14 ก.ค. 2021 เวลา 14:15 • อาหาร
สวัสดีค่ะวันนี้กบมีเทคนิคการทำอาหารญี่ปุ่นให้อร่อยด้วยวิธีง่ายๆมาฝากค่ะ
วิธีที่ว่าก็คือ การใส่เครื่องปรุงตามลำดับ”สะ(さ)ชิ(し)สุ (す)เสะ(せ)โสะ(そ)ค่ะ
ก่อนอื่นเรามาดูกันค่ะว่าแต่ละคำมีความหมายอะไรกันบ้าง
1.สะ (さ)คือ สะโตะ(砂糖)น้ำตาล นั่นเองค่ะ
น้ำตาลเป็นเครื่องปรุงตัวแรกที่จะใช้ปรุงรสอาหารค่ะ เพราะ น้ำตาลจะซึมเข้าสู่เนื้อของวัตถุดิบ(ผัก,เนื้อสัตว์)ได้ช้าค่ะ
2.ชิ(し)คือ ชิโอะ(塩)เกลือค่ะ
เกลือจะซึมเข้าสู่เนื้อของวัตถุดิบได้ไวกว่าน้ำตาล
ดังนั้นต้องใส่เกลือหลังน้ำตาลค่ะ เพราถ้าใส่เกลือลงไปก่อนน้ำตาล รับรองได้ว่าอาหารมื้อนั้นอาจจะหนักเค็มได้ค่ะ ต้องระวังค่ะ
3.สุ(す)คือน้ำส้มสายชูค่ะ(酢)
4.เสะ(せ) คือ โชยูค่ะ(醤油) ในสมัยก่อนคนญี่ปุ่นจะเรียกโชยู ว่า เสะอุยูค่ะ せうゆ
5.โสะ(そ)ตัวสุดท้าย คิดว่าหลายๆคนคงพอจะเดาออกนะค่ะว่าคืออะไร
ใช่ค่ะ โสะ ในที่นี้หมายถึง มิโสะค่ะ(味噌)
นิคุจะงะ(หมูต้มมันฝรั่ง)
ทั้งน้ำส้มสายชู โชยู และมิโสะ ต่างก็เป็นเครื่องปรุงที่ได้จากการหมักดองซึ่งจะมีกลิ่น ความหอมและรสชาติเฉพาะตัวค่ะ
ดังนี้เครื่องปรุงทั้งสามชนิดนี้จะใส่เป็นลำดับสุดท้ายค่ะเพื่อคงความหอม กลิ่น และรสชาติเฉพาะตัวไว้ค่ะ
ตัวอย่าง “มิโสะ” ที่ใช้ทำซุปมิโสะ จะต้องปิดแก๊สก่อนแล้วค่อยละลายมิโสะลวไปในซุปค่ะเพราะถ้าเราใส่มิโสะลวไปตั้งแต่แรกแล้วต้มมิโสะตนเดือด รับรองได้เลยค่ะว่าซุปมิโสะหม้อนั้น ไม่กลิ่นหอมของมิโสะและไม่เหลือรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของมิโสะชนิดนั้นแน่นอนค่ะ
เอาล่ะค่ะรู้จัก “สะ ชิ สุ เสะโสะ”กันไปแล้วนะค่ะ
พอมาถึงตรงนี้หลายๆคนอาจจะคิดว่าเครื่องปรุงอาหารญี่ปุ่นมีแค่นี้ แค่ 5 ตัวนี้
แต่ยังค่ะยังไม่ครบมีอีก 2 ตัวค่ะ และเป็นเครื่องปรุงที่สำคัญ ในอาหารญี่ปุ่นด้วยค่ะ
มาดูกันค่ะว่าคืออะไร คือ สาเกะ(酒) และมิริน(みりん)ค่ะ คุ้นกันมากเลยใช่ไหมค่ะ
ส่วนใหญ่อาหารญี่ปุ่นจะต้องมี 2 ตัวนี้ใส่ลงไปในอาหารเกือบทุกชนิดค่ะ ลองสังเกตกันดูนะค่ะ
อาหารที่กบทำส่วนใหญ่ก็จะใช้ สาเกะและมิริน ปรุงเกือบทุกชนิดเหมือนกันค่ะ
แล้ว เราจะใส่สาเกะ และมิรินตอนไหนดี
คำตอบคือ ใส่ไปพร้อมกับน้ำตาลค่ะ
เหตุผลที่ต้องใส่เครื่องปรุงทั้งสองลงไปตั้งแต่ตอนแรกเพราะ
1.สาเกะมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม ดังนั้นต้องต้มให้แอลกอฮอล์ระเหยก่อนค่ะ
2.มิริน มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมเหมือนกันสาเกะ ดังนั้นต้องต้มให้แอลกอฮอล์ระเหยค่ะ
และมิรินยังช่วยเคลือผิวของ วัตถุดิบที่จะใช้ทำอาหารไม่ให้เละเกินไปในระหว่างที่ต้มได้ค่ะ
**มิรินมีรสหวานเหมือนน้ำตาล แต่ไม่หวานเจี๊ยบ จะหวานแบบกลมกล่อม เป็นธรรมชาติมากกว่าค่ะ
และทั้งหมดนี่ก็คือเทคนิคการทำอาหารญี่ปุ่นให้อร่อยได้ง่ายๆด้วยเทคนิคการใส่เครื่องปรุงตามลำดับ “สะ ชิ สุ เสะ โสะ”ค่ะ
ส่วนใหญ่อาหารญี่ประเภทต้ม ตุ๋น ต่างๆจะใส่เครื่องปรุงตามหลักนี้ค่ะ
แล้วถ้าไม่ใส่เครื่องปรุงตามลำดับนี้แล้วจะทำให้อาหารอร่อยไม่อร่อยไหม ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยูกับอาหาร และวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารและรสชาติที่เราอยากจะปรุงออกมาด้วยค่ะ ว่าอยากได้รสแบบไหน ไม่ใส่เครื่องปรุงตามนี้ก็ไม่ผิดค่ะ
อาจจะยาวไปนิดหนึ่ง แต่ก็หวังว่าคงพอเป็นประโยชน์ได้บ้างนะค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
กบโออิชิnijimama
ตามเข้าไปฟังในคลิปได้นะค่ะมีอธิบายละเอียดกว่านี้ค่ะ
📌ทำอาหารญี่ปุ่นให้อร่อยด้วยเทคนิคการใส่เครื่องปรุงตามลำดับ”สะ ชิ สุ เสะ โสะ”
📌สาเกะปรุงอาหารกับมิรินแตกต่างกันยังไงใช้เมื่อไหร่
📌ไม่มีสาเกะ มิรินใช้อะไรแทนได้บ้าง
โฆษณา