Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เขาว่ากันว่า สตอรี่
•
ติดตาม
15 ก.ค. 2021 เวลา 10:07 • นิยาย เรื่องสั้น
Ep.เปรตป้ารำไพ EP 1 / 2
ประมาณ 5 ปีที่แล้วเราได้มีโอกาสไปอาศัยกับญาติเป็นช่วงเวลาสั้นๆ หลังจากที่เราประสบอุบัติเหตุรถชน จึงต้องพักรักษาตัวประมาณ 2 เดือน ไอตัวเราเองก็อยู่ตัวคนเดียว ส่วนแม่ก็อาศัยอยู่กับพ่อเลี้ยงชาวต่างชาติ อยู่ที่ต่างประเทศ ท่านเลยฝากฝัง ให้ญาติของท่านช่วยดูแลเราที เราขอเรียกบุคคลท่านนี้ว่า น้าสวย นะคะ
แม่ให้เราไปอาศัยอยู่กับน้าสวยที่ต่างจังหวัด จนกว่าแผลที่หลังจะดีขึ้น
คือก่อนหน้านี้ เราไปฉลองเรียนจบกับเพื่อน พอตอนขากลับพวกเราเดินออกมาจากผับ กะว่าจะข้ามถนนไปนั่งทานข้าวต้มโต้รุ่งฝังตรงข้ามต่อ ก้าวขาไปได้ไม่ถึงครึ่งถนน เราก็ได้ยินเสียงเบรก ดังลั่นมาแต่ไกล พอหันไปก็เห็นแสงวาบพุ่งเข้ามาใส่ตัวทันที จากนั้นเรามารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่อยู่ห้องพักฟื้นในโรงพยาบาลแล้ว เรามีอาการไหปลาร้าหัก ช่วงข้อมือเข้าเฝือกอ่อน และแผ่นหลังด้านซ้ายเป็นรอยแผลยาวจนถึงก้น
ช่วงนั้นแม่เรากับพ่อเลี้ยงยังอยู่เมืองไทย พวกท่านยังดูแลเราได้ แต่พอถึงกำหนดกลับท่านจึงไม่อยากให้อยู่คนเดียว น้าสวยจึงมารับเราที่คอนโดตั้งแต่เช้า แล้วก็ขับกลับต่างจังหวัดทันที เราขอไม่บอกชื่อจังหวัดนะคะ กลัวมันจะไป
พาดพิงผู้อื่น ระหว่างทางน้าสวยขับรถค่อนข้างเร็วจนเรากลัวเลย น้าสวยให้เหตุผลว่า ไม่อยากกลับไปถึงมืด เพราะทางเข้าหมู่บ้านมันห่างจากถนนใหญ่ แถมเป็นทางลูกรังไม่มีไฟทางด้วย กลัวจะขับลำบาก แถมเป็นวันโกนด้วย
น้ากลัวผี เราก็แอบขำแกเหมือนกัน ว่ายุคนี้แล้วแกยังมีความเชื่อแบบนี้อยู่อีกหรอ
เราขอน้าสวยเข้าห้องน้ำที่ปั๊มเลยทำให้ได้พักรถไปในตัว แต่พอเดินออกมาก็เห็นน้าสวยยืนทำหน้ายู่ เหมือนอารมณ์เสียอยู่ข้างรถ เราจึงรีบไปสอบถามปรากฏว่า ล้อข้างคนขับมันแฟบ น่าจะโดนอะไรมาระหว่างทาง ทีนี้ก็เลยต้องเปลี่ยนยางอะไหล่ มาใส่แทน แต่ด้วยความเป็นผู้หญิงทั้งสองคน ทำอะไรก็ไม่เป็น เครื่องมือก็ไม่มี เด็กปั๊มเลยมาช่วย เขาบอกว่าจะไปตามช่างมาทำให้ แต่มันไกลคงใช้เวลามาประมาณครึ่งชั่วโมง เรากับน้าก็ตกลง โดยให้ค่าจ้างเขาไปตามมาให้ ก็เลือกอะไรไม่ได้นี่นา
ระยะเวลาที่ช่างมาถึงก็เกือบช่วงโมง แต่พอจะเปลี่ยนล้ออะไหล่ ปรากฏว่าล้ออะไหล่ก็สภาพไม่น่าจะรอด คือมันเก่ามาก ช่างเลยบอกว่า เดี๋ยวเขาจะเอาล้อไปปะที่ร้านแล้วจะกลับมาใส่ให้ เลยทำให้เราต้องเสียเวลาเบ็ตเสร็จไปประมาณเกือบสองชั่วโมง คราวนี้ต่อให้ขับเร็วแค่ไหนก็ไม่น่าจะถึงก่อนมืดแน่นอน น้าสวยได้แต่ทำหน้าเซ็งๆ จากท่าทางของน้าสวยเราเองก็เริ่มกลัวเหมือนกัน หรือว่ามันจะมีผีจริงๆ ว่ะ เราเลยถามน้าไปว่า
“น้าสวย หนูถามหน่อย...เอ่อ..ที่หมู่บ้าน..มี..ปอบเหรอ”
พอน้าสวยได้ยินกึงกับขำลั่นออกมาทันที...แกบอกว่าไม่มีหรอก ขอโทษด้วยที่ทำให้เรากลัว แกบอกว่าไว้ไปถึงบ้านจะให้ยายสรเล่าให้ฟัง
ยายสรเป็นน้องสาวแท้ๆ ของยายเรา และเป็นคนที่เลี้ยงดูแม่เรามาตั้งแต่เด็ก เพราะยายเราเสีย ตอนคลอดแม่ แม่เราเลยรักยายสรมากๆ บ้านหลังที่ยายสรอยู่ แม่ก็ปลูกให้ยายสรอยู่ ตอนที่แกเริ่มมีเงิน
น้าสวยเองก็เปรียบเหมือนน้องสาวแท้ๆ ของแม่ แกเป็นคนค่อนข้างโผงผาง และพูดจาขวานผ่าซากไปสักหน่อย
เลยทำให้แกไม่ค่อยสมหวังด้านความรัก หลังๆแกเลยไม่คบกับใคร ทำสวนทำไร่ อยู่กับยายสร สองคน
เรากับน้าสวยขับรถออกมาจากปั๊มก็เกือบๆ จะห้าโมงเย็นได้ บรรยากาศสองข้างทางค่อนข้างจะมืด เพราะเหมือนฝนจะตก น้าสวยก็รีบขับไม่พูดไม่จากับเราเลย และแล้วฝนก็ตกลงมาจริงๆ ไม่รู้ฟ้ามันมืดเพราะใกล้ค่ำหรือเพราะเมฆฝน รถฝ่าลมฝนมาจนเกือบทุ่ม ก็ถึงทางเข้าหมู่บ้าน ทีนี้เราจะต้องวิ่งเข้าเส้นถนนลุกรังอีกประมาณ 4 กิโล ถ้าเป็นถนนปกติคงใช้เวลาไม่นาน แต่ถนนมันเป็นลูกรัง และฝนก็ยังไม่หยุดตก ไฟทางก็ไม่มี เลยทำให้ช้าเข้าไปอีก
กว่าจะเข้ามาถึงหมู่บ้านก็เกือบชั่วโมง หมู่บ้านที่ยายสรอยู่ก็ไม่ได้กันดารนะ บ้านแต่ละหลังก็ดูใหญ่โต แต่ทำไมบ้านแทบทุกหลังถึงปิดไฟนอนกันเร็วจัง แต่ละหลังสองข้างทางมืดไปหมด จนถึงบ้านยายสร ซึ่งน่าจะเป็นหลังเดียวที่ยังเปิดไฟหน้าบ้าน และเปิดรั้วทิ้งไว้ คงกะว่าจะให้รถเข้ามาจอดได้สะดวก
ตอนนั้นฝนเริ่มซาแล้ว เราลงจากรถก็กะว่าจะไปปิดประตูรั้วบ้าน แต่น้าสวยเรียกไว้บอกว่าไม่เป็นไร ให้รีบเข้าบ้านเลย
ตอนหยิบกระเป๋า เราเพิ่งสังเกตุว่า มีเสียงหมาหอนตลอด หอนต่อกันนานมาก ไม่หยุดเลย ยายสรเองก็บอก ให้รีบเข้าบ้าน เราก็ทำตามแต่โดยดี ยายสรให้เราไปอาบน้ำ แล้วรีบมาทำแผล เสร็จแล้วก็ให้รีบเข้านอนเลย
ห้องที่เรานอนเป็นห้องเก่าของแม่เราที่อยู่ชั้นสองของบ้าน ซึ่งตรงหน้าต่างจะติดกับทางฝั่งซ้ายของตัวบ้าน หน้าต่างบ้านป็นแบบบานกระจกเลื่อนขึ้นเลื่อนลง และม่านเป็นแบบมู่ลี่ บังเอิญว่าเราไปดึงเชือกที่ปรับมู่ลี่ ให้มันเลื่อนขึ้นแล้วมันค้าง จึงทำให้มองออกไปเห็นด้านนอก ข้างบ้านเราติดกับที่ดินแปลงหนึ่งซึ่งกว้างมาก
ตรงกลางจะเป็นเนินสูงๆ มีบ้านแบบเก่าแต่หลังใหญ่อยู่ ด้านบนเป็นไม้ ด้านล่างเป็นปูน แล้วรอบๆ จนถึงรั้วบ้านก็จะมีต้นไม้ขึ้นเต็มไปหมด เหมือนขาดการดูแลมาเป็นเวลานาน
ด้วยความที่มันมืด บวกกับฝนที่ยังตกปรอยๆ เลยมองเห็นอะไรไม่มากนัก เราไม่ได้ใส่ใจอะไรเก็บของเสร็จก็ลงไปอาบน้ำ แล้วก็เข้าไปให้น้าช่วยล้างแผลที่หลังให้ เราถามน้าสวยว่าข้างบ้านมีคนอยู่รึป่าว ทำไมดูเหมือนร้างๆ ต้นตาลก็สูงมาก เอนไปมาเหมือนจะล้ม
น้าสวยเลยบอกว่าบ้านข้างๆ ไม่มีคนอยู่นานแล้ว แต่ไม่มีต้นตาลนะ เรามองผิดรึป่าว เราลองนึกดูดีๆ เมื่อกี้เราเห็นเหมือนต้นตาล โอนเอนไปมา อยู่ตรงบ้านหลังนั้นจริงๆ แต่ด้วยระยะสายตาที่ค่อนข้างไกล กับความมืดนั้น เราอาจจะตาฝาดก็ได้เลยไม่ได้ถามอะไรน้าสวยต่อ
พอทำแผลเสร็จ น้าสวย กับ ยายสรก็เข้านอนเลย เราที่นอนในรถมาเยอะแล้วจึงไม่ค่อยง่วงเท่าไหร่ แถมข้างนอกยังมีเสียงหมาหอน เสียงต่ำเสียงสูงต่อกันไม่หยุดเลย ไม่รู้คนที่นี่เค้าหลับลงได้ยังไง
เรานั่งเล่นมือถือไปเรื่อย ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน เหมือนเราฝันว่าได้ยินคนเคาะ หน้าต่างดังกุกกัก เลยลุกไปดูที่หน้าต่าง เห็นผู้หญิงคนนึง อายุน่าจะราวๆ 35-40 รูปร่างหน้าตาดีมาก แต่แต่งตัวด้วยเสื้อคอกระเช้ากับผ้าถุงขาดๆ เก่าๆ มายืนตะโกนเรียกเรา อยู่ตรงรั้วข้างบ้าน ฝั่งที่เป็นบ้านร้าง
“หนูๆ หนูๆ ได้ยินเสียงฉันมั๊ย หนู หนู”
เลยตอบไปว่า
“ได้ยินค่ะ น้ามีอะไรมาโยนไม้ใส่หน้าต่างบ้านหนูทำไม” สีหน้าผู้คนนั้นดูดีใจมาก
เธอเอามือเกาะตรงกำแพงรั้วไว้แน่น กำแพงนั้นสูงประมาณเมตรครึ่ง ถ้าเธอไม่สูงมาก ก็คงปีนอะไรอยู่
“ช่วยฉันหน่อยได้มั๊ย..”เธอพูดออกมาด้วยเสียงเหมือนจะร้องไห้
“จะให้หนูช่วยอะไรคะ”
“ไปเปิดประตูรั้วให้ฉันหน่อย ฉันไปไหนไม่ได้ ช่วยหน่อย ช่วยฉันหน่อย”
ในฝันเหมือนเราเองกล้าๆ กลัวๆ ไม่ได้ช่วยอะไรเค้า เหมือนยืนมองเค้าอยู่อย่างนั้นนานมาก
เธอคนนั้น ยังร้องเรียกให้เราช่วยตลอด สักพักเหมือนเค้าก็เปลี่ยนสีหน้า จากที่ร้องไห้ดูน่าสงสาร ก็ดูเกรี้ยวกราด จนน่ากลัว เธอส่งเสียงร้องแหลมๆ แต่ฟังดูอู้อี้ ในเวลาเดียวกัน
เริ่มมีใบหน้าที่บูดเบี้ยวผิดรูป มีหนองไหล และหนอนชอนไชออกมา จากผิวหนัง ผิวก็เริ่มติดกระดูก ผมก็ค่อยๆร่วงลงมา จนหมดภายในพริบตา แล้วตัวก็ยืดขึ้น ยืดขึ้น จนเราต้องแหงนมอง ช่วงตัวของเธอ
ผอมมาก เสื้อผ้าที่เคยใส่ก็หลุดออกเห็นนมยานโตงเตง ทั้งมือทั้งเท้าดูใหญ่ และบวมมาก ร่างนั้นเหมือนกลายเป็นอสูรกาย น่าเกลียดน่ากลัว หรือที่เราเคยได้ยินคนเฒ่า คนแก่ พูดว่าลักษณะแบบนี้ มันคือ “เปรต” นั่นเอง พอร่างนั่นเริ่มกลายร่าง ก็เหมือนรีบเดิน โงนเงน กลับไปยืนอยู่ข้างๆ ตัวบ้านร้าง ยืนโงนเงน ส่งเสียงร้องจนน่ากลัวอยู่แบบนั้น เรายืนอึ้งในความฝัน แล้วก็กรี๊ดออกมาจนสุดเสียง
มารู้สึกตัวก็ตอนที่น้าสวย กอดเราเอาไว้ และก็พยายามปลุก ด้วยการตีเบาที่หน้า เราสะดุ้งตื่นกอด
น้าสวยแน่น น้าสวยกับยายสร รีบถามว่าเราเป็นอะไร เราทั้งร้องไห้ ทั้งโวยวายว่าเราโดนผีหลอก น้าสวยกับยายสร รีบเข้ามากอดปลอบเราใหญ่ และพาเราไปนอนกับยายสร เพราะตอนนั้นยังไม่สว่างเลย น่าจะประมาณตีห้าได้ เอาจริงๆ ก็ไม่ได้นอนหรอก นอนไม่หลับ น้าสวยบอกว่าได้ยินเสียงเรากริ๊ดดังมาก เลยรีบเข้ามาดู ปรากฎว่าเห็นเรานอนสลบอยู่ที่หน้าต่างแล้ว เรางงมาก เรานึกว่าเราฝัน ทำไมเราถึงไปยืนอยู่ตรงหน้าต่างได้ ยายสรบอกว่าไม่ต้องคิดอะไรแล้วเดี๋ยวพอฟ้าสาง แกจะพาไปทำบุญ และรดน้ำมนต์ที่วัด เราก็เลยต้องเงียบไป
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย