🇸🇬 พัฒนาประเทศแบบ Singapore Model
▪️เส้นทางจากหมู่เกาะขนาดเล็กสู่สี่เสือแห่งเอเชีย!!
สาธารณรัฐสิงคโปร์เป็นเกาะขนาดเล็กที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประวัติศาสตร์หลายช่วงเวลาที่ถูกยึดครองไปมาในยุคล่าอาณานิคม แต่ในปัจจุบันกลับกลายเป็นศูนย์กลางพาณิชย์สำคัญของโลก และเป็นศูนย์กลางการเงินใหญ่สุดเป็นอันดับสี่และเป็นหนึ่งในห้าท่าที่วุ่นวายที่สุด 🛳
แต่ไม่ได้จะพูดถึงเพียงข้อดีว่าสิงคโปร์เป็นประเทศไร้ที่ติ เพราะยังคงมีความเหลื่อมล้ำรุนแรงที่สุดในประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่ยังคงได้รับการจัดอันดับสูงในแง่การศึกษา สาธารณสุขและความสามารถการแข่งขันทางเศรษฐกิจ 🏦
บทความนี้จะมาพูดถึงสิ่งที่ประเทศเราสามารถนำบทเรียนบางประการมาปรับใช้ได้ ถึงแม้ในหลายๆส่วนสิงคโปร์ก็ยังไม่สมบูรณ์นักแต่การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในเชิงเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่ประเทศไทยต้องเร่งค้นหา ‼️
⌛ ในอดีตนั้นหากพูดถึงสิงคโปร์คงไม่มีใครสนใจหรือให้ความสำคัญมากนัก เพราะไม่มีทรัพยากรธรรมชาติเป็นของตัวเองเหมือนประเทศอื่นและมีฐานะยากจน แต่ในภายหลังจากใช้การศึกษาเป็นหัวใจก็พลิกคุณภาพของแรงงานจากหน้ามือเป็นหลังมือโดยเริ่มจากการศึกษาขั้นพื้นฐานแก่คนสิงคโปร์ทั่วไป และค่อยๆพัฒนาโดยมุ่งเน้นคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคน 👨👩👧👧
นาย เอส. ราจารัตนาม (S. Rajaratnam) เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ในสมัยนั้น เคยกล่าวว่า ในแง่การเมือง เศรษฐกิจ และทางทหาร โอกาสรอดของสิงคโปร์เกือบศูนย์ แต่สิ่งที่ทำให้สิงคโปร์พัฒนาตัวเองได้คือ “การรู้จักตัวเองดีพอ”
รู้จักในที่นี้คือรู้จุดอ่อนจุดแข็ง โดยใช้ท่าเรือน้ำลึกที่เชื่อมระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับแปซิฟิกเป็นจุดได้เปรียบในการค้ากับชาติตะวันตก และจุดอ่อนเรื่องการขาดแคลนที่ดินจึงใช้ธุรกิจหลักเป็น การเดินเรือ ธนาคาร และงานบริการ ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ใช้พื้นที่น้อย และจุดอ่อนก็กลายเป็นจุดแข็งในเรื่องระบบขนส่งที่สะดวกสามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามามากทีเดียว 🚆🚄
การที่สิงคโปร์เป็นประเทศที่เกิดมาจากการอพยพของคนรุ่นใหม่ เป็นเรื่องง่ายที่ผู้นำจะปลูกฝังทัศนคติที่มองไปข้างหน้าโดยไม่ยึดติดกับเรื่องราวในอดีต เช่น ไม่ได้ให้ความสำคัญว่าอังกฤษจะเคยเป็นประเทศที่มาล่าอาณานิคม หรือคิดว่าประเทศตนเองเคยเป็นเมืองขึ้นหรือไม่❓
▶️ เพราะนั่นไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญเลยในยุคโลกาภิวัตน์ ทำให้ประชาชนสิงคโปร์มีความยืดหยุ่นทางความคิดสูงและเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญของการยกระดับประเทศและคุณภาพชีวิต
🏴 อีกหนึ่งปัจจัยคือการที่อังกฤษเคยมายึดครองนั้นทำให้ระบบราชการและระบบกฏหมายของสิงคโปร์เรียกได้ว่า “เป็นมรดกที่อังกฤษฝากไว้” เลยทีเดียว และการใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการ กลายเป็นปัจจัยสร้างเอกภาพให้กับสิงคโปร์
และยังเป็นปัจจัยที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุนจากต่างประเทศ ในเวลาต่อมา ช่วยให้สิงคโปร์มีความได้เปรียบที่โดดเด่นในยุคเศรษฐกิจโลกาภิวัตน์ รวมถึงส่งผลไปที่คุณภาพของหลักสูตรการศึกษาที่เมื่อจบไปแล้วสามารถไปศึกษาต่อที่อังกฤษได้อย่างสบาย 🧑🎓
🏛 รูปแบบการบริหารรัฐที่มีประสิทธิผลในการรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่ซับซ้อนมากขึ้น ปัจจัยสำคัญที่เป็นรากฐานความสำเร็จในการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของสิงคโปร์ คือ บทบาทสถาบันต่างๆ ของรัฐ และค่านิยมของสถาบันดังกล่าว ประเทศต่างๆ ล้วนมีนโยบายส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบเดียวกับสิงคโปร์
แต่ต้องยอมรับว่าถึงแม้สิงคโปร์จะมีระบบกลไกที่แข็งแกร่ง แต่ในระบอบการปกครองนั้นก็ยังไม่สมบูรณ์เท่าไรกับการเป็นประชาธิปไตยแบบไม่เต็มใบที่กำลังถูกเรียกร้องจากคนรุ่นใหม่ในขณะนี้ จากการผูกขาดของพรรคการเมือง ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างความคิดของคนต่างวัย 🦳🦱🦰
เพราะคนรุ่นก่อนยังสำนึกบุญคุณของ ลีกวนยู ที่พัฒนาประเทศมาจนถึงจุดนี้ ในขณะที่คนรุ่นใหม่เห็นว่าการผูกขาดทางการเมืองเริ่มไม่ใช่คำตอบของประชาธิปไตยในสิงคโปร์อีกต่อไป ควรมีการแข่งขันระหว่างพรรคการเมืองเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ 🗣
คนรุ่นใหม่จึงเริ่มโน้มเข้าหาคุณค่าเสรีนิยม มองตัวเองเป็นพลเมืองโลกมากกว่าที่จะยึดติดกับค่านิยมดั้งเดิมของชาติ และยังกล้าวิจารณ์รัฐบาลตามสื่อโซเชียลมีเดีย ในขณะที่ทางการสิงคโปร์ก็ยังคงไม่หยุดความพยายามที่จะตามปิดปากนักเคลื่อนไหวผู้เห็นต่างเหล่านี้ด้วยตัวบทกฎหมายที่รุนแรงจนหลายคนต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ ‼️
ถึงแม้สถานการณ์จะคล้ายคลึงกับประเทศไทยแต่มีบริบทต่างกันเพราะระบบราชการของสิงคโปร์ยังมีภาพลักษณ์ที่ขาวสะอาดและประชาชนเชื่อถือมาก แต่การที่กำลังจะถูกส่งผ่านอำนาจไปยังผู้นำรุ่นที่ 4 ซึ่งไม่ใช่คนตระกูลลีแล้ว
หากรัฐบาลหน้าไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ดี หรือหากผู้นำคนใหม่พิสูจน์ความสามารถไม่ได้ ความชอบธรรมก็อาจลดลงอย่างรวดเร็ว การขับไล่รัฐบาลก็อาจเป็นไปได้ในประเทศที่สงบอย่างสิงคโปร์ 🤔
▫️สรุปทั้งหมดบทความนี้ก็เป็นเส้นทางของสิงคโปร์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จะเห็นว่ามีทั้งมุมดีและมุมที่กำลังจะถูกพัฒนา นั่นแสดงให้เห็นว่าประเทศที่พัฒนาแล้วไม่จำเป็นต้องไร้ที่ติ แต่ต้องรู้จักตัวเองดีและคิดถูกทางเหมือนสิงคโปร์
▫️ประเทศไทยมีอยู่หลายประเด็นที่สามารถนำบทเรียนของสิงคโปร์มาปรับใช้ได้ โดยไม่เกี่ยวว่าสิงคโปร์มีประชากรเท่าไร เพราะประเทศแต่ละประเทศล้วนเรียนรู้กันและกันตั้งแต่อดีต การมีอคติทางความคิดอาจจะเป็นการปิดโอกาสในการพัฒนาประเทศด้วยตัวเราเองได้
▫️เพราะฉะนั้นการรู้จักตัวเองดีพอจะเป็นกุญแจหลักที่จะทำให้ไทยเป็นประเทศที่พัฒนาต่อไปได้ ซึ่งก็ต้องฝากความหวังไว้กับผู้ที่มีอำนาจในประเทศเราว่าจะสามารถพาประเทศไทยไปได้หรือไม่❓
หากชื่นชอบบทความนี้อย่าลืมกดไลค์ แชร์และติดตามให้เนิร์ดเซอรี - Nerdsery ด้วยนะครับ 🥰🙏🏻
- 13
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
