13 ก.ค. 2021 เวลา 01:18 • หุ้น & เศรษฐกิจ
Didi Chuxing บริษัทเทคจีนที่กำลังจะเผชิญชะตากรรมตามรอยAnt groupและแจ็คหม่า
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีข่าวดังในแวดวงการลงทุนระดับโลก
Didi Chuxing บริษัทผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจองรถ คล้ายกับGrab, Uber ซึ่งปัจจุบันครองตลาดนี้กว่า80% ในประเทศจีน
ถูกคำสั่งจากทางการจีน ห้ามดาวน์โหลดสำหรับผู้ใช้ใหม่ในจีน ทำให้บริษัทที่เพิ่งเปิดตัวในตลาดหลักทรัพย์อเมริกาเพียง 4 วัน ต้องสูญเสียรายได้ไปกว่า 18,000 ล้านเหรียญ
โดยหน่วยงานรัฐบาลจีน อ้างถึงความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้แพลตฟอร์มนี้ว่า อาจจะรั่วไหลให้กับต่างชาติอย่างอเมริกา ซึ่งปัจจุบันมีปัญหาความขัดแย้งกัน
1
ถ้าดูจากเหตุผลของรัฐบาลจีนเพียงผิวเผินอาจจะฟังดูสมเหตุสมผล แต่ภายหลังเหตุการณ์ระงับการระดมทุนของAnt group เมื่อปลายปีที่แล้ว
1
ที่อ้างถึงพฤติกรรมส่วนบุคคลของ
แจ็คหม่า และการบริหารธุรกิจที่ไม่ถูกต้องของบริษัท ทั้งที่บริษัทก็ดำเนินธุรกิจทางการเงินลักษณะนี้มาหลายปีแล้ว แต่ทำไมถึงมีปัญหาในวันที่จะเปิดการระดมทุนด้วย
1
ทำให้ความน่าเชื่อถือในรัฐบาลจีนที่ปฏิบัติต่อบริษัทเทคจีนเริ่มมีเครื่องหมายคำถามว่าการลงโทษบริษัทเหล่านี้ แท้จริงแล้วมีจุดประสงค์เพื่ออะไรกันแน่
Didi Chuxing ก่อตั้งเมื่อปี2012 โดยCheng Wei เฉินเหว่ย อดีตพนักงานของอาลีบาบาและหลิ่วชิง ลูกสาวของหลิ่วฉวนจื้อ เจ้าของ Lenovo
ผ่านมา 9ปี มีการระดมทุนกว่า21ครั้ง มีมูลค่ารวมทั้งหมดกว่า22,600 ล้านเหรียญ มีผู้ถือหุ้นเป็นบริษัทลงทุนเจ้าใหญ่ในบริษัทเทคจีน เช่น Softbank,Uber, Tencent, Alibaba,Sequoia Capital และ Boyu Capital
เป็นที่รู้กันว่าบริษัทที่ดำเนินธุรกิจ อาศัยเทคโนโลยีผ่านแพลตฟอร์มในปัจจุบันน้อยมาก
หรือแทบไม่มีเจ้าไหนเลยที่สามารถทำกำไรได้ และDidi Chuxing เองก็ได้บริหารงานขาดทุนไปกว่า 6,000 ล้านเหรียญในช่วงเวลา6ปีหลังมานี้
แผนการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์อเมริกาหรือIPO ก็เป็นจริงในวันที่ 30 มิถุนายน
ตามรายงานข่าวจากสำนักข่าวBBC รายงานว่าDidi Chuxing ใช้เวลาตั้งแต่ยื่นเอกสารและกระบวนการอนุมัติจนถึงวันแรกที่เริ่มขายหุ้นใช้เวลาเพียงยี่สิบวันเท่านั้น
ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติจีนที่ยื่นเอกสารทำIPOเร็วที่สุด โดยมีการจำหน่ายหุ้นกว่า300 ล้านหุ้น
ในราคาหุ้นละ 14 เหรียญ ทำให้มีมูลค่าในการเข้าระดมทุนกว่า 4200 ล้านเหรียญ
ซึ่งเป็นการระดมทุนที่มูลค่ามากที่สุดของบริษัทสัญชาติจีนต่อจากAlibaba ที่เคยทำมูลค่าไว้ที่ 25,000 ล้านในปี2014
Didi เป็นการระดมทุนที่เป็นความหวังใหม่สำหรับการลงทุนในจีน
Global Times สื่อหลักของทางการจีนรายงานว่า ผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาลปักกิ่งแสดงความไม่พอใจอย่างมากต่อการระดมทุนครั้งนี้
เปรียบเสมือนการตบหน้ารัฐบาลปักกิ่ง ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ของความสัมพันธ์ทั้งจีนและอเมริกาไม่สู้ดีนัก
จนเป็นที่มาของการออกคำสั่งถอนแอปDidi Chuxing ออกจากApp storeของจีนและการห้ามเปิดรับผู้ใช้ใหม่ โดยใช้เหตุผลเรื่องความกังวลถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ชาวจีนจะรั่วไหลไปให้กับอเมริกา
ซึ่งมันเป็นไปได้ยากมากเพราะสถานที่เก็บข้อมูลหรือserverของผู้ใช้แอปนี้ตั้งอยู่ในประเทศจีนและการส่งต่อข้อมูลต่างๆหน่วยงานรัฐบาลจีนสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว
1
สื่อหลายสำนักได้วิเคราะห์ถึงเบื้องหลังของการลงโทษDidi Chuxing ว่าน่าจะคล้ายกับAnt group และAlibaba ของแจ็คหม่า
ถ้าไล่ดูข้อมูลผู้ลงทุนในบริษัทนี้ นอกจากผู้ถือหุ้นใหญ่อย่างบริษัทSoft Bank จากญี่ปุ่นที่มีหุ้น21.5%
ยังมีบริษัทบริหารกองทุนอย่างBoyu Capital เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นAlibaba ในช่วงปี2014 ที่เข้าตลาดหลักทรัพย์อเมริกา ซึ่งก่อตั้งโดยเจียงจื้อเฉิง หลายชายเจียงเจ๋อหมิง อดีตประธานาธิบดีและผู้นำคนที่3 ของจีน
การที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับครอบครัวของเจียงเจ๋อหมิงนี้เอง น่าจะเป็นเหุตผลสำคัญในการถูกรัฐบาลปักกิ่งลงโทษเหมือนกับที่Ant groupและAlibabaโดนมาก่อนหน้านี้
3
และมีความเป็นไปได้ว่า เฉิน เหว่ย ประธานและผู้ก่อตั้งบริษัท อาจจะถูกจับกุมและถูกกักบริเวณคล้ายกับแจ็คหม่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้
การต่อสู้แย่งอำนาจภายในพรรคคอมมิวนิสต์ระหว่างสีจิ้นผิงกับกลุ่มฝ่ายตรงข้าม ที่เวลานี้เป็นการรวมกลุ่มจากหลายฝ่าย
ทั้งกลุ่มอำนาจเก่าอย่าง
เจียงเจ๋อหมิง กลุ่มคณะทำงานอย่างหูจิ้นเถาและกลุ่มทายาทสมาชิกพรรค ยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
แม้ภายนอกจะดูเหมือนสงบเงียบคล้ายกับคลื่นใต้นํ้าที่รอคอยการประทุขึ้น
แน่นอนว่าการเลือกIPO ของDidi Chuxingในตลาดทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างอเมริกา น่าจะคล้ายกับการระดมทุนของAnt group
ที่มีการวิเคราะห์ว่าเป็นการสร้างสม ทุนทรัพย์ที่ได้จากIPO เพื่อที่จะไว้ใช้ในการต่อสู้กับสีจิ้นผิงก่อนที่จะถึงการประชุมใหญ่สมาชิกพรรคในเดือนตุลาคมนี้
ซึ่งจะเป็นประตูด่านสุดท้ายในการดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศแบบไม่มีวาระสิ้นสุด
มีสื่อบางสำนัก ได้นำเหตุการณ์นี้ไปเชื่อมโยงกับหน่วยงานเก็บข้อมูลและวิจัยอย่างThe Atlantic Council ที่เคยออกรายงานให้รัฐบาลอเมริกาที่ชื่อว่าTHE LONGER TELEGRAM : Toward a new American China strategy
เนื้อหาหลักได้พูดถึงยุทธวิธีในการจัดการปัญหาความสัมพันธ์กับจีน โดยจัดการปัญหาหลักคือการเปลี่ยนผู้นำในปัจจุบันก็คือสีจิ้นผิง
แล้วความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอเมริกาจะกลับเป็นเหมือนก่อนหน้านี้ที่มีการพึ่งพาอาศัยกันในหลายๆด้าน
หลังจากDidi Chuxing ถูกรัฐบาลจีนลงโทษ ไม่ถึง3วัน LinkDoc Technology บริษัทแพลตฟอร์มให้บริการทางการแพทย์ในเครือของAlibaba
ระงับแผนการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์อเมริกา ซึ่งเป็นอีกบริษัทหนึ่งจากจีนที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ
จากเหตุการณ์นี้อาจจะมีผลกระทบกับบริษัทจีนอีกหลายแห่งที่มีแผนจะระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์อเมริกา โดยเฉพาะ Byte dance บริษัทแม่ Tik Tok สื่อโชเซียลที่มาแรงมากในช่วงสองปีหลังนี้
ด้วยกฏเกณฑ์ที่เข้มงวดและกฏหมายที่คุมเครือของหน่วยงานทางการเงินของรัฐบาลจีน
บริษัทที่มีศักยภาพจึงเลือกไปเข้าไประดุมทุนในตลาดเสรีอย่างอเมริกา
3 บริษัทจีนที่มีการคาดการณ์ว่าจะระดมทุนมากมาย
แต่ดูเหมือนว่าแนวคิดนี้กลับถูกมองว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามของผู้นำปัจจุบัน ไม่มีความรักชาติและมีพฤติกรรมขายชาติ
1
ต้องรอดูต่อไปว่ากลุ่มนักลงทุนทั่วโลกจะมองสถานการณ์ในจีนเป็นอย่างไร ซึ่งDidi Chuxingมีแนวโน้มว่าจะถูกถอดจากตลาดหลักอเมริกาในไม่ช้า หลังจากมูลค่าของบริษัทได้ตกลงไปกว่า21,900 ล้านเหรียญ หลังจากเข้าตลาดเพียง10วัน
ราคาหุ้นของDidi ที่ไม่มีแนวโน้มจะปรับตัวขี้นเลย
แต่ที่แน่ๆคือ เริ่มมีกระแสจากสื่อบางสำนักอย่างCNBC ได้มองว่าเป็นเรื่องที่โง่มาก สำหรับการเข้าลงทุนบริษัทสัญชาติจีน ในเวลานี้
ข้อมูลอ้างอิง:
โฆษณา