.
ครูเต่ามีเรื่องจริงที่เจอมากับตัวเอง
มีร้านค้าร้านนึง
ใช้หน้าบ้านของตัวเอง เป็นร้านขายของ
วันนั้น ลูกค้าก็มาถึง กำลังจะซื้อของ
เดินไปเดินมาก็ไม่เจอใคร
ก็เลยเรียกคนขายของ
ตั้งนานกว่าเค้าจะออกมาขายของให้
.
ด้วยความที่ลูกค้าท่านนี้อาวุโสแล้ว
และคงเคยรู้จักกัน ด้วยอารมณ์หงุดหงิด
ก็เลยแนะนำคนขายว่า
นี่ลูกค้าเอาเงินมาจากบ้าน มาถึงที่แล้ว
เราน่าจะมีป้ายบอกว่า กรุณากดกริ่ง
หรือกรุณาโทร ไปเบอร์นี้
.
แล้วลูกค้ามา ต้องสังเกต และ ต้อนรับ
สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ ให้เค้ารู้ว่านี่เป็นร้านค้า
ให้ลูกค้าประทับใจ
.
นี่เป็นคำแนะนำที่ดีเลยใช่มั้ยครับ
แต่พอลูกค้าท่านนี้กลับไป
พวกเราก็น่าจะรู้นะครับ
ว่าคนขายของ เค้าจะมีปฎิกิริยายังไง
.
นั่นแหละครับ แม้เป็นคำแนะนำที่ดี
แต่ถ้าคนไม่พร้อมจะรับฟัง
ก็ไม่มีประโยชน์
แถมมีโทษทำให้คนอื่นมาเกลียดคนที่แนะนำด้วย
.
เหมือนสลัดผักอาจจะมีประโยชน์
แต่เอาไปให้คนที่เกลียดผัก เค้าก็ไม่กิน
แถมยังด่าเราที่ไปบังคับเค้าด้วย
.
เคล็ดลับก็คือ
ก่อนจะแนะนำใคร
ให้ทำให้เค้าเป็นพวกเดียวกับเราก่อน
ไม่มีมนุษย์คนไหน
ยินดีกับคำแนะนำของศัตรูแม้รู้ว่ามันดีก็ตาม
.
หลังจากเป็นพวกเดียวกัน เป็นมิตรกันแล้ว
ก็ต้องดูกาลเทศะด้วย
ว่าเค้าพร้อมที่จะรับคำแนะนำหรือยัง
ถ้าไม่พร้อม ก็เก็บคำแนะนำของเราไว้ดีกว่าครับ
แม้เราจะหวังดีกับเค้าด้วยใจจริง
แต่คนไม่พร้อมที่จะรับฟังเรา
เค้าก็ไม่สนใจคำแนะนำเราแถมมองเราเป็นศัตรู
บางครั้งก็ว่าเราไม่เข้าใจเค้าเข้าไปอีก
.
ครูเต่าเป็นคนที่ชอบแนะนำคนอื่นโดยสันดาน
มีประสบการณ์ตรง ตอนนี้ก็เลยต้องระมัดระวังตัวเองด้วย
เพราะในชีวิต ไม่อยากสร้างศัตรูกับใครอีกแล้วครับ
เพราะความแค้นของคนมันน่ากลัวมาก
.
หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ
ตามนั้น