14 ก.ค. 2021 เวลา 03:55 • หนังสือ
#34 เล่ม 3 หน้า 159 ~ 163
...
N : ดังนั้นสิ่งที่ผมอยากรู้ก็คือ อะไรคือ "สัมผัสพิเศษ หรือ พลังจิต" (psychic power) ครับ❓
...
...
...
G : พวกเธอทุกคนมีสิ่งที่เธอเรียกว่า "สัมผัสพิเศษ" นี้ จริงๆแล้วมันก็คือ "สัมผัสที่ 6" (sixth sense) นั่นล่ะ
✴️พวกเธอทุกคนล้วนมี "สัมผัสที่ 6 เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ" กันทั้งนั้น✴️
✨สัมผัสพิเศษ หรือ สัมผัสที่ 6✨ นี้ คือ :
⏺️ ความสามารถที่จะออกจากกรอบของประสบการณ์อันคับแคบจำกัดสู่มุมมองที่กว้างไกลขึ้นของเธอ
⏺️ คือความสามารถที่จะถอยออกไปมองภาพใหญ่
⏺️ คือความสามารถที่จะรู้สึกหรือสัมผัสได้มากกว่าสัมผัสส่วนตนอันคับแคบจำกัด★ (ซึ่งเธอคิดว่านั่นคือทั้งหมดของตัวเธอ)
★สัมผัสส่วนตนอันคับแคบจำกัด ก็คือ ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของเรา (ตา หู จมูก ลิ้น ผิวกาย) ~ แอดมิน
⏺️ คือความสามารถที่จะรับรู้ได้มากกว่าที่รับรู้อยู่ตามปรกติ
⏺️ คือความสามารถที่จะเข้าถึง "ความจริงอันกว้างใหญ่กว่า" ที่อยู่รอบตัวเธอ
⏺️ คือความสามารถที่จะสัมผัสได้ถึงพลังงานในอีกรูปแบบหนึ่ง
N : เราจะพัฒนาความสามารถนี้ขึ้นมาได้ยังไงครับ❓
G : "พัฒนา" เป็นคำที่ดีมาก มันก็คล้ายกับกล้ามเนื้อที่พวกเธอมีกันอยู่ทุกคน ทว่าบางคนก็เลือกพัฒนามัน แต่หลายคนก็ไม่ และเมื่อไม่มีการพัฒนา มันจึงมีสมรรถภาพต่ำ
✴️การพัฒนา "กล้ามเนื้อของสัมผัสพิเศษ" นี้ เธอต้องฝึกฝนมัน ฝึกใช้มัน ใช้มันทุกวัน ใช้มันตลอดเวลาให้ได้✴️
📌 ตอนนี้เธอมีกล้ามเนื้อนั้นอยู่แล้ว แต่มันยังเล็กและอ่อนแอเพราะไม่ค่อยได้ใช้
📌 ซึ่งบางครั้งเธอจะถูก "กระตุกหรือกระตุ้น" ด้วยการหยั่งรู้ภายในบางอย่าง แต่เธอก็ไม่ได้ทำตาม
📌 เธออาจรู้สึก "สังหรณ์ใจ" กับอะไรบางอย่าง แต่เธอก็เพิกเฉย
📌 เธอเกิดความฝันหรือเกิด "แรงบันดาลใจ" ขึ้นมาแต่เธอก็ปล่อยมันผ่านไปโดยที่ไม่ได้สนใจอะไรเลย
✨ขอบคุณพระเจ้าที่เธอให้ความสนใจกับการ "กระตุก" ของหนังสือเล่มนี้ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ได้อ่านถ้อยคำเหล่านี้อยู่✨
📌 เธอคิดว่าตัวเองอยู่ๆก็ได้มาพบเจอกับถ้อยคำเหล่านี้ด้วยความบังเอิญอย่างนั้นหรือ❓
ดังนั้น "ขั้นแรก" ในการพัฒนาพลังนี้ก็คือ : ✨ให้รู้เสียก่อนว่าเธอมีมันอยู่แล้วและสามารถใช้มันได้✨
✴️ จงใส่ใจกับทุกลางสังหรณ์ที่มี
✴️ ทุกความรู้สึกที่เกิด
✴️ ทุกการ "กระตุก" จากการหยั่งรู้ภายใน
✨จงใส่ใจ✨
จากนั้นก็จง : ✴️ทำตามสิ่งที่ตัวเองหยั่งรู้หรือรู้สึกนั้น✴️
💢อย่าปล่อยให้ความคิดต้อนเธอออกจากมัน
💢อย่าปล่อยให้ความกลัวดึงเธอออกไป
✴️ ยิ่งเธอทำตามการหยั่งรู้ภายในของตัวเองโดยไม่หวาดหวั่นมากเท่าไหร่ การหยั่งรู้นั้นก็จะยิ่งเป็นประโยชน์ต่อชีวิตเธอมากขึ้นเท่านั้น ✴️
📌 เธอมีมันอยู่มาโดยตลอด เพียงแต่ตอนนี้เธอเพิ่งเริ่มจะให้ความสำคัญกับมันเท่านั้นเอง
N : แต่ผมไม่ได้หมายถึงความสามารถทางจิตแบบที่เอาไว้ส่องหาที่จอดรถแล้วเจอเสมออะไรทำนองนั้นนะครับ แต่หมายถึงความสามารถทางสัมผัสพิเศษ (psychic ability) ของจริงเลย แบบที่มองเห็นอนาคตได้ หรือแบบที่ทำให้เรารู้เรื่องราวต่างๆของผู้คนที่ปรกติแล้วเราไม่มีทางรู้ได้
G : ฉันก็หมายถึงเรื่องพวกนั้นด้วยเหมือนกัน
N : สัมผัสพิเศษนี้มันมีกระบวนการทำงานยังไงครับ❓
ผมควรฟังคนที่มีสัมผัสพิเศษเหล่านี้หรือเปล่า❓
ถ้าผู้มีสัมผัสพิเศษทำนายว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับผมแล้วผมจะสามารถเปลี่ยนมันได้มั้ย หรืออนาคตของผมถูกกำหนดมาแล้วและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้❓
ทำไมผู้มีจิตสัมผัสบางคนถึงบอกเรื่องราวชีวิตของเราได้ทันทีที่เราเดินเข้าไปในห้อง❓
แล้วถ้า...
G : เดี๋ยวๆๆ นั่นมัน 4 คำถามใหญ่ๆแล้วนะ ใจเย็นๆก่อน ไม่ต้องรีบ ค่อยๆไปทีละคำถาม
N : ได้ครับ สัมผัสพิเศษนี้มันมีกระบวนการทำงานยังไงครับ❓
G : ปรากฏการณ์ทางจิตนั้นมีกฏอยู่ 3 ข้อ ซึ่งจะทำให้เธอเข้าใจว่าสัมผัสพิเศษนั้นทำงานยังไง
3 ข้อที่ว่านั้นก็คือ :
1️⃣ ทุกความคิดคือพลังงาน
2️⃣ ทุกสิ่งอยู่ในสภาวะเคลื่อนไหว
3️⃣ ทุกเวลาคือห้วงปัจจุบันขณะ
📌 ผู้มีสัมผัสพิเศษคือคนที่เปิดการรับรู้ของตนสู่ประสบการณ์ที่ปรากฏการณ์ของการสั่นสะเทือนก่อให้เกิดขึ้น★ ซึ่งการสั่นสะเทือนนี้บางครั้งก็ก่อให้เกิดเป็นภาพที่ผุดขึ้นในใจ บางครั้งก็ก่อให้เกิดเป็นความคิดที่อยู่ในรูปของถ้อยคำ
★การสั่นสะเทือนก่อให้เกิดพลังงาน ~ แอดมิน]
✨ผู้มีสัมผัสพิเศษขั้นสูงจะเชี่ยวชาญในการรู้สึกถึงพลังงานเหล่านี้✨
ตอนแรกอาจไม่ง่ายเพราะพลังงานเหล่านี้จะเบาบางมาก ผ่านไปเร็วมาก และละเอียดอ่อนมาก คล้ายสายลมบางเบาในค่ำคืนฤดูร้อนที่เธอรู้สึกว่ากำลังไล้ผ่านเส้นผม - แต่อาจไม่ใช่ก็ได้ ราวเสียงแผ่วเบาที่อยู่ไกลออกไปที่เธอคิดว่าตัวเองได้ยิน - แต่ก็ไม่แน่ใจ ดุจเงาตระคุ่มไหวของอะไรสักอย่างตรงปลายหางตาซึ่งเธอสาบานได้เลยว่ามันอยู่ตรงนั้น - แต่พอหันไปมองก็ไม่เห็นแล้ว มันหายไปแล้ว ตกลงเมื่อครู่มีอะไรอยู่ตรงนั้นจริงๆหรือเปล่า❓
นั่นคือคำถามที่ผู้มีสัมผัสพิเศษขั้นต้นมักจะสงสัยอยู่เสมอ
แต่ผู้มีสัมผัสพิเศษขั้นสูงจะไม่สงสัยและไม่ถามอะไรแบบนั้น
📌 เพราะแค่คิดถามก็เป็นการผลักคำตอบออกไปแล้ว "การถามจะทำให้เกิดการคิด" ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีผู้มีสัมผัสพิเศษขั้นสูงคนไหนคิดอยากทำ
📌🔸การหยั่งรู้🔸 ไม่ไช่เรื่องของความคิดที่เกิดจากจิตใจ จะเกิดการหยั่งรู้ได้เธอต้องออกจากความคิด เพราะการหยั่งรู้เกิดจาก ✨วิญญาณ✨
✴️การหยั่งรู้คือโสตของวิญญาณ✴️
📌 วิญญาณคือเครื่องมือเดียวที่ไวพอจะ "ดักจับ" แม้แต่การสั่นสะเทือนที่เล็กน้อยที่สุด ไวพอที่จะ "รู้สึก" ถึงพลังงานเหล่านี้ ไวพอที่จะสัมผัสได้ถึงสารพัดคลื่นในสนามแห่งพลังงาน และสามารถตีความคลื่นเหล่านั้นได้
เธอมีหกสัมผัส...ไม่ใช่ห้า ผัสสะแห่งรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส (ทางผิวกาย) และ... "การตระหนักรู้"★
★การตระหนักรู้ หรือผู้รู้ หรือตัวรู้ หรือจิตรู้ ~ แอดมิน
นี่ล่ะคือคำตอบว่า "สัมผัสพิเศษ" นั้นทำงานอย่างไร
📌 ทุกครั้งที่เธอเกิดความคิด ความคิดนั้นจะส่งพลังงานออกมา (เพราะเกิดการสั่นสะเทือน)
✴️ตัวความคิดนั่นล่ะคือพลังงาน✴️
📌 วิญญาณของผู้มีสัมผัสพิเศษจะ "ดักจับ" พลังงานเหล่านี้ได้ (ทุกคนสามารถดักจับพลังงานเหล่านี้ได้เพราะทุกคนล้วนมีสัมผัสพิเศษ)
📌 แต่ผู้มีสัมผัสพิเศษที่เชี่ยวชาญจะไม่หยุดคิดเพื่อตีความ เพียงแค่บอกออกไปตรงๆว่าพลังงานนั้นให้ความรู้สึกอย่างไร นี่คือเหตุผลว่าทำไมผู้มีสัมผัสพิเศษที่เชี่ยวชาญถึงรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
📌 ทุกความรู้สึกที่เธอเคยมีจะถูกบันทึกไว้ในวิญญาณ 🔸วิญญาณของเธอคือผลรวมของทุกความรู้สึกที่เธอเคยมี🔸 มันคือคลังเก็บความรู้สึกหรือเครื่องบันทึก แม้ว่ามันจะถูกเก็บเอาไว้เมื่อหลายปีมาแล้ว แต่ผู้มีสัมผัสพิเศษที่เปิดกว้างแล้วอย่างแท้จริงจะสามารถ "รู้สึก" ถึง "ความรู้สึก" ที่ถูกเก็บไว้เหล่านั้นได้ 🔹ที่นี่และเดี๋ยวนี้🔹 เพราะ ✨ทั้งหมดล้วนคือปัจจุบันขณะ✨
N : แท้จริงแล้วไม่มีสิ่งที่เรียกว่าเวลา...
G : นั่นล่ะที่ทำให้ผู้มีสัมผัสพิเศษที่เชี่ยวชาญสามารถบอกถึง "อดีต" ของเธอได้
📌 "อนาคต" ก็ไม่มีอยู่จริง ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ ทุกปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งคลื่นของพลังงานออกมา และจะประทับภาพที่มิอาจลบเลือนลงบนแผ่นบันทึกภาพแห่งเอกภพ ผู้มีสัมผัสพิเศษที่เชี่ยวชาญจะเห็น (หรือรู้สึกถึง) ภาพของ "อนาคต" ที่เหมือนกับว่ามันกำลังเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งจริงๆแล้วมันก็กำลังเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันจริงๆนั่นล่ะ ผู้มีสัมผัสพิเศษบางคนบอก "อนาคต" ได้ก็เพราะแบบนี้
📌 ในทางชีวภาพมันเกิดขึ้นได้อย่างไรรู้ไหม❓ (บางทีเรื่องนี้เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากระบวนการมันเป็นยังไง) ด้วยการกำหนดจิตอย่างจดจ่อ ผู้มีสัมผัสพิเศษคนนั้นได้ส่งอนุภาคของตัวเองในระดับที่เล็กกว่าโมเลกุลออกไป ซึ่ง "ความคิด" (จะเรียกมันว่าอย่างนั้นก็ได้) ของเขาได้ออกจากร่างไปและพุ่งสู่จักรวาลไปไกลพอและเร็วพอจะหันกลับมา "เห็น" เหตุการณ์ "ปัจจุบัน" ที่เธอยังไม่ได้ประสบจากระยะไกล
N : การเดินทางข้ามเวลาในระดับที่เล็กกว่าโมเลกุล❗
G : จะพูดอย่างนั้นก็ได้
N : การเดินทางข้ามเวลาในระดับที่เล็กกว่าโมเลกุล❗
G : นั่นนนนนนนน...ล่ะ เราได้ตัดสินใจแล้วที่จะเล่นตลกสลับกับการสนทนา
N : ไม่ครับ ไม่ ผมไม่ป่วนแล้ว สัญญาครับ ว่าต่อเลย ผมอยากรู้เรื่องนี้สุดๆ
G : ได้เลย
📌 พออนุภาคระดับที่เล็กกว่าโมเลกุลของผู้มีสัมผัสพิเศษคนนั้น (หลังจากที่พุ่งออกไป) ได้ซึมซับรับเอาพลังงานของภาพที่ได้จากการกำหนดจิตแล้ว อนุภาคนั้นก็พุ่งกลับเข้าร่างของเขาพร้อมกับพลังงานที่ซึมซับมานั้นด้วย
📌 จากนั้นเขาก็จะ "ได้รับภาพ" (บางทีก็มีอาการสั่นกระตุก) หรือ "เกิดความรู้สึกบางอย่าง" และเขาจะพยายามทุกวิถีทางที่จะ "ไม่ประมวลผลหรือตีความ" ข้อมูลอะไรทั้งนั้น แต่จะแค่บรรยายมันออกมาในทันที
📌 ผู้มีสัมผัสพิเศษที่เชี่ยวชาญเรียนรู้ที่จะไม่ตั้งคำถามว่าตัวเอง "กำลังคิด" อะไรอยู่ หรือว่าวินาทีนั้นตัวเอง "กำลังเห็น" หรือ "กำลังรู้สึก" อะไร แต่เพียงแค่ปล่อยให้มัน "ไหลผ่านตัวเข้ามา" โดยคงสภาพเดิมไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
หลายอาทิตย์ผ่านไป หากภาพเหตุการณ์ที่เห็นหรือ "รู้สึก" นั้นเกิดขึ้นจริง ผู้มีสัมผัสพิเศษคนนั้นก็จะถูกเรียกว่า "ผู้มีตาทิพย์" (clairvoyant) - ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ❗ (ก็เขาเห็นอนาคตจริงๆ)
N : ถ้าอย่างนั้นทำไม "คำทำนาย" บางอย่างถึง "ผิด" ได้ล่ะครับ❓ เป็นเพราะว่าเหตุการณ์นั้นไม่เคย "เกิดขึ้น" มาก่อนหรือเปล่า❓
...
...
...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา