6 ก.ค. 2021 เวลา 13:16 • ความคิดเห็น
💪🏽ทำแบบนี้ดีมั้ย ก่อนที่เราจะป่วยจิตมากกว่าป่วยโควิด
🙏สวัสดีครับ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ เห็นด้วยกับผมมั้ย ว่าเราไม่ค่อยมีข่าวดีให้บันเทิงใจเลย จนคนไทยจะเป็นโรคจิต โรคซึมเศร้า มากกว่าเป็นโควิดแล้วนะครับ
ก่อนที่เราจะไปคุยกันเรื่องท่องเที่ยวต่อไป ตามประสาไกด์ปิง เราลองมาช่วยกันสร้างสุขภาพจิตเราให้ดีขึ้นกันก่อนดีมั้ยครับ เหมือนวลีที่ว่า จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว ผมก็ลองวิเคราะห์ว่า ถ้าสถานการณ์แบบนี้ บางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง ฉะนั้น สิ่งไหนที่เราทำได้ ก็มาช่วยกัน อย่างน้อยเป็นการให้กำลังใจตนเอง เมื่อจิตใจดี มันก็คงจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายได้บ้าง บอกได้เลยว่ายุคนี้ สถานการณ์แบบนี้ มีหลายส่วนที่มีอิทธิพลกับชีวิตเรา เดี๋ยวผมจะแยกเป็นส่วน ๆ ละกันนะครับ
ส่วนแรก คือ พวกเราประชาชนกันเอง เพื่อให้เหตุการณ์มันทุเลาลง ไม่ถึงขนาดที่ควบคุมไม่ได้ จนถึงขั้นต้องเลือกว่าให้ใครอยู่ หรือปล่อยให้ใครตาย ทุกคนที่ติดเชื้อ มีสิทธิ์ได้รับการรักษา แต่ผมไม่ได้บอกว่าฟรีนะครับ บางกรณีอาจจะยกเว้นให้ไม่ได้ เช่น เคสทั้ง ๆ ที่รู้ ยังไปทำตัวเสี่ยง อย่างบ่อนการพนัน สถานบันเทิง การมั่วสุมแบบไม่ป้องกันตนเอง อันนี้หาเรื่องแท้ ๆ ควรรับผิดชอบในการรักษาตัวเอง แต่ส่วนคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แต่พลอยซวยไปด้วย ก็มีสิทธิ์ได้รับการช่วยเหลือ ไม่งั้นจะทำให้บางคนคิดว่า ไม่เป็นไรหรอก เราแข็งแรง ถึงแม้จะติดแต่รัฐบาลก็รักษาให้ฟรี ทำให้เกิดความประมาท และขาดความรับผิดชอบต่อส่วนรวมในการใช้ชีวิต
เท่าที่สังเกตเห็น บางคนก็แทบจะไม่มีข้าวกิน ไม่มีเงินใช้จ่าย แต่บางคน ยังไปสุมกันตามร้านเหล้า หรือลักลอบเปิดบ่อนขึ้นมา อันนี้เราคงแยกออกนะครับ ถ้าเกิดติดขึ้นมา แบบไหนน่าสงสารกว่ากัน เรามาร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อตัวเราเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติกันดีกว่าครับ ปัญหามันจะได้คลี่คลายโดยเร็ว ไม่ปล่อยไว้ว่าเป็นหน้าที่ของทางการแพทย์ ก็รักษาไปสิ
เท่าที่เรารู้ บางส่วนของประเทศ สถานการณ์ทางการแพทย์เข้าขั้นตึงตัว ไม่มีเตียง ไม่มีอุปกรณ์ แต่อย่าให้ถึงขั้นว่า วันใดวันนึง บุคลากรทางการแพทย์ของเราถอดใจ เดินจากไป ทิ้งให้ผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อรักษาตัวตามยถากรรมแล้วกัน เราคงไม่อยากเห็นใช่มั้ยครับ
ส่วนที่สอง สื่อสารมวลชน ผมว่า ทุกวันนี้ หลายคนจิตตก ผวา หวาดกลัว จนกลายเป็นโรคจิต โรคซึมเศร้า เพราะไม่รู้จะทำอะไร เสพข่าวทุกวัน และบ่อยครั้ง เนื้อหาในข่าว จะออกมาในด้านรุนแรง น่ากลัว ชวนผวา โดยเฉพาะหัวข้อข่าวที่สร้างความดึงดูด แต่ขณะเดียวกัน ทำให้คนฟุ้งซ่าน
อย่างเช่น "บุคลากรทางการแพทย์ที่.... ติดเชื้อ ทั้ง ๆ ที่ฉีดวัคซีนสองเข็มแล้ว" อย่างคุณภาพของวัคซีน ผมก็คงบอกไม่ได้ ว่ายี่ห้อไหนดีไม่ดี มาถึงขั้นนี้แล้ว ฉีดอะไรได้ก็ฉีด อย่างน้อยหวังว่า จะชลอการเจ็บป่วย เพื่อลดภาระให้ทางการแพทย์ แล้วโอกาสที่ทุกอย่างจะเข้าสู่สภาวะปกติ เป็นไปได้ขึ้นมา
แต่กลับเป็นว่า ชาวบ้านตามชนบท ยังลังเลที่จะฉีด แต่ใช้ชีวิตไปมาหาสู่กัน โอกาสที่จะควบคุมโรคก็ยากขึ้น สู้หมั่นเสนอข่าว รณรงค์ให้คนป้องกันตัว แบบเน้น ๆ จับมือทำ ไม่ใช่แค่พูดสองสามคำเหมือนหุ่นแล้วก็จบ เพราะมันไม่ได้เรทติ้ง แต่ถ้าข่าวดูน่าตื่นเต้น จะมีคนดูคนอ่านมากกว่า หรือถ่ายทอดข้อความว่าถ้ามีผู้ติดเชื้อแต่อาการไม่หนัก ควรปฏิบัติตัวอย่างไร ย้ำ ๆ เข้าไป ไม่งั้นคนก็จะคอยคิดว่าถ้าติดเชื้อต้องไปรักษาอย่างเดียว ไม่งั้นอาการจะหนัก คนจะตาย พอไม่มีเตียง ก็จะเกิดการระส่ำระสาย สถานการณ์ก็ยิ่งไปกันใหญ่
ยอดคนติดเชื้อ คนตาย เอาแค่ให้เป็นสถิติเตือนใจผู้คนไม่ให้ประมาท แต่ขณะเดียวกัน ถ่ายทอดคำแนะนำถึงวิธีการดูแลตัวเอง ไม่สร้างภาระเพิ่มเติมแก่บุคลากรทางการแพทย์ เพราะที่ผ่านมาก็มีหลายคนที่รักษาตัวเองจนหาย ต่างประเทศก็ใช้วิธีนี้กัน คิดว่าแบบนี้จะดีกว่ามั้ยครับ
1
ส่วนที่สาม ผู้ปกครองบ้านเมือง สิ่งที่ทำกับสิ่งที่พูด ขอให้เป็นอย่างเดียวกัน ณ เวลานี้ เป็นเวลาที่จะสร้างวีรบุรุษ ถ้าคุณแสดงให้เห็นว่าทำเพื่อประเทศชาติ ประชาชนจริง ๆ ทำอย่างจริงใจ ไม่ปากอย่างใจอย่าง เวลาคุณจะออกมาแถลง หรือขอความร่วมมือ แม้กระทั่งบังคับ เพื่อให้ความยุ่งยากมันเบาบางลง ผมว่าคนก็พร้อมจะให้ความร่วมมือ เพราะคนมีความเชื่อมั่น
แต่ทุกวันนี้ มันแทบจะตรงกันข้าม ประชาชนเป็นส่วนมาก แทบจะหมดความเชื่อถือในผู้บริหารบ้านเมือง ณ เวลานี้ อาจไม่ใช่เวลาที่จะเปลี่ยนขุนศึก แต่ถ้าขุนศึกดำเนินการยุทธผิดพลาด ควรยอมรับที่จะมีการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ และยอมรับคำแนะนำ ความคิดเห็นจากผู้ปฏิบัติงานจริง ไม่ใช่ฟังหรือสร้างข้อมูลที่เสกสรรปั้นแต่งขึ้นมา
ส่วนสุดท้าย คือบุคลากรทางการแพทย์ อันนี้ผมไม่มีข้อเสนอแนะ มีแต่คำสดุดีในความเสียสละของทุกคนทุกท่าน ทุกคนลำบากกายยังไม่พอ ยังมีสถานการณ์ลำบากใจรุมล้อมรอบด้าน แต่ทุกคนก็ทำด้วยใจ ทำด้วยมนุษยธรรม แม้จะเหนื่อยสายตัวแทบขาด แทบจะไม่ได้พบได้เจอครอบครัว แต่ทุกคนตั้งใจดูแลประชาชนดั่งญาติ ดั่งครอบครัว ผมก็ขอขอบคุณ และกราบขอบคุณหัวใจที่แข็งแกร่งของบุคลากรทางการแพทย์ในประเทศนี้ทุก ๆ ท่านครับ
1
ก็เป็นข้อคิด ข้อเสนอแนะจากคนธรรมดา ที่ไม่ได้มีอำนาจวาสนาอะไร เป็นหนึ่งในคนที่เดือดร้อนด้านเศรษฐกิจมายาวนานที่สุดกลุ่มหนึ่งของประเทศนี้ ตั้งแต่เกิดโรคระบาดนี้ขึ้นมา ก็เป็นคนตกงานที่ยาวนานที่สุดคนนึง แต่หวังว่าบทความนี้ อาจจะสร้างขวัญ กำลังใจ ให้ข้อคิดแก่ทุก ๆ คน และทุกคนทุกฝ่ายจะได้ร่วมมือร่วมใจ ให้ปัญหานี้ลุล่วงไป เราทุกคนจะได้พบกับวันใหม่ที่ฟ้าใสกว่าเดิม
ใครมีความเห็นประการใด คอมเมนต์มาแลกเปลี่ยนกันนะครับ เวลานี้เราต้องให้กำลังใจ และเตือนสติซึ่งกันและกันละครับ ขอบคุณครับ🙏
โฆษณา