ย้อนไปในเกมยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ทีมชาติอังกฤษเอาชนะเยอรมนี 2-0 หากใครได้ดูการถ่ายทอดสด จะได้พบเห็นภาพที่กล้องจับไปที่เด็กหญิงชาวเยอรมันกำลังร้องไห้ซบอกพ่อ เมื่อได้เห็นทีมชาติของเธอกำลังจะตกรอบต่อหน้าต่อตาที่สนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม
ภาพดังกล่าวได้กลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกโซเชียล มันถูกแชร์ออกไปอย่างรวดเร็วเมื่อเกมจบ ซึ่งทีมอินทรีเหล็กเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
รูปถ่ายของสาวน้อยที่กำลังร้องไห้ กลายเป็นมีมที่แฟนบอลรวมไปถึงเพจบอลหลายๆ เพจทั้งทางเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ เอามาเรียกยอดไลค์เพราะหวังเอ็นเกจเมนต์จากกลุ่มคนที่สนุกกับการล้อเลียน และซ้ำเติมความผิดหวังของคนอื่น
สิ่งที่ตามมาอย่างไม่น่าเชื่อ ก็คือเราได้เห็นพฤติกรรมแย่ๆ ของแฟนบอลชาวอังกฤษบางคน ที่มีปมของการเกลียดพวกเยอรมันเข้าไส้เกินเหตุ จนออกอาการสะใจ โดยไม่สนใจว่ามันจะเป็นพฤติกรรมที่ดูสูญสิ้นความเป็นมนุษย์ไปมากขนาดไหน
(หมายเหตุ คำแปลต่อไปนี้บางส่วน อาจจะหยาบคาย แต่เราหาคำภาษาไทยที่จะแปลออกมาได้ชัดเจนที่สุด เพื่อสื่อสารสิ่งที่เกิดขึ้น)
เจค เลเวอร์ส ทวีตภาพดังกล่าวลงทวิตเตอร์ของตัวเอง พร้อมเขียนแคปชั่นว่า Cry you little nazi หรือแปลว่า "ร้องไห้ไปซะนะ เจ้านาซีตัวน้อย"
ขณะที่ คัลลั่ม เลเวอร์ ก็เขียนแคปชั่นว่า German Slag หรือ "ไอ้พวกกากเดนเยอรมัน"
การเรียกชาวเยอรมันว่าเป็นพวกนาซีนั้น นั่นคือเรื่องที่สร้างความรู้สึกเจ็บช้ำและเป็นการนำเหตุการณ์ร้ายๆ ในอดีตมาซ้ำเติมบาดแผลของพวกเขาอย่างรุนแรง แถมยังเป็นการสร้างความเกลียดชังในเรื่องของชาติพันธุ์อย่างชัดเจน
โดยก่อนหน้านี้บางคนอาจเคยได้เห็นข่าวมาแล้วว่า แฟนบอลอังกฤษบางส่วนที่เข้าไปในสนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม ได้แสดงพฤติกรรมถ่อยๆ ใส่คู่แข่งซึ่งเป็นต่างชาติ เช่นการตะโกนโห่ตอนที่เพลงชาติทีมคู่แข่งดังขึ้น รวมไปถึงการตะโกนเหยียดเชื้อชาติ ตะโกนบูลลี่ฝั่งตรงข้ามระหว่างการแข่งขันอีกมากมาย
ฟุตบอลมันควรเป็นกีฬาที่สร้างมิตรภาพ ไม่ควรเป็นชนวนโหมความเกลียดชัง หรือใช้ถ้อยคำหยาบคายดูถูกเหยียดหยามกัน
การรณรงค์ต่อต้านสิ่งเหล่านี้ ไม่ควรถูกด้อยค่าด้วยคำว่า "โลกสวย" เพราะคุณต้องแยกแยะให้ออกก่อนว่า แบบไหนมันคือสีสันขำๆ และแบบไหนมันคือการทำร้ายจิตใจเพื่อนมนุษย์
อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่ควรเหมารวมว่าคนอังกฤษทุกคนจะเป็นพวกพฤติกรรมน่ารังเกียจแบบนี้ไปซะหมด เพราะจากเหตุการณ์นี้ มีผู้คนในสหราชอาณาจักรก็ได้ประณามคนร่วมชาติที่มีพฤติกรรมถ่อยๆ แบบนี้กันมากมาย
สแตน คอลลีมอร์ อดีตศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษและลิเวอร์พูล ไปแคปภาพถ้อยคำน่ารังเกียจเหล่านั้นมาประจานต่อหน้าสังคมผ่านทางทวิตเตอร์ของตัวเอง พร้อมแคปชั่นว่า No words necessary หรือแปลเป็นไทยได้ประมาณว่า "หมดคำจะพูด"
และที่น่าสนใจก็คือ โจเอล ฮิวจ์ส หนุ่มชาวเวลส์ ได้เปิดแคมเปญระดมเงินบริจาคออนไลน์ทางเว็บไซต์ JustGiving ให้กับสาวน้อยผู้ร้องไห้คนที่เป็นข่าว เพราะมันไม่ใช่เรื่องยุติธรรมเอาเสียเลย ที่ความพ่ายแพ้ของทีมชาติเยอรมนี ทำให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งต้องมาโดนซ้ำเติมความเสียใจจากแฟนบอลแย่ๆ
โจเอล ฮิวจ์ส กล่าวว่า "ผมได้เห็นทวีตจาก สแตน คอลลีมอร์ ที่ชี้ให้เห็นถึงการดูถูกเหยียดหยามเด็กสาว ผมไม่สามารถทนเห็นการกลั่นแกล้งแบบนี้บนโลกออนไลน์ได้"
"ผมคิดว่าความเกลียดกลัวชาวต่างชาติแบบนี้ มันดูแย่ลงเรื่อยๆ นับตั้งแต่มี Brexit (การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร) และดูเหมือนว่ารัฐบาลแทบจะกระตุ้นมันด้วยซ้ำ"
"ผมจึงคิดว่าผมควรพยายามทำอะไรสักอย่าง เป็นสิ่งเล็กๆ ที่มันอาจจะไม่สามารถเปลี่ยนโลกได้ หรือจะไปเปลี่ยนจิตใจของผู้คนที่ไปเขียนถ้อยคำน่ารังเกียจเกี่ยวกับสาวน้อย แต่มันก็เป็นสิ่งที่ใช่ว่าจะไม่มีค่าเลย"
"ถ้ามันหมายถึงการที่พวกเราทำให้เด็กหญิงมีรอยยิ้มได้ งานนี้มันก็สำเร็จแล้ว"
นอกจากโครงการนี้จะเป็นการเยียวยาจิตใจของเด็กหญิงและครอบครัวของเธอ แล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของชาวสหราชอาณาจักร ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเลวร้ายไปซะหมด แต่คนที่ดีๆ และมีความเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ก็ยังมีอยู่ไม่น้อย
ภายในระยะเวลาไม่กี่วัน หลังจากที่ เยอรมนี แพ้ อังกฤษ ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายยูโร ยอดเงินบริจาคให้เด็กหญิงจากโครงการของ ฮิวจ์ส พุ่งสูงเป็นมูลค่ารวมกันถึง 36,166 ปอนด์ หรือประมาณ 1,612,734 บาท ทั้งที่เป้าหมายของเงินที่ต้องการระดมทุนให้ถึง แค่ 500 ปอนด์เท่านั้น (ราวๆ 22,300 บาท)
อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของเด็กหญิงที่เสียหายนั้น กลับไม่คิดจะรับเงินเยียวยาจิตใจเลยสักปอนด์เดียว แต่เลือกที่จะมอบเงินจำนวนดังกล่าวให้กับองค์กรการกุศลทั้งหมด
พวกเขาออกแถลงการณ์ว่า "จากความตั้งใจของลูกสาวของเราและครอบครัวของเรา เราต้องการที่จะรักษาความเป็นส่วนตัว อย่างไรก็ตาม เราต้องขอขอบคุณทุกคนสำหรับการสนับสนุนที่มหัศจรรย์มาก"
"ลูกสาวของเราอยากจะขอให้เงินบริจาคของพวกคุณส่งผ่านไปยังยูนิเซฟ (กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ) เพื่อให้ได้รู้ว่าความเมตตาของพวกคุณนั้นจะทำสิ่งดีๆ ได้"
นี่คือพลังของฟุตบอล ที่ทำให้โลกได้เห็นทั้งมุมดีและมุมที่เลวร้ายของพฤติกรรมของมนุษย์ และมันสามารถเป็นสะพานที่ทำให้ผู้คนมารวมกันสร้างสิ่งดีๆ ได้
คุณอยากจะเป็นแฟนบอลที่น่ารังเกียจ หรือเป็นแฟนบอลที่สมควรได้รับการเคารพนับถือหัวใจ คุณเลือกได้ไม่ยาก ว่าอยากจะเป็นแบบไหนครับ...
#เสียบสามเหลี่ยม #เยอรมนี #อังกฤษ #เวลส์ #สหราชอาณาจักร #UK #BeautifulGames #AntiRacism #AntiSocialBullying #ยูโร2020
- 12
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
