ก็ประมาณหนึ่ง เช่น เวลาเห็นโพสต์ที่ไม่เกิดประโยชน์ บ่นนู่นนี่ แต่มันก็สิทธิของเขาที่จะโพสต์
อาจเป็นเพราะเราเอาตัวเราไปยึดตาม จึงเกิดอารมณ์ ความรู้สึกร่วมไปเอง ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ เพราะเขาแสดงความคิดเห็นของตัวเอง มันพื้นที่ของเขา
สังเกตสิ โพสต์อะไรที่ถูกใจเรา คิดตรงกันกับเรา เราจะชอบ กดไลก์กดแชร์ คอมเมนต์
โพสต์ไหนที่ไม่ตรงใจเรา เราจะคิดว่า เพื่อ??? หรือคิดว่ามันไม่จำเป็นสำหรับหน้าฟีดเรา กลายเป็นว่า ดีไม่ดี 1. อันเฟรนด์ กดเลิกติดตาม แต่ประเด็นคือ ไม่ได้ไม่ชอบเพื่อนคนนี้นะ แต่เราดันเห็นโพสต์บางอย่างที่ไม่ตรงใจเรา ไปแล้วนี่สิ ก็จะมีอาการคันไม้คันมือขึ้นมา เกิดความคิดไปตัดสินแล้ว โดยเราก็จะคิดเพียงว่า “แค่โพสต์ โพสต์เดียว ก็ทำให้รู้แล้วว่าเป็นคนยังไง” มึงเป็นคนแบบนี้สินะ ได้.... อันฟอล ซึ่งเราก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย.... เราตัดสินคนจากข้อความได้ 100% เลยใช่ไหม ??? อันไม่รู้ว่าเอามาวัดได้รึเปล่า
คือ เราไม่ได้เรียนจิตวิทยา แต่เราจะไม่คิดแบบนั้นกับใคร เพราะในขีวิตคนเรา มีหลายเรื่อง หลายมุม มุมดีๆมุมชั่วๆ
ในปัจจุบันมันเกิดขึ้นแล้วก็ห้ามไม่ได้เช่นกัน บนฟีดจะเห็นเยอะ การโพสต์ด่า ว่า บุคคลลอยๆ
เราจะเห็นโพสต์ประมาณว่า เป็นการโพสต์ดักไว้ก่อน เพราะรู้ว่าอาจมีคนไม่เห็นด้วย เช่น ใครไม่ชอบอันเฟรนด์ได้เลย??? บางคนก็เลือกที่จะเป็นฝ่ายกดอัลฟอล อันเฟรนด์ก่อนเลย มันก็คือ วิธีจัดการกับ toxic
แต่ก็นะก็แค่เพื่อนในออนไลน์ ปัญหาคือ เพื่อนออนไลน์กับในชีวิตจริง ดันอยู่ในที่เดียวกัน !!!!!!
เราจะตัดความเป็นเพื่อนกับคนนั้นในชีวิตจริงไปด้วยก็ได้ เพียงเพราะความคิดเห็นที่แสดงออกในออนไลน์
เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน กับใครบ้างไม่รู้...แต่เรามีอะไรบางอย่างที่เราสัมผัสได้ อันนี้ไม่มีหลักการใด มาวัด เราใช้ความรู้สึกล้วนๆ ซึ่งอาจจะไม่ถูกต้องหรือเอามาวัดประเมินสถิติได้ เพราะเราก็ไม่มีแอปพลิเคชั่น เช็ดใครอันเฟรนด์ ใครอันฟอลไปกี่คน??? ซึ่งมันจะประสาทกิน
เนื่องด้วย เราไม่ใช่คนอันเฟรนด์ หรือ เลิกกดติดตามเพียงเพราะเพื่อนมันคิดต่าง เราก็อาจจะไม่กดถูกใจโพสต์นั้น และเราก็ไม่ได้มานั่งตามฟีดทุกโพสต์ของใครได้ เดี๋ยวนี้ชอบยังไม่กดไลก์เลย เพราะเราไม่อยากเล่นเฟซบุ๊กแล้ว ไม่ไถ่ฟีด หาๆๆๆๆ ใครโพสต์อะไรบ้างอีกแล้ว เปิดแอปปุ๊บ ขึ้นโพสต์ใครให้เห็นบ้างก็ตามนั้นเลย ไถ่ไม่เกิน 5 ครั้ง นี่ก็คือวิธีแก้ toxic ด้วยลดจำนวนลดบ้าง
พีคหน่อยก็
2. ไปร่วมแสดงความคิดเห็น บางข้อมูลที่เราไม่เห็นด้วย นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง แบบกูขอ ...จัดการสิ่งนี่ ด้วยการแสดงความคิดที่ต่างไปตอบโต้ในข้อมูลบางอย่างที่ไม่ตรงกัน
แต่ถ้ามันเกิดการรับฟังกันและกัน อันนี้เกิดประโยชน์ แสดงความคิดเห็นอย่างไร? ให้อีกฝ่าย คิดตามและเอามากลั่นกรอง ทบทวนว่า ทำไมเราคิดไม่ตรงกัน ทำไมเขาคิดแบบนั้น? ด้วยการใช้สติ แต่คงไม่ได้ทำได้ทุกคน มันจึงกลายเป็นการทะเลาะตอบโต้กันด้วยความเอาชนะ เอาให้รู้ว่ากูถูกมึงผิด
วิธีแก้เลือกที่จะแก้ที่ตัวเองดีกว่า เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรผิด เช่น มาเล่น blockdit เอาสาระ ตามข่าว หรือ กดอันฟอลคนที่เราไม่โอเค หรือไม่เล่นเฟซบุ๊กแทน โดยเฉพาะช่วงนี้ทั้งตัวเราและเพื่อน ก็อาจจะมีความ toxic ให้แก่กัน บางทีเราก็ไม่รู้ตัว
ก็สมัยนี้ลงรูปไปเที่ยว ไปกิน ก็เป็น toxic ไปแล้ว อารมณ์ประมาณว่า คุณมีความสุขในสถานการณ์แบบนี้หรอ ซึ่งบางทีเราไม่ได้สุขอะไร แต่เราใช้เฟซบุ๊ก เพื่อจะทำให้เราสุข หลังจากที่เราก็เสพข่าวใน เฟซบุ๊กนั่นแหละ ทุกวันนี้ข่าวเฟซบุ๊กก็ไว เกือบจะทวิตเตอร์ เพราะจะมีคนแชร์มาอีกที แค่เห็นบนฟืดก็จะพอเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น???
สรุป
ไม่ว่าจะโพสต์ อวดหรูอยู่สบาย/เห่อลูก/เห่อสัตว์เรื่อง/เห่อสิ่งของ / แต่งตัว/เซลฟี่/ cafe hopping/ ทริปเที่ยว/ความรัก/ปัญหาต่างๆในขีวิต/การเมือง .......ก็เป็นเรื่อง toxic สำหรับคนได้หมด .... ถ้าไม่ชอบ ไม่พอใจ.....
วิธีจัดการแก้ toxic เราแก้ที่เขาไม่ได้ ก็แก้ที่ตัวเอง ไม่มีใครผิดเพียงเพราะแสดงความคิดเห็นหรอกค่ะ :)
ถ้ามันจะผิดเพราะไม่ตรงใจกับเรา!!! รึเปล่า ? อันนี้ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลอีกทีแล้วว่าจะใจกว้าง รับฟัง เปิดใจได้แค่ไหน.....อยากรับรู้ชีวิตของใคร มุมไหน ด้านไหนบ้าง เราเลือกเอาได้ด้วยตนเอง ไม่ชอบก็ปล่อยผ่าน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
