12 ก.ค. 2021 เวลา 15:28 • ท่องเที่ยว
เรื่องต้องรู้เมื่อขับรถเจอช้างในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ช้างป่าเขาใหญ่
การขับรถผ่านอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีโอกาสเจอช้างเจ้าถิ่น หากเจ้าของรถแคมรี่ที่แกล้งช้างเขาใหญ่ รู้จักช้างดีกว่านั้น คงจะไม่กล้าแกล้งช้างให้โกรธอย่างแน่นอน ช้างจำรถได้ และอาจจะไม่ลืมนะ มีเรื่องราวเกิดขึ้นหลายเรื่อง ที่ทำให้บางคนถึงกับเอาชีวิตไปทิ้ง เพราะไปแกล้งช้างด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
เรื่องราวต่างๆ ต่อไปนี้ ผู้เขียนและเพื่อนสมาชิกที่ขึ้นไปกางเต็นท์อยู่บ่อยๆ ได้เจอะกันกันมา หรือฟังจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเล่า ให้ฟัง จากประสบการณ์ตรงของตัวเองหรือเจ้าหน้าที่ท่านอื่น
เวลาเจอช้างบนถนน อย่าคิดว่ามีอยู่เชือกเดียว
การแกล้งช้างแบบแคมรีคันนั้น อาจจะไม่โชคดี เพราะอาจจะเจออีกหลายตัวดักอยู่ข้างหน้า รถน้ำหนักตันกว่าๆ ช้างกระทีบตายคารถได้สบายๆ มีบางคนที่เจอช้างดักหน้าดักหลัง กรณีรถยนต์ได้รับความเสียหายจนขับต่อไม่ได้ การนำรถลงจากเขาใหญ่ ไม่ใช่เรื่องสนุกอย่างแน่นอน หากเจอหลายตัว ก่อนจะทำอะไร ที่จะทำให้ช้างโกรธ ต้องแน่ใจว่าไม่อยู่ในวงล้อมช้าง ไม่งั้นเสร็จมันแน่นอน
การขับรถผ่านช้างที่อยู่ข้างทาง
ช้างที่ยืนกินต้นไม้ ใบหญ้าข้างทาง ถ้าแกว่งหู สะบัดหาง ดูมีท่าทางอารมณ์ดี ให้รีบขับผ่าน อย่าหยุดดู เพราะจะทำให้รถติดและอาจจะ ทำให้ช้างหงุดหงิด กลายเป็นปัญหาใหญ่ตามมา อยากดูช้าง เล่นกับช้าง ในเมืองมีเยอะแยะ และปลอดภัยกว่าด้วย เพราะมีควาญช้างคอย ควบคุม ไม่เหมือนช้างป่า ให้ขับรถผ่านไปช้าๆ อย่าทำให้ตกใจ ช้างส่วนใหญ่จะชินกับรถอยู่แล้ว
รถยนต์ที่แกล้งช้าง ระวังโดนเอาคืนรถพัง
หลายคนที่มา กางเต็นท์ที่เขาใหญ่ และแกล้งช้าง ซึ่งช้างจำรถได้ มีหลายคัน ที่ได้รับความเสียหาย เพราะช้างตามเอาคืน ส่วนกรณีขับรถ จักรยานยนต์ ช้างจะจำคนขับได้ มีบางเต้นท์ ที่โดนช้างทำร้าย อย่าคิดว่าเป็นเรื่องสนุก เพราะหากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น จะไม่สามารถแจ้งความ เอาผิดช้างได้ และในป่านั้นก็เป็นถิ่นของช้าง ถ้าช้างไม่หยุด แล้วใครจะห้ามช้างได้ จะเอาชีวิตไปทิ้งเปล่าๆ
ช้างเหมือนมีหุทิพย์ และเข้าใจคำพูดมนุษย์
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติบางคนเคยมีประสบการณ์เรื่องนี้ คุยกับช้าง แล้วช้างเข้าใจ เช่น ช้างกำลังอาละวาด หรือเข้ามาป้วนเปี้ยนแถว บ้านพัก และทำท่าจะถ่ายอุจจาระใกล้ๆ บ้าน ก็เลยพูดกับช้างเบาๆ ว่า พ่ออย่าถ่ายตรงนี้เลย ขี้เกียจเก็บกวาด ช้างก็หันมามองหน้า ก็เลยต้อง พูดต่อ ตามสบายเลยพ่อ พอถ่ายเสร็จก็เดินจากไป
บางคน ขณะเจอช้าง กลางทาง ก็เปิดกระจกรถ พูดเบาๆ ว่า เพื่อขอทาง ก็สามารถขับรถผ่านไปด้วยดี หรือบางครั้ง ช้างออกมาก่อกวน บริเวณจุดกางเต็นท์ เจ้าหน้าที่ก็ใช้คำพูดเบาๆ ในลักษณะขอความร่วมมือ
สำหรับประสบการณ์ตรงที่เจอกับตัวเองก็คือ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ เพื่อนสมาชิกจากที่อื่นได้มากางเต็นท์ที่เขาใหญ่ ซึ่งเป็นสัตวแพทย์ และเคย รักษาช้างที่นี่ เมื่อมาถึงก็พูดถึงช้างที่ตัวเองเคยรักษาอยู่บ่อยๆ ว่าอยากเจอ อยากรู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็ได้ยินเสียงร้องดังสนั่นป่า ร้อง ครั้งเดียวแล้วก็เงียบไปเลย ทุกคนขนลุก และรีบบอกว่า หยุดพูดถึงได้แล้ว
อย่าคิดว่าอยู่ในรถจะปลอดภัยจากช้าง
ด้วยขนาดและน้ำหนักตัวที่ค่อนข้างมาก ช้างสามารถยกรถพลิกค่ำ หรือดันให้พลิกคว่ำได้สบายๆ หรืออาจจะใช้เท้าถีบล้อหรือตัวถังให้ ได้รับความเสียหายจนไม่สามารถขับเคลื่อนได้ และเหล็กประตูรถ ก็ไม่หนาพอที่จะป้องกันงาช้างได้อย่างแน่นอน จึงไม่ควรเสี่ยง
ช้างตัวใหญ่แต่เคลื่อนตัวได้เร็วมาก
ช้างแม้จะมีขนาดใหญ่ แต่เคลื่อนไหวได้เร็ว หนึ่งก้าว ก็เป็นเมตรและยังมีงวงซึ่งสามารถคว้ายึดจับได้ การวิ่งหนีช้างจึงมีโอกาสรอดไม่ มากนัก หากจวนตัวจริงๆ ตั้งสติแล้วใช้วิธีแบบเดียวกับที่พรานต่างประเทศใช้ ผู้เขียนเคยอ่านพบ โดยจับหางช้างเอาไว้ ช้างขยับไปทางไหน ก็วนกันอยู่ตรงนั้นแหละ แต่เหนื่อยเมื่อไหร่ก็คงเสร็จมัน
ช่วงเวลาที่มีโอกาสเจอช้างบนเขาใหญ่
ช่วงเวลาที่มีโอกาสเจอช้าง เช่น ช่วงเช้า ออกมาหากอาหารกินตามข้างทาง โดยเฉพาะหากคืนก่อนหน้ามีฝนตก มีโอกาสเจอช้างสูงมาก และช่วงหัวค่ำ ก็มีโอกาสเจอเช่นกัน
ช่วงเวลาที่มีโอกาสเจอช้างน้อยที่สุด 9:00-16:00
ช่วงนี้มีโอกาสเจอน้อยที่สุด ช่วงเช้าอาจจะออกมาหากินข้างทาง ช่วงเย็นก็เช่นกัน แต่ช่างเวลาดังกล่าวมีโอกาสเจอน้อยมาก จากประสบการณ์ขึ้นเขาใหญ่มาร่วมสิบปี เจอแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น แต่ช่วงเช้าๆ และหลัง 18:00 มีโอกาสเจอกันสูงมาก
การขับรถ ผ่าน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งยังคงเป็นป่าที่มีความสมบูรณ์ จึงมีโอกาสเจอะช้าง หรือสัตว์ป่าชนิดต่างๆ จึงควรศึกษาและปฏิบัติ ตามกฏระเบียบอย่างเคร่งครัด เพราะการกระทำของท่านเพียงคนเดียว มักจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนตามไปด้วย หรืออาจจะทำให้สัตว์ป่าถึง แก่ชีวิตได้ อย่างการให้อาหารสัตว์ป่า ข้างถนน ทำให้สัตว์เหล่านั้นมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ไม่หาอาหารกินเอง มาคอยเฝ้ารออาหารหรืออาจ จะดักปล้น เหมือนที่บางคนโดนช้างดักเอาของหลังกระบะมาแล้ว
อยากให้ทุกคนที่ได้อ่านหรือฟังแล้วปฏิบัติตามกฎของอุทยานด้วยนะคะ
ขอบคุณ แหล่งอ้างอิงจาก http://www.siamebook.com/lbro/en/life-style/565-tourist-travel/4870-elephant-khaoyai.html
โฆษณา