ผลกระทบของ CPTPP ในด้านอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร
CPTPP คืออะไร
"CPTPP" ย่อมาจาก
"Comprehensive and Progressive Trans-pacific Partnership"เป็นความตกลงที่ครอบคลุมสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก โดยเป็นความตกลงทางการค้าเสรีที่ครอบคลุมในเรื่องการค้า การบริการ และการลงทุนเพื่อสร้างมาตรฐานและกฎระเบียบร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิก ในประเด็นการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา มาตรฐานแรงงาน กฎหมายสิ่งแวดล้อม รวมถึงกลไกแก้ไขข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลและนักลงทุนต่างชาติ
ซึ่งประเด็นหลักของเราในวันนี้นี้จะมุ่งเป้าไปที่เรื่องของ การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่เป็นประเด็นหลังทำให้เกิดกระแสต่อต้าน CPTPP จากหลายๆฝ่ายเป็นจำนวนมาก ซึงเป็นเพราะว่าในความตกลง CPTPP นี้ มีข้อกำหนดให้ประเทศสมาชิกต้องเข้าร่วมในอนุสัญญาการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ หรือ UPOV (International Union for the Protection of New Varieties of Plants) ซึ่ง ส่งผลให้ประเทศสมาชิก สามารถนำพันธุ์พืชของประเทศที่อยู่ในกลุ่มสมาชิก ไปทำการค้นคว้าวิจัยและปรับปรุงพันธ์ แล้วนำไปจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา
ซึ่งการทำเช่นนั้นส่งผลกระทบต่อเกษตรกรรายย่อยอย่างมหาศาล เนื่องจากว่าเมื่อปลูกพืชแล้วจะไม่สามารถเก็บเมล็ดพันธุ์เพื่อนำไปปลูกต่อได้ แต่ต้องซื้อเมล็ดพันธุ์จากกลุ่มนายทุนใหญ่ที่เป็นเจ้าของการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาของพันธุ์พืชชนิดนั้นๆ นั่นหมายความว่าต้นทุนทางการเกษตรจะสูงขึ้น ราคาวัตถุดิบในการประกอบอาหารจะสูงขึ้นอีกหลายเท่า ราคาข้าว 1 จานอาจจะสูงกว่า 100 บาทเลยทีเดียว แต่รายได้ประจำวันของผู้คนยังเท่าเดิม นั่นเป็นเหตุผลที่เกิดกระเเส #NOCPTPP ขึนมา
ในบทความนี้พูดถึงในด้านของอุตสาหกรรมเกษตรที่เป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศเพียงด้านเดียว ข้อตกลงนี้อาจส่งผลดีต่อกลุ่มทุนใหญ่ๆก็จริง แต่เมื่อพิจารณาไปที่กลุ่มเกษตรกรทั่วๆไป ที่เป็นอาชีพหลักของประเทศเรา นับเป็นหายนะครั้งใหญ่เลยทีเดียว
- 13
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
