14 ก.ค. 2021 เวลา 17:02 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่องเล่าของหนูนิลำดับที่ ๓๖ มัมมี่คืนชีพ
(The Mummy)
.
ตอน ๑
.
เมื่อเอ่ยชื่อของเซอร์อาเธอร์ โคแนนดอยส์ ข้าพเจ้าคิดว่าทุกท่านคงรู้จักเป็นอย่างดีในฐานะที่เป็นผู้สร้างตัวละครนักสืบสมัครเล่นที่ชาญฉลาดชื่อ เชอร์ล็อคโฮล์มส์ และคู่หู คือ ด็อกเตอร์วัตสัน
.
นวนิยายทุกเรื่องของท่านมีการวางเค้าโครงเรื่องเป็นอย่างดี แฟน ๆ นักอ่านที่คลั่งไคล้มีอยู่ทั่วโลก (ขออนุญาตนับข้าพเจ้าเข้าไปด้วยอีกคน)
.
เซอร์อาเธอร์เป็นแพทย์ จึงนำกระบวนการตรวจโรค วินิจฉัยโรค และสาเหตุของโรคมาประยุกต์ใช้เป็นวิธีคิดของโฮล์มส์
.
เรื่องที่ข้าพเจ้าชอบที่สุดของโฮล์มส์คือ หมาล่าเนื้อแห่งบาสเกอร์วิลล์
(The Hound of the Baskervilles)
นอกจากเชอร์ล็อคโฮล์มส์แล้ว "การผจญภัยในโลกที่สาบสูญ"(The Lost World) ที่ท่านแต่งก็เลื่องลือมาก
.
ครั้งหนึ่งทีวีช่องมากสีเคยฉายหนังซีรี่ส์ชุดนี้ เทคนิคการเคลื่อนไหวของไดโนเสาร์(dinosaur) เหมือนดู Jurassic Park ยังไงยังงั้น
เนื้อเรื่องดัดแปลงสนุก พระเอกหล่อ นางเอกสวย เซ็กซี่ แถมแสดงบทวาบหวามเองโดยไม่ใช้ตัวแทน(stand-in) และเธอยังเป็นหญิงเก่งควบตำแหน่งผู้ช่วยผู้กำกับ(second assistant director) อีกด้วย
.
ซีรี่ส์ชุดนี้ยังหาชมได้ทางยูทูบ เสียง sound เพลงประกอบเพราะมาก
.
ส่วนเรื่องเล่าตอนนี้เป็นเรื่องที่มีชื่อว่า
มัมมี่คืนชีพ(The Mummy) ซึ่งเป็นเรื่องที่เซอร์อาเธอร์แต่งไว้เช่นกัน และไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับโฮล์มส์
.
คืนนั้นเดวิด สมิธ ตกอยู่ในอาการนอนไม่หลับ และฝันร้ายตลอดทั้งคืน จนกระดิกเนื้อกระดิกตัวแทบไม่ออก เขาฝันว่าได้ลงไปในห้องใต้ดินห้องหนึ่งซึ่งไม่ทราบว่าลงไปได้อย่างไร
.
ภายในห้องนั้นมีโต๊ะเป็นรูปสี่เหลี่ยมอยู่หลายตัว โต๊ะแต่ละตัวมีร่างของมัมมี่ที่พันผ้าขาววางอยู่ เมื่อมีเสียงลั่นเปรี๊ยะ ๆ ผ้าที่หุ้มร่างของมัมมี่ก็หลุดทีละชิ้น
.
จนกระทั่งชิ้นสุดท้ายหลุดจากร่างของพวกมันเผยให้เห็นแขนขาและหน้าตาอย่างชัดเจน คล้ายกับผีตายซาก .
.
มีกลุ่มควันบาง ๆ ลอยม้วนตัวออกมาจากร่างเหล่านั้น เสียงครวญครางที่ลอดจากริมฝีปากที่เผยอเพียงเล็กน้อย แล้วร่างพวกนั้นก็มาห้อมล้อมเขากลิ่นเหม็นเน่าสะอิดสะเอียนโชยมาแตะจมูก
.
สมิธดิ้นสุดแรงจนตกใจตื่น แต่ก็ยังตัวสั่นอีกระยะ
.
สมิธเป็นนักศึกษาแพทย์ของอ็อกฟอร์ด เขาพักอยู่ที่หอพักของมหาวิทยาลัยโดยพักอยู่ชั้นบน ชั้นล่างมี ๓ ห้อง ผู้พักคือเบลลิงแฮม,วิลเลียม ลี และพนักงานทำความสะอาดชื่อสไตล์
.
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้อง ของเบลลิงแฮม และลีได้วิ่งขึ้นบันไดมาตามเขาไปช่วยดูอาการของเบลลิงแฮม (ลีเป็นว่าที่พี่เขยของเบลลิงแฮม)
.
นี่เป็นครั้งที่ ๒ ที่เบลลิงแฮมเกิดอาการนี้ เขาตกใจจนหมดสติ
.
ในห้องพักของเบลลิงแฮม คล้ายพิพิธภํณฑ์ขนาดย่อมเลยทีเดียว ทั่วทั้งห้องเต็มไปด้วยวัตถุโบราณมากมาย แม้แต่บนเพดานก็ยังมีจระเข้ฟันแหลมคมจากลุ่มแม่น้ำไนล์ที่สตัฟฟ์แขวนไว้ตัวหนึ่ง
.
เบลลิงแฮมเป็นคนที่คลั่งไคล้ เรื่องราวของอียิปต์โบราณ และอุทิศตนเพื่อศึกษาค้นคว้าอย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดในห้องนั้น ก็คือมัมมี่ตัวหนึ่งซึ่งวางอยู่บนโต๊ะสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ริมห้อง
.
ส่วนหัวของมันดำคล้ำเหมือนถ่านและเหี่ยวย่น แขนและนิ้วมือ เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ศพมัมมี่ตัวนี้มีอายุ ๔ พันปี ฝีมือการดองศพดีเลิศจนดูเหมือนเพิ่งตายใหม่ ๆ ทั่วร่างมีไม้หอมชนิดต่าง ๆ และยางไม้บางชนิดโรยอยู่เต็มไปหมด
.
มัมมี่ตัวนี้สูง ๖ ฟุต ๗ นิ้ว หมายเลข ๒๔๙ ซึ่งเป็นหมายเลขของบริษัทประมูลขายเลหลัง ใกล้ ๆ ร่างของมัน มีแผ่นหนังสำหรับจารึกข้อความวางอยู่(น่าจะหมายถึง แผ่นกระดาษปาปิรุส) และที่ผนังห้องมีฝาครอบหีบสำหรับบรรจุมัมมี่พิงไว้
.
เมื่อเบลลิงแฮมฟื้น สายตาของเขาจ้องอยู่ที่มัมมี่ตลอดและริมฝีปากสั่นระริก เขาบอกกับสมิธว่าเขาคงต้องทานยาระงับประสาทหน่อยแล้ว เพราะถ้าสมิธได้เห็นและเจอเหมือนเขา สมิธจะยังควบคุมสติได้หรือเปล่า และเขาได้รีบนำแผ่นหนังนั้นใส่ลิ้นชักล็อคกุญแจทันที
.
ห้องนอนของสมิธอยู่ชั้นบน และตรงกับห้องของเบลลิงแฮมพอดี สมิธจึงมักได้ยินเสียงเบลลิงแฮมพูดงึมงัมคนเดียวเสมอ
.
การศึกษาค้นคว้าของเบลลิงแฮม ทำลายสมาธิของสมิธในการอ่านหนังสือเป็นอย่างมาก เขาเคยไปขอร้องเบลลิงแฮม แต่เบลลิงแฮมก็ไม่แยแสรวมทั้งปฏิเสธเรื่องเสียงละเมอในตอนกลางคืน
.
แต่ข้อสงสัยของสมิธก็ได้รับคำยืนยันจากภารโรง ชื่อสไตล์ นอกจากนี้สไตล์ยังได้ยินเสียงประหลาดดังมาจากห้องของเบลลิงแฮมอีกด้วยเวลาที่เบลลิงแฮมไม่อยู่ในห้อง
.
จบตอน ๑ โปรดติดตามตอนต่อไปพรุ่งนี้
.
หมายเหตุ!
.
มัมมี่คือศพที่ดองหรือแช่น้ำยาพิเศษ ในประเทศอียิปต์ มีการพันทั่วร่างด้วยผ้าลินินขาว เป็นการรักษาสภาพศพ เพื่อรอการกลับมาของวิญญานผู้ตาย ตามความเชื่อของอียิปต์โบราณ
.
คำว่ามัมมี่มาจากภาษาเปอร์เซีย "มัมมียะ" หมายถึงร่างของซากศพที่ถูกดองจนเป็นสีดำ
.
การสตัฟฟ์สัตว์ (Taxidermy) คือการทำให้ซากสัตว์คงสภาพเหมือนมีชีวิต
โฆษณา