7 ก.ค. 2021 เวลา 11:01 • สุขภาพ
ทำไมจึงควรประกาศล็อกดาวน์โดยเร็ว ไม่ต้องรอการประเมินผล 14 วันหลังประกาศใช้มาตรการเข้มข้น
นับจากสถานการณ์โควิดปลายระลอกที่สอง (มีนาคม 2564) ต่อเนื่องกับต้นระลอกที่สาม (เมษายน 2564)
มีการพบข้อมูลที่สำคัญมาก ซึ่งเป็นปัจจัยหลักต่อการแพร่ระบาดของโควิดระลอกที่สามอย่างกว้างขวางคือ
2
การพบไวรัสกลายพันธุ์ สายพันธุ์อังกฤษหรืออัลฟ่า ที่แพร่ระบาดรวดเร็วขึ้นมาก
4
จึงไม่สามารถจะใช้ระดับความเข้มข้นของมาตรการต่างๆที่เคยใช้ควบคุมอย่างได้ผลในระลอกที่สองได้อีกต่อไป
เมื่อดูตัวอย่างการใช้มาตรการเข้มข้น เฉพาะพื้นที่หรือเฉพาะเมืองที่มีการติดเชื้อสูง ของประเทศเพื่อนบ้าน
จะพบว่าที่นครเวียงจันทน์ ในช่วงสงกรานต์ พบมีการติดเชื้อใหม่ในระดับ 10 รายต่อวัน ก็ล็อกดาวน์นครเวียงจันทน์ทันที
ทำให้สามารถควบคุมการระบาดได้ดีมาก จนถึงวันนี้นับจากเดือนเมษายนถึงกรกฎาคม ลาวมีผู้ติดเชื้อ 2400 ราย เสียชีวิต 3 ราย เป็นอันดับที่ 187 ของโลก
2
เช่นกัน ประเทศกัมพูชา มีการติดเชื้อ ที่กรุงพนมเปญ ในช่วงกุมภาพันธ์ถึงเมษายน ระดับผู้ติดเชื้อไม่ถึง 100 รายต่อวัน ก็ใช้มาตรการเข้มข้นล็อกดาวน์กรุงพนมเปญทันทีเช่นกัน
จนผ่านมาถึงวันนี้ กัมพูชาติดเชื้อ 57,103 ราย เสียชีวิต 798 ราย เป็นอันดับที่ 112
1
โดยที่เป็นสายพันธุ์อัลฟ่าหรืออังกฤษสายพันธุ์เดียวกับประเทศของเรา
ส่วนของประเทศไทยเอง ด้วยข้อจำกัดและปัญหาหลายประการด้วยกัน ทำให้ในห้วงเวลาเดียวกับที่กัมพูชามีไวรัสอัลฟ่า ประเทศไทยก็พบไวรัสอัลฟ่าเช่นกัน
2
แต่เราใช้มาตรการที่เข้มข้นน้อยกว่าลาวและกัมพูชามาก
ทำให้ขณะนี้ ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 64 ของโลก ติดเชื้อแล้ว 301,172 คน เสียชีวิต 2,387 คน
3
ตัวเลขของผู้ติดเชื้อในนครเวียงจันทน์ ประเทศลาว กรุงพนมเปญ กัมพูชา และกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
จึงแตกต่างกันชัดเจน แม้จะเป็นไวรัสสายพันธุ์เดียวกันคืออัลฟ่าก็ตาม แต่มาตรการเข้มข้นต่างกัน
ส่วนข้อจำกัดของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการต้องใช้งบประมาณจำนวนมากที่จะเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์
1
หรือความคิดเห็น ตลอดจนความเชื่อของบางฝ่าย ที่บอกว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมนั้นมาก จนรับไม่ไหว
จึงเป็นที่มาของการตัดสินใจออกมาตรการเข้มข้นปานกลาง เพื่อประคับประคองมิติทางเศรษฐกิจเอาไว้ เช่น ไม่ล็อกดาวน์ ไม่ประกาศเคอร์ฟิว ขอร้องให้ทำงานจากบ้าน ไม่บังคับ ขอร้องให้เดินทางข้ามเขตจังหวัดน้อยลง แต่ก็ไม่บังคับ
2
ขอความร่วมมือให้ฉลองสงกรานต์แบบระมัดระวัง
ผลของการออกมาตรการเข้มข้นระดับดังกล่าว จึงพบการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วย ตลอดจนผู้ป่วยหนัก
จนต้องมีการระดมสรรพกำลัง คน เงิน ของ ไปเสริมระบบสาธารณสุขให้สามารถรองรับผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมากมาย
1
ทั้งนี้ก็เพราะต้องการประคับประคองสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมนั่นเอง
2
ลองย้อนกลับมาพิจารณาว่า การประคับประคองเศรษฐกิจแบบนี้ สุดท้ายจะมีความหวังอย่างเป็นรูปธรรมหรือไม่ว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวกลับขึ้นมาดีขึ้นได้ เมื่อไหร่ อย่างไร
คำตอบคือ สภาวะทางเศรษฐกิจและสังคมจะดีขึ้นเร็วสุด ก็คือปลายปีนี้ เมื่อมีการฉีดวัคซีนครบสองเข็ม 70% ของประชากร จนเกิดภูมิคุ้มกันหมู่
1
แล้วระยะเวลาที่เหลือ 6 เดือน ก่อนที่จะถึงปลายปี เราจะประคับประคองเศรษฐกิจไปโดยเกิดผลกระทบต่อสาธารณสุขนั้น มีราคาที่ต้องจ่ายแพงมากมายทีเดียว
1
เพียงสามเดือนที่ผ่านมาของการระบาดระลอกที่สาม การประคับประคองเศรษฐกิจไว้ มีราคาที่ต้องจ่าย (Price to Pay) ดังนี้
1) มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 2000 คน
2) มีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 200,000 คน
3)มีผู้เสียชีวิตนับจำนวนไม่ได้ จาก
โรคอื่นๆที่ได้รับผลกระทบจากผู้ป่วยโควิดมาครองเตียง ทำให้หาเตียงไอซียู หรือบุคลากรที่จะมารักษาโดยการผ่าตัด หรือการรักษาที่ยุ่งยากที่รวดเร็วเหมาะสมไม่ได้
1
4) เกิดความทุกข์ ภาวะกดดันทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิตของทีมแพทย์พยาบาลและบุคลากรสาธารณสุขเป็นจำนวนนับ 100,000 คน
5) สูญเสียงบประมาณจำนวนมาก ที่ต้องระดมเข้าไป เพื่อประคับประคองระบบโรงพยาบาล ทั้งโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนาม
ราคาที่ต้องจ่ายดังกล่าว แลกมากับอะไรที่จะได้บ้าง
1) กิจการบางอย่างทางเศรษฐกิจพอเปิดดำเนินการได้บ้าง แต่ไม่ถึงกับจะดีอะไรมากนัก หลายแห่งบอกว่าแย่พอๆกับการต้องล็อกดาวน์นั่นเอง เช่น ร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ
1
2) ผู้คนพอจะเดินทางสัญจรไปมาได้บ้าง ตามที่ตนเองต้องการ
1
3) รัฐประหยัดงบประมาณ ไม่ต้องใช้จ่ายเพื่อเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์
ถ้าจะต้องประคองสถานการณ์ไปอีก 6 เดือน เพื่อดูแลเศรษฐกิจดังกล่าว เราก็คงจะมีราคาที่ต้องจ่ายโดยเฉพาะชีวิตของผู้คนที่ต้องล้มหายตายจากไป และไม่สามารถเรียกคืนกลับมาได้อีก เมื่อโรคสงบแล้ว
แลกกับเศรษฐกิจ ซึ่งก็ไม่ได้ดีอะไรมากมายนัก
จึงถึงจุดสำคัญ ที่รัฐบาลจะต้องตัดสินใจที่เด็ดขาด อยู่บนข้อมูลที่รอบด้าน และแบบเข้าใจทุกฝ่าย
1
เพราะได้ให้โอกาสทางด้านเศรษฐกิจและสังคมมานานพอแล้ว คือมากกว่าสามเดือนที่ชะลอการล็อกดาวน์มาโดยตลอด
เราจึงไม่สามารถจะอยู่ในลักษณะนี้ต่อไปได้อีกหกเดือน เพื่อให้มีการฉีดวัคซีนเพื่อเกิดภูมิคุ้มกันหมู่
1
การล็อกดาวน์ตอนนี้ ก็จะได้ผลดีไม่เท่าการล็อกดาวน์เมื่อเดือนเมษายน 2564
2
แต่ก็ยังดีกว่าไม่ Lockdown เลย
เป็นการประคองมิติทางสาธารณสุขไม่ให้ล่มสลาย สามารถรักษาชีวิตผู้คนนับพันนับหมื่นเอาไว้ได้
แล้วสิ้นปีนี้ เราค่อยกลับมาร่วมแรงร่วมใจฟื้นฟูเศรษฐกิจที่เสียหายไปด้วยกัน
1
เศรษฐกิจเรียกคืนกลับมาได้ ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่
7
แต่ชีวิตผู้คนที่เสียไปแล้ว เราไม่สามารถจะเรียกคืนกลับมาได้อีก
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ
เราต้องออกแบบระบบ
วางแผนจัดการ
และทำการสื่อสารให้ดีที่สุด
1
ว่าจะล็อกดาวน์กันอย่างไรบ้าง
นานเท่าใด
รวมทั้งมีแผนที่จะเยียวยาผลกระทบต่อกลุ่มต่างๆ ให้รวดเร็ว ได้ผลชัดเจน ผ่านการสื่อสารที่จริงใจ
และเข้าใจง่าย
และคนไทยจะได้ผ่านพ้นเหตุการณ์หนักหนาไปด้วยกันในที่สุด บอบช้ำน้อยที่สุด เท่าที่จำเป็น
1
โฆษณา