10 ก.ค. 2021 เวลา 12:18 • นิยาย เรื่องสั้น
" ใครซักคนเคยบอกไว้ว่า แท้จริงแล้ว ความอ่อนแอและเปราะบางของมนุษย์นี่แหละ ที่โอบกอดเชื่อมโยงพวกเราเอาไว้ด้วยกัน "
@Hari AV / unsplash.com
ผมยืนอยู่ที่ระเบียงห้องของตัวเองบนชั้น 8 กำลังก้มมองลงไปที่สุดชั้นล่างของตึก ในใจรู้สึกหวิวๆ หนาวเย็นไปทั่วสันหลัง ผมเป็นคนกลัวความสูง และที่ทำอยู่นี้ไม่ได้จะกระโดดลงไปหรอกครับ แค่อยากพอเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนคนหนึ่ง ที่เพิ่งจะจบชีวิตตัวเองลงไป
มันเป็นคืนวันอังคารที่ผ่านมา สำหรับผมมันก็เป็นอีกคืนที่แสนธรรมดาเหมือนอย่างทุกคืนนั่นล่ะ จนกระทั่งกลางดึก ไลน์กลุ่มเพื่อนสมัยมัธยมปลายก็ดังขึ้นคราวเดียวนับหลายสิบข้อความ
เป็นการแจ้งข่าวร้ายจากอดีตหัวหน้าห้องในตอนนั้น บอกว่า "ตั้ม" ได้จากเราไปอย่างสงบแล้ว ตั้มซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทในกลุ่มแก๊งค์ของผมคนหนึ่งในตอนนั้น
จากระเบียงห้องพักในคอนโดนชั้น 12 ตั้มตัดสินใจลาขาดจากโลกใบนี้ไป โดยไม่มีคำกล่าวลา ไม่โพสต์สเตตัสใดๆ ไม่มีจดหมาย ไม่โทรหาใครทั้งสิ้น
ทิ้งไว้แค่ข้อความสั้นๆบนกระดาษเทปที่ผูกอยู่ตรงข้อเท้า ว่าเค้าเป็นใคร แล้วต้องโทรหาใครบ้าง หลังจากเค้าตัดสินใจกระทำสิ่งนี้ด้วยตนเอง
ผมกับตั้มไม่ได้เจอกันอีกเลยหลังจากเราต่างเข้ารั้วมหาลัย แต่ยังคงพบปะทักทายกันตามหน้าฟีดสเตตัสอยู่เรื่อยมา ผมเห็นตั้มมีชีวิตที่ดีผ่านหน้าฟีดตรงนั้น แต่พักหลังมานี้ตั้มไม่ค่อยโพสต์อะไร ไม่กี่เดือนก่อนตั้มโทรมาหาผม เราคุยกันนานมากแต่ตั้มก็ไม่ได้บ่นทุกข์ใจอะไร ทว่าผมในตอนนั้นก็รู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้ติดใจถาม ก็ตอนนั้นเราคุยกันแต่เรื่องสมัยเรียนแล้วมันสนุก คิดถึงวันวานในตอนนั้น
ผมนั่งลงกับพื้น หลังพิงรั้วระเบียง ปกติผมจะไม่กล้าพิงรั้วระเบียงแบบนี้ เป็นสิ่งที่กลัวมาตั้งแต่เด็กเพราะผู้ใหญ่มักจะเตือนว่าระวังพลัดตกลงไป แต่วันนี้ผมอยากลองดูซักครั้ง ว่ามันจะอันตรายแค่ไหน ดาวบนฟ้าไม่มีซักดวง จริงๆแล้วมองไม่เห็นมากกว่า  แถมตึกรอบๆก็สูงจนบดบังแผ่นฟ้าเกือบหมด เหลือไว้แค่รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็กๆ ก็นั่นล่ะนะ ที่นี่มันคือเมืองใหญ่ แล้วเราก็ใช้ชีวิตอยู่ในกล่องใบเล็กๆกล่องนึง
ผมเพิ่งนึกได้ว่าพกกล่องบุหรี่ที่ติดกระเป๋ากางเกงมาด้วย ซึ่งนั่งทับไปเรียบร้อยแล้ว ผมหยิบบุหรี่ออกจากกล่องซองแบนยู่ยี่ ใครกันที่คิดได้ว่าต้องแปะรูปคอพังๆจากมะเร็งกล่องเสียงไว้บนซอง เป็นการออกแบบแพ็คเกจที่งี่เง่าที่สุดของมวลมนุษย์จริงๆ
ผมเพิ่งเริ่มสูบบุหรี่ได้ไม่นานนี้เอง มันเริ่มจากเรื่องอะไรก็ไม่รู้ รู้แค่วันนั้นหลังจากวิ่งออกกำลังกายเสร็จ เหงื่อท่วม อากาศในฤดูหนาวเย็นจับใจ ผมนึกขึ้นได้แค่ว่า "อยากสูบบุหรี่ว่ะ" แล้วก็ตัดสินใจแวะซื้อที่ร้านสะดวกซื้อทันที
อากาศวันนี้ก็เย็นเฉียบเช่นกัน เสียดายที่ในตู้เย็นไม่มีเบียร์เหลือซักกระป๋อง ผมนั่งรมควันตัวเองไปเรื่อยๆ มวนแล้วมวนเล่า ไอร้อนจากไอ้แท่งกระดาษเล็กๆนี่ก็ทำให้รู้สึกดีเหมือนกัน สำหรับเด็กในสายตาของผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดูเรามา ฝากความคาดหวังด้วยคำว่า "เป็นเด็กดี" มาตลอดนั้น การทำอะไรนอกลู่นอกทางในสายตาของพวกเค้าเช่นการสูบบุหรี่แบบนี้ อย่าให้เค้าได้รู้เชียว เป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ
แต่หากชีวิตดำเนินมาตามครรลองที่ผู้ใหญ่กล่าวชมว่าเราเป็นเด็กดีมาโดยตลอดแล้วนั้น ทำไมเราจึงยังต้องเจอเรื่องเจ็บปวด การเป็นเด็กดีไม่เห็นช่วยอะไร เหมือนเป็นกรอบหรือกรงขังเราให้ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังเกินไปหรือเปล่า เพราะการไม่อยากทำให้ผู้มีบุญคุณต้องผิดหวัง แต่แท้จริงแล้วเด็กที่แข็งแรงต่างหากคือผู้จะอยู่รอดและเติบโตต่อไป การลองผิดลองถูกและใช้ชีวิตเสี่ยงไปบ้าง คือสิ่งที่ทำให้เราเติบโตและแข็งแรงหรือเปล่า
ผมอาจไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ในการตัดสินใจของตั้ม และตั้มก็ไม่อยู่ให้เราสอบถามจนเข้าใจแล้ว แต่ในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง ผมรู้ดีว่าตั้มแบกรับภาระและความคาดหวังจากครอบครัวมากแค่ไหน ตั้มต้องเรียนในสิ่งที่ไม่ได้อยากเรียน ต้องทำงานทั้งที่ไม่ใช่งานที่ชอบนัก แต่เพราะด้วยความมั่นคงของอีกหลายชีวิตแล้ว ตั้มก็ต้องยอมสละความรักที่ไม่จำเป็นกับอีกหลายชีวิตออกไป
แต่ใครจะรู้ ความรักนั้นจำเป็นต่อการมีชีวิตอยู่ของตั้มมากที่สุดเลยล่ะ
ในระหว่างที่ผมคิดเองเออเองอยู่คนเดียว เสียงเปิดประตูจากระเบียงห้องข้างๆดังขึ้น ใครคนหนึ่งกำลังเดินออกมาที่ระเบียงแบบผม มาพร้อมกับเสียงเพลง "เปราะบาง" ของบอดี้แสลม แหม่ เหมือนซีนในหนัง จังหวะมันช่างพอดีอะไรกันขนาดนี้
' ทำไมแค่ลมเพียงแผ่วเบา ยังทำให้เหน็บหนาว แค่เพียงแผ่นฟ้าที่ว่างเปล่ายังทำให้มีน้ำตา '
ผมเป็นแฟนวง Bodyslam มาตั้งแต่ประถม แต่ผมไม่ค่อยได้ฟังเพลงนี้ซักเท่าไหร่ แม้ว่าจะชอบความหมายของมันมากๆ ผมฟังเพลงเศร้าไม่ค่อยได้ มันทำให้ผมเหมือนมีอาการซึมเศร้า ทว่า ณ ตอนนี้ผมกลับรู้สึกอบอุ่นหัวใจแปลกๆ
' ทำไมมันช่างเปราะบาง เหลือเกิน อ่อนแอจนเกินจะเข้าใจ '
...
@Ander Burdain / unsplash.com
" นี่คุณ ขอบุหรี่ตัวนึงสิ " เสียงผู้หญิงจากห้องข้างๆดังขึ้น ผมลืมไปเลยว่าผมกำลังสูบบุหรี่อยู่ ซึ่งมันไม่ควรทำหากมีใครสักคนอยู่ใกล้ๆ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไร ผมเอื้อมยื่นมวนบุหรี่ผ่านกำแพงกั้นระเบียงให้เธอ เธอรับไปแล้วจุดสูบ เธอมีไฟแช็คอยู่แล้ว ไม่ต้องพินิจพิเคราะห์ให้มากความก็รู้ว่าเธอใช้บุหรี่เป็นเพื่อนในยามทุกข์สุขเหมือนกัน
' ครั้งหนึ่ง ที่เคยสัมผัส ในหัวใจว่ารักยังเหลืออยู่ แต่วันนี้ดูเหมือนมันลบเลือน กอดที่อบอุ่นจางหายไป ซักวันถ้าล้มลง จะมีใครสนใจ '
" อกหักหรอคุณ " หญิงสาวถามขึ้น
" น่าจะเป็นคุณมากกว่านะ " ผมตอบกลับ
เธอหัวเราะหึๆ " ก็ธรรมดาน่ะนะ "
" แต่ก็ไม่เคยชินชากับมันซักทีเนอะ " นี่ผมพูดอะไรออกไป อยากเล่นพ้องคำหรอวะ (ผมคิดในใจ)
' ทำไมแค่ลมเพียงแผ่วเบายังทําให้เหน็บหนาว แค่เพียงแผ่นฟ้าที่ว่างเปล่ายังทำให้มีน้ำตา ทําไมมันช่างเปราะบางเหลือเกิน ไม่รู้เมื่อไหร่จะผ่านพ้น '
" ถ้าชินชา มันคงไม่ใช่ความรัก " เราเงียบกันไปซักพัก จนเธอเอ่ยขึ้นมา
" สรุปอกหักสินะ " ผมว่าต่อ
" แล้วคุณล่ะ ถ้าไม่ได้อกหัก แล้วมานั่งรมควันทำไมดึกดื่นเอาป่านนี้ "
" ช่วงนี้ มีเรื่องให้คิดเยอะน่ะ "
อันที่จริง ผมก็เพิ่งเลิกกับแฟนที่คบกันมานานกว่า 7 ปีไป เราเหมือนโตมาด้วยกันตั้งแต่สมัยมัธยมนั่นแหละ ทั้งๆที่ อายุยังไม่ถึง 25 ที่เขาว่าปีชง แต่ตอนนี้ผมทั้งอกหักและเสียเพื่อนไปในช่วงเวลาใกล้ไล่เรี่ยกันเลยล่ะ
' ร่องรอยจากคำไม่กี่คำ ยังทำให้ปวดร้าว แค่เพียงแววตาที่ว่างเปล่า ยังทำให้เจ็บหัวใจ ทําไมมันช่างเปราะบางเหลือเกิน และชีวิตเมือไหร่จะเข้มแข็งพอ ... '
เพลงจบลง และดูเหมือนบุหรี่ที่เธอขอผมไปจะหมดลงแล้ว แต่เธอไม่ได้ขอมวนต่อไป อาจเพราะเกรงใจหรือเปล่าก็ไม่รู้
" เอาบุหรี่อีกมั้ยคุณ "
" เดี๋ยวว่าจะลงไปซื้อน่ะ หิวข้าวด้วย อยากกินข้าวต้มร้อนๆ "
" อ๋อ อืมม "
...
" ไปด้วยกันมั้ยคุณ "
" คุณไปกินเจ้าไหนน่ะ "
" ตรงโลตัสปากซอยไง อร่อยอยู่เจ้าเดียวแหละ "
" ฮ่าๆ นั่นสิเนอะ ผมไปด้วย "
เพลงถัดไปในเพลลิสต์ของเธอดังขึ้น
' ในวันที่ใจ มืดมน วันที่ชีวิตหลงทางมาไกล ... '
นี่เธอก็แฟนบอดี้แสลมแหงมๆเลยยย ~
( จบ ) 🖤❤
โฆษณา