12 ก.ค. 2021 เวลา 12:41 • สุขภาพ
โควิดกับเศรษฐกิจที่เหลื่อมล้ำ : นี่เราลงเรือลำเดียวกันจริงๆ หรือ?
2
ในวิกฤตโรคระบาดโควิด19 ที่ดูเหมือนจะยังไม่มีทางจบง่ายๆ เราคงได้ยินหลายคนกล่าวว่า ทุกคนลงเรือลำเดียวกัน ทั้งโลกก็เผชิญกับไวรัสนี้เช่นเดียวกันกับเรา
แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว ทุกประเทศในโลกนี้ลงเรือลำเดียวกันกับเราจริงๆ หรือ?
ตั้งแต่ตอนต้นของการแพร่รระบาด คำว่า K-Shaped recovery อาจเป็นคำที่ฟังดูแปลกใหม่ ในตอนนั้นมีการคาดเดาว่าเศรษฐกิจจะฟื้นแบบไม่เท่าเทียมกันระหว่างประเทศที่รายได้สูงกับประเทศที่รายได้น้อย เนื่องจากมีทรัพยากรเพื่อใช้ในการจัดการกับโรคระบาดนี้ไม่เท่ากัน และปัจจัยพื้นฐานของประเทศต่างกัน ทุกวันนี้เราคงเริ่มเห็นภาพนี้ชัดเจนขึ้นจากการที่ได้เห็นคนอีกซีกโลกเริ่มถอดหน้ากากอนามัยและกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ เศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ในขณะที่คนอีกซีกโลกหนึ่งยังคงได้รับวัคซีนไม่ถึงครึ่งของประชากรเลย
1
ประมาณการผลเสียทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นสำหรับ การกระจายวัคซีนในแต่ละรูปแบบ
หากพูดถึงเรื่องการจัดสรรวัคซีน นั่นก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความไม่เท่าเทียมกันตั้งแต่แรกอยู่แล้วเนื่องจากประเทศยักษ์ใหญ่ที่มีรายได้สูงสามารถสั่งซื้อวัคซีนได้เป็นจำนวนมากตั้งแต่แรก และพร้อมทุ่มงบประมาณมหาศาลในการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง ขณะที่ประเทศรายได้น้อยกว่าสามารถเข้าถึงวัคซีนได้น้อยกว่า
ประเทศที่ยากจนเข้าถึงวัคซีนยากกว่ากลุ่มประเทศอื่น
แล้วในตอนนี้ที่สายพันธุ์ของไวรัสพัฒนาไปเพิ่มขึ้น เราคงเห็นแล้วว่าประเทศที่ใช้วัคซีน mRNA เป็นส่วนใหญ่ สามารถควบคุมการแพร่ระบาดที่มีการกลายพันธุ์ของไวรัสอย่างสายพันธุ์เดลต้าได้ดีกว่า และพบผู้ป่วยที่อาการหนักในสัดส่วนที่น้อยกว่า
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อมีการคิดค้นวัคซีนชนิดใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงอย่าง Novavax ซึ่งหลายประเทศตั้งตาคอยอยู่ ก็มีแต่ประเทศใหญ่ๆ ที่สามารถสั่งจองไว้ก่อนตั้งแต่เดือนมีนาคม อย่างสหรัฐอเมริกา (100 ล้านโดส) สหราชอาณาจักร (60 ล้านโดส) แคนาดา (52 ล้านโดส) ออสเตรเลีย (51 ล้านโดส) และจีน (50 ล้านโดส) ซึ่งหากจะบอกว่าประเทศเหล่านี้ได้ก้าวนำประเทศอื่นไปหลายก้าวเสมอ ก็คงจะไม่ผิดนัก
1
บอลยูโร 2020 ได้มีการผ่อนปรนมาตรการป้องกัน หลังฉีดวัคซีนเป็นที่เรียบร้อย
ขณะที่ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศกำลังพัฒนายังไม่ได้รับวัคซีน และรัฐบาลเองก็ไม่สามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยั่งยืนได้ เศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้จึงอาจถูกทิ้งไว้ข้างหลังอีกหลายปี และชนชั้นกลางในประเทศกำลังพัฒนาซึ่งถือเป็นหลักในการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจก็ได้ลดลงไปอย่างมาก ทาง United Nations Development Programme (UNDP) ได้คาดว่าประเทศกำลังพัฒนาอาจจะต้องสูญเสียรายได้ไปกว่า 2.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
กรุงเทพฯ และปริมณฑลมีมาตรการล็อกดาวน์ ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. 64
ประธานธนาคารโลกเองก็ออกมาเตือนเช่นกันว่าการพัฒนาของประเทศกำลังพัฒนาอาจจะถอยหลังไปกว่าทศวรรษ
เนื่องจากการระบาดของโควิดมีผลต่ออัตราการตายของเด็กแรกเกิดที่สูงขึ้น พัฒนาการของเด็กแย่ลง จากข้อมูลพบว่าแม้ในหลายๆ ประเทศจะต้องปิดโรงเรียนเหมือนกัน แต่ค่าเฉลี่ยของวันที่ขาดเรียนไปในประเทศรายได้ต่ำ และรายได้ปานกลางค่อนไปทางต่ำนั้นมากกว่าประเทศรายได้สูงถึง 2 ใน 3 เท่า (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization, UNICEF and World Bank, 2020)
1
📌 แล้วประเทศด้อยพัฒนาอยู่ตรงไหน?
แม้ว่าประเทศด้อยพัฒนาส่วนใหญ่จะได้รับความช่วยเหลือในเรื่องวัคซีนผ่านทางโครงการ COVAX แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมต่อประเทศเหล่านี้กลับหนักหนาในระยะกลางและระยะยาว เนื่องจากทั้งการจำกัดการส่งออก การท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่ยังหยุดนิ่งกว่าปีแล้วซึ่งส่งผลต่อการจ้างงานในประเทศเหล่านี้ สถานะทางการเงินของประเทศต้องเผชิญกับความท้าทายจากการที่ FDI ลดลง กลุ่มประเทศด้อยพัฒนาเกินครึ่งมีความเสี่ยงที่จะติดอยู่ในหล่มหนี้ หรืออาจจะติดอยู่แล้วด้วยซ้ำ อีกทั้งประเทศเหล่านี้มีที่ว่างในการออกนโยบายของภาครัฐที่จำกัด จึงอาจไม่สามารถออกนโยบายเพื่อมาช่วยเหลือธุรกิจได้อย่างเพียงพอ
รายงานยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 แบบรายวัน
ทั้งนี้ หากดูจากสถานการณ์ทั่วโลกแล้ว บางคนพูดแบบเสียดสีว่า เราอาจจะลงเรือลำเดียวกันจริงๆ แต่เรือลำนั้นคือเรือไททานิคที่มีการแบ่งผู้โดยสารเป็น 3 ชั้นตามฐานะและผู้โดยสารฐานะสูงมีโอกาสรอดมากกว่า หรือถ้าจะพูดให้ถูกต้องบอกว่าเราเจอพายุลูกเดียวกัน แต่ว่าแต่ละคนอยู่บนเรือคนละลำ อยู่บนพื้นที่คนละพื้นที่ จึงได้รับผลกระทบไม่เท่ากัน บางคนอยู่บนเรือหรูที่แข็งแรง บางคนมีเรือชูชีพมารอรับ ในขณะที่บางคนมีเพียงแค่เศษไม้ให้เกาะระหว่างรอเรือลำอื่นเข้ามาช่วย
4
ความเหลื่อมล้ำมันยังไม่จบแค่ในมิติของเศรษฐกิจแต่ยังมีผลให้เกิดความเหลื่อมล้ำในมิติอื่นๆ อาทิ ด้านรายได้ ด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา แล้วก็วนเป็นวงจรให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจไปอีกเรื่อยๆ
2
ปัญหาในตอนนี้คงไม่อาจหายไปง่ายๆ แม้ท้ายที่สุดโควิดจะผ่านพ้นไป ก็คงต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้สำเร็จ…หากปราศจากความร่วมมือในการแก้ปัญหาของทุกประเทศ การพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างทศวรรษที่ผ่านมา...
5
คงสูญสลายไปเลยทีเดียว และจะกลายเป็น Lost Decade สำหรับประเทศกำลังพัฒนาเหล่านี้
2
ผู้เขียน : ชนาภา มานะเพ็ญศิริ Economist, Bnomics
ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
โฆษณา