10 ก.ค. 2021 เวลา 04:31 • ดนตรี เพลง
La Vie En Rose
Edith Piaf
-​------------------
ลา​ เวีย ออง​ โรส
เพลงฝรั่งเศสเพลงนี้ ประพันธ์ขึ้นและขับร้องตั้งแต่ปี 1946 ถูกนำมา cover ทั้งขับร้องและบรรเลงแบบ light-music ลุงชาลีได้ยินได้ฟังและซาบซึ้งกับบทเพลงนี้มายาวนาน จนคุ้นเคยและคุ้นหู แต่ก็ไม่ได้รับรู้เบื้องลึกของเพลงนี้จนกระทั่งไปเจอแผ่น DVD หนังเรื่องนี้ที่สร้างขึ้นในปี คศ.2007 ถึงได้ทราบเรื่องราวที่มาที่ไปและชีวิตจริงที่แสนรันทดของผู้ประพันธ์เพลงตั้งแต่วัยเด็ก จนกระทั่ง เติบโตอยู่ในวงการบันเทิงในยุคนั้น
La vie en rose เป็นภาษาฝรั่งเศสในความหมายของชีวิตที่สดสวยเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบในทุกย่างก้าว ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับการแสดงโดย โอลิเวียร์ ดาฮาน ( Olivier Dahan ) นำแสดงโดย มาริยง กอติยาร์ ( Marion Gotillard ) นำชีวิตจริงของ Edith Piaf ( เอดิธ เพียฟ ) มาโลดแล่นบนแผ่นฟิลม์ ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต เธอเกิดเมื่อปี 1915 เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับในปี 1963
เอดิธ เฟียฟ มีชื่อจริงว่า Edith Giovanne Gassion เกิดและใช้ชีวิตในฝรั่งเศส แต่เธอมีเชื้อสายอิตาลีและแอลจีเรีย ผู้เป็นแม่หาเลี้ยงชีพด้วยการร้องเพลงข้างถนน แล้วแต่ใครจะหยิบยื่นเศษเงินให้ ส่วนพ่อเป็นนักแสดงกายกรรมในคณะละครสัตว์ เมื่อผู้เป็นแม่เสียชีวิต เธอถูกนำไปเลี้ยงดูและเติบโตในซ่องโสเภณี โดยโสเภณีคนหนึ่งที่รักเธอเหมือนลูก จวบจนย่างเข้าสู่วัยรุ่น เธอก็เจริญรอยตามแม่ คือ ร้องเพลงตามข้างถนนแลกกับเศษเงินพอประทังชีวิต ด้วยน้ำเสียงสดใส มีพลังไปสะดุดหูเข้ากับ Louis Leplee เจ้าของไนท์คลับ นั่นคือ จุดหักเหของชีวิตได้เริ่มต้น เธอได้ก้าวสู่วงการบันเทิง กลายเป็นดาวดวงหนึ่งในโลกของเสียงเพลง La vie en rose เธอประพันธ์ขึ้นในปี คศ 1946 มียอดจำหน่าย ( แผ่นเสียง ) กว่า 3ล้านแผ่น เป็นเพลงที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และอีกเพลงหนึ่งที่เปรียบเสมือนลายเซ็นของเธอ ก็คือ Non, je ne regrette rien ( No. I don’t’ regret ) ออกนำเสนอในปี 1960
ในบ้านเราคอเพลงรุ่นเก๋าคงจะจำเพลง “ ถ้ารักฉันจริง “ ที่ขับร้องโดย สวลี ผกาพันธ์ นักร้องผู้ล่วงลับ เป็นเพลงที่นำมาจาก Hymne a’ l’amour ที่ประพันธ์ขึ้นในปี 1950 แต่เข้าใจว่าเพลงของคุณสวลี น่าจะเรียบเรียงจากเนื้อร้องภาษาอังกฤษที่เผยแพร่ในปี 1952 ในชื่อว่า If you love me really love me
เรื่องราวของเธอ ( เอดิธ เพียฟ ) ตามที่ลุงชาลีได้เรียบเรียงมา ดูๆแล้วก็น่าจะเป็นเรื่องราวการประสบความสำเร็จของนักร้อง , นักแต่งเพลง คนหนึ่งที่ก้าวขึ้นนมาจากดงน้ำครำ และคงจะเป็นชีวิตที่มีความสุขสมบูรณ์เพียบพร้อมทั้งชื่อเสียง , เกียรติยศ , เงินทอง แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น อดีตอันเลวร้ายและประสบการณ์ที่ผ่านความทุกข์เข็ญ โรคภัยไข้เจ็บและความผิดหวังในรักครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกอย่างมันฝังลึกเข้าไปในความทรงจำ ส่งผลถึงความแปรปรวนทางอารมณ์ จนมองไม่ออกว่าจะมีส่วนไหนที่ทำให้เธอมีความสุข มันช่างตรงข้ามกับเพลงของเธอ La vie en rose ชีวิตเหมือนกลีบกุหลาบ มันเลวร้ายอย่างไรนั้น ลุงชาลีก็คงจะเล่าได้ไม่ครบถ้วน คงต้องหาแผ่นดีวีดีหรือหาชมทางยูทูป จะได้รายละเอียดมากขึ้น
ในส่วนของภาพยนตร์นั้น ได้รับรางวัลออสการ์สาขาผู้แสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม คือ มารียง กอติยาร์ นับเป็นครั้งแรกที่รางวัลนี้มอบให้กับนักแสดงและภาพยนตร์จากต่างชาติที่พูดภาษาฝรั่งเศสตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งเธอก็สมควรที่จะได้รับรางวัลอันเลอค่านี้ เพราะเธอสวมบทบาทได้ยอดเยี่ยม แทบไม่ผิดเพี้ยนจากตัวตนจริงๆของเอดิธ เพียฟ
เอดิธ เพียฟ เสียชีวิตเมื่อปี คศ.1963 ผู้คนนับหมื่นหลั่งไหลมาร่วมไว้อาลัยให้กับเธอ แต่ทางโบสถ์มองเธอจากชีวิตที่ผ่านมาเปรียบเสมือนคนบาป จึงไม่จัดงานศพแบบเต็มพิธีให้ จนกระทั่ง อีก 50 ปีต่อมา ทางการถึงได้จัดพิธีให้อย่างสมเกียรติ ผู้มีชื่อเสียงผลงานดีเด่น ย้ายหลุมฝังศพเธอไปยังสุสาน Pe’re Lanchaise ร่วมกับบุคคลสำคัญของชาติ
ชีวิตของเธอเป็นสีชมพูดั่งกลีบกุหลาบเหมือนที่เธอหวัง แต่มันถูกโรยไว้บนหลุมฝังศพ จากผู้คนที่เข้ามาเยี่ยมชม
La vie en​ rose
โฆษณา