกขั้นจนถึงชิงเมื่อสบโอกาสจากทีมต่างๆไม่พร้อมเท่าที่ควร
Milwaukee เองก็คล้ายกัน พญากวาง ลงทุนไปเยอะกับดราฟท์ 2003 การเฝ้ามองพิจารณายานิส ร่วมเดือนเต็มๆ พร้อมเทรดแลกสิทธิกับ ดีทรอยท์ เพื่อโยกเอา คริส มิลเดิลตัน ปัจจุบันคือ Go To Guy ของทีมในยามวิกฤติ และ All Star 2 สมัย มาใช้เป็นปราการหลักร่วมกัน 8 ปี ใครไม่อยู่ 2 ทีมนี้อยู่ จากนั้นค่อยแต่งเติมรดน้ำจนดอกไม้บานงดงาม
ศึก 2 ดูโอ
เป็นพิมพ์นิยมไปแล้วสำหรับทีม NBA หากคุณมีทูท็อปที่ลงตัว บวกกับองค์ประกอบที่กลมกล่อมทั้งประสบการณ์ ผู้ที่รองรับรูปแบบการเล่นที่หลากหลายของโค้ช บวกด้วยทีมสปิริตโอกาสประสบความสำเร็จคู่ชิงปีนี้ก็เช่นกัน ทูท็อปของ ซันส์ และ บักส์ น่าสนใจไปคนละอย่าง
แม้ทาง ซันส์ ใครต่อใครจะมองว่า CP3 และ บูเกอร์ คือคู่น่าจับตา แต่ส่วนตัวผมว่า พอล จะเป็นจอมทัพที่คุมเกมในภาพรวมพร้อมจะดึงเกมเปิดทางลดบทบาทลงไปเมื่อ บูเกอร์ พร้อม มือร้อน ดังนั้นคู่ทูท็อปที่น่าจะมีบทคู่ไปกับเขาเชื่อว่าเป็น ดิอันเดร เอตัน 2 คนนี้อายุพอๆกันกำลังสด 24 / 22 แบกความกดดันช่วงเข้าสู่ลีกในดราฟท์อันดับสูง แต่เข้ามาแล้วทีมเป็น บ๊วยลีก บ๊วยสาย ค่อยๆใช้คำปรามาสเหล่านั้นพัฒนาขึ้นมา
โอเค เราเห็น บูเกอร์ เป็นยอดชูตเตอร์ มาตลอด 2-3 ฤดูกาลหลัง ยิ่งมี พอล มาแบกบทบาทเพลย์เมกเกอร์ เขายิ่งเล่นง่าย แต่ที่ดีจนน่าใจหายโดยเฉพาะเพลย์ออฟ คือเอตัน ทั้งเกมรับ เกมรีบาวด์ และการเก็บตกในเกมรุกไม่สามารถห่างตาได้จริงๆ
ขณะที่คู่ ยานิส มิดเดิลตัน ก็คล้านยๆกัน มาจากดราฟท์รอบสอง ผ่าน จีลีก ไต่เต้า มาจนเป็นผู้เล่นออลสตาร์ MVP ติดทีมชาติสหรัฐ แถมสร้างประวัติศาสตร์เป็นดูโอที่ส่งผลต่อเกมในเพลย์ออฟมากที่สุดของ บักส์ จึงไม่ต้องต้องแปลกใจทำไมแฟนกวางจึงเปลี่ยนจาก คริสเป็น“Khash Money” เพราะคุ้มค่าทุกเพนนีที่ลงทุน
ทั้งนี้ส่วนตัวผมสิ่งที่อยากเห็นใน 4 ประเด็นที่ตั้งคำถามไว้คือ
1 ยานิส เล่นได้ในสภาพสมบูรณ์ ระดับ 90 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปเช่นกันกับผู้เล่นทุกคนในซีรีส์ เพื่อเกมสุดมันส์ตลอดการซัดไม่ว่าจะจบลง 4 5 6 หรือ 7 เกม แต่ 7 เถอะอยากบรรยาย
2 ในยามวิกฤติช่วงเวลาต้องเป็นแต้มของ บักส์ จะให้ คริส มิดเดิลตัน อีกไหมที่ขึ้นมาเป็นตัวนำ แม้จะมียานิส อยู่ในสนาม แล้วเขาจะทำได้ดีตามที่เคยวิเคราะห์ในคลิปก่อนหรือไม่
3 คริส พอล จะโช๊คหรือดวงแตกอีกรึเปล่า เพราะประวัติศาสตร์ส่วนตัวมักจะมีอะไรมารบกวนเขาจนไม่ถึงฝั่งฝันมาตลอด เจ็บบ้าน บ้าบอไปกับเรื่องสงครามจิตวิทยาจนพลาดไม่น่าพลาด เรื่องนี้ต้องพิสูจน์
4 สุดท้ายแอบดีใจเล็กๆที่ปีนี้นอกจากจะได้เห็นเด็กใหม่ๆในเพลย์ออฟเต็มไปหมด จะได้เห็นลูกศิษย์ โค้ชเกรกโปโปวิช คนโปรดได้แชมป์ในฐานะโค้ช ทั้ง ไมค์ บูเดนโฮเซอร์ ที่เคยรั้งตำแหน่งผู้ช่วยของ ป๊อป 1996-2013 ขณะที่ มอนตี้ วิลเลี่ยมส์ เคยเล่นให้ โค้ชป๊อป ในสีเสื้อ สเปอร์ส ช่วงปี 96-98 มีค่าเฉลี่ยเกมละ 7.7 แต้ม
5 สุดท้ายดีใจล่วงหน้ากับ ทอร์รีย์ เคลก ที่ไม่ว่าใครจะได้แชมป์เขาได้แหวนแชมป์แน่นอนในปีนี้ ปัจจุบันเขาเล่นกับ ซันส์ แต่ช่วงต้นฤดูกาลนั้นเล่นกับ บักส์ ไปแล้ว 18 เกม มากพอจะได้รับแหวนเป็นที่เรียบร้อย
แล้วไปลุ้นแชมป์ในปีนี้กันครับ
โฆษณา