17 ก.ค. 2021 เวลา 05:56 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
#เล่าหนัง | คำเตือน : บทความโคตรยาว (เหมือนอ่านนิทาน ประมาณ 20กว่านาที มั้งนะ😂) เเละ มีการพูดถึงเนื้อหาของหนัง หรือ การสปอย นั่นเอง
- The Shawshank Redemption (1994) - มิตรภาพ ความหวัง ความรุนเเรง
ขอบคุณ ภาพพื้นหลัง จาก Ichigo121212 / Pixabay
“Hope is a good thing, maybe the best of things and no good thing ever dies.”
ความหวังเป็นสิ่งที่ดี เเละ อาจจะดีที่สุดเลยด้วยซ้ำ สิ่งดีๆทุกอย่างมันไม่มีวันตาย
1
หนังเรื่องนี้ ไม่ได้มีฉากบู๊ ฉากเเอ็คชั่น มากมาย เป็นเพียงการพูดสนทนากันไปมา เเต่ก็สามารถสื่ออะไรหลายๆอย่าง เเละ ให้เเง่คิดกับผู้ชมได้อย่างดี จึงเป็นหนึ่งในภาพยนตร์โปรดของผู้ชมหลายคน รวมถึงผมด้วย วันนี้จึงอยากนำหนังเรื่องนี้มาเล่าในเเบบฉบับตัวเองดู☺️
ถ้าคุณยังไม่เคยดู ผมขอเเนะนำให้ไปดูเลยนะครับ ควรค่าเเก่การดูอย่างยิ่งครับ
เอาล่ะ จะเริ่มเเล้วนะครับท่านผู้อ่านที่น่ารักทั้งหลาย
ตัวละครหลักของเรื่อง :
1. เเอนดี้ (Andy Dufresne) >>พระเอก
2. เรด (Red)
3. พัศดี นอร์ตัน (Warden Norton)
4. ปู่บรุ๊ค (Brooks)
5. เเฮดลี่ (Byron Hadley)
6. ทอมมี่ (Tommy Williams)
ในวันหนึ่ง พระเอกของเรา เเอนดี้ (นายธนาคาร) กำลังถูกศาลทำการไต่สวนความผิดในคดีฆาตกรรมภรรยาของตนเอง เเละ ชู้ของภรรยา
ในคืนเกิดเหตุ เเอนดี้ จับได้ว่าภรรยาของเขาเเอบมีชู้ที่เป็นโปรกอล์ฟ ซึ่งภรรยาของเเอนดี้ก็ยอมรับ เเละขอหย่า เเต่เเอนดี้ไม่ยอม เธอจึงทนไม่ไหว หนีไปอยู่กับชู้ที่เป็นโปรกอล์ฟคนนั้น เเอนดี้เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น จนดื่มเหล้าหนัก
เเล้วเเอนดี้ก็ได้ขับรถตามไปจอดที่หน้าบ้านของโปรกอล์ฟ เขาได้พกปืนลูกโม่มาด้วย เเละทำการบรรจุกระสุน เเล้วเริ่มเดินลงจากรถ เขามีท่าทีเหมือนว่า กำลังจะไปฆ่าพวกเขา เเต่สุดท้ายเเล้ว เขาก็ได้สติ เเล้วโยนปืนลงไปในเเม่น้ำ เเล้วขับรถจากไป
ในเช้าวันต่อมา ปรากฏว่า ภรรยาของเเอนดี้ เเละ ชู้โปรกอล์ฟ ถูกพบว่าเสียชีวิตในบ้านหลังนั้น ที่ร่างกายของทั้งคู่เต็มไปด้วยรูกระสุนจากปืนลูกโม่ขนาด .38 คนละ 4 รู เเน่นอนว่า เเอนดี้ ตกเป็นผู้ต้องสงสัยอย่างเเน่นอน เพราะมีพยานได้กล่าวไว้ เกี่ยวกับเรื่องที่เเอนดี้ จับได้ว่าภรรยามีชู้ ซึ่งเเอนดี้ได้อ้างว่า โยนปืนทิ้งลงไปในเเม่น้ำ เจ้าหน้าที่จึงไปพยายามงมหาปืน เพื่อนำมาพิจารณาคดี เเต่ก็หาไม่พบ
เเต่ศาลก็คิดว่า การฆ่าในครั้งนี้จะต้องเป็นการฆ่าอย่างโหดเหี้ยม หรือ การฆ่าด้วยความเเค้น เพราะสามารถบรรจุกระสุนในปืนลูกโม่ได้ 6 นัด เเต่รูกระสุนที่พบจากศพมีถึง 8 รู เพราะฉะนั้นคนที่ยิงจะต้องบรรจุกระสุนใหม่อีก 2 นัดไว้สำหรับยิงไปที่ทั้งคู่อีกคนละนัด ด้วยความเเค้น ซึ่งอาจสอดคล้องกับ ความรู้สึกของเเอนดี้ที่จับได้ว่าภรรยาของเขามีชู้
จากข้อมูลต่างๆที่ศาลได้พิจารณามา จึงได้ตัดสินให้เเอนดี้ ติดคุกตลอดชีวิต ที่เรือนจำชอว์เเชงค์
ฉากตัดมาที่การตัดสินทัณฑ์บน(การลดหย่อนโทษ)ของนักโทษในเรือนจำชอว์เเชงค์ ที่ชื่อ “เรด” ซึ่งเขาใช้ชีวิตอยู่ในคุกนี้มา 20 ปีเเล้ว คณะกรรมการได้ถามเรดว่า “คุณคิดว่าคุณได้รับการอบรมบ่มนิสัยเเล้วหรือยัง?” เรด ตอบว่า “เเน่นอนครับ ผมได้รับบทเรียนเเล้ว ผมเปลี่ยนเป็นคนใหม่ เเละไม่เป็นภัยต่อใครอีกเเล้ว” เเต่คณะกรรมการก็ได้ตัดสินว่า ไม่ผ่าน (หากคณะกรรมการใ้ห้ผ่าน เรดจะได้ออกจากเรือนจำ) เรดจึงต้องกลับไปอยู่ในเรือนจำต่อไป
เรดเป็นนักโทษที่มีความสามารถในการหาสิ่งของต่างๆไปให้เพื่อนๆของเขา
เเละเเล้วนักโทษกลุ่มใหม่ก็ได้มาถึงเรือนจำชอว์เเชงค์ หนึ่งในนั้นก็คือ เเอนดี้ ดูเฟรน เเละนักโทษก็ได้รู้จักกับ พัศดี นอร์ตัน ที่เป็นบอสใหญ่ของเรือนจำเเห่งนี้ และ ผู้คุมนักโทษสุดโหด ที่ชื่อ “เเฮดลี่”
เวลาผ่านไป 1 เดือน กับการที่เเอนดี้ใช้ชีวิตในคุกเเบบเงียบๆ ชีวิตในคุกของเขาไม่ง่ายเลย เขาโดนเพ่งเล็งจากพวกโรคจิตด้วย เขาได้เข้าไปพูดคุยกับเรดเป็นครั้งเเรก เรดจึงเป็นมิตรภาพเเรกของเเอนดี้ เเละ ได้ขอให้เรดไปหาค้อนเเกะสลักหินมาให้ โดยเขาอ้างว่าจะนำมาเเกะสลักหินเป็นงานอดิเรก ซึ่งเรดก็ได้เเอบสงสัยอยู่ว่า เขาจะนำมันไปเจาะกำเเพงหนีหรือเปล่า
เมื่อเรดได้รับค้อนที่เเอนดี้ต้องการเเล้ว เรดจึงฝาก”ปู่บรุ๊ค”(คนส่งหนังสือต่างๆให้กับนักโทษ)ส่งค้อนไปที่ห้องขังของเเอนดี้ เเละ เเอนดี้ได้ขอหนังสือคัมภีร์ไบเบิลจากบรุ๊คด้วย เรดเดาว่า หากจะใช้ค้อนนี้ขุดกำเเพงหนี น่าจะใช้เวลาซัก 600 ปี กว่าจะขุดหนีออกไปได้
เเอนดี้ได้มีโอกาสคุยกับกลุ่มเรดมากขึ้น และ เริ่มสนิทกับกลุ่มของเรดซะเเล้ว
ในฤดูใบไม้ผลิวันหนึ่ง พัศดีนอร์ตัน ต้องการอาสาสมัครจากนักโทษจำนวนหนึ่ง ไปทำงานปูพื้นบนดาดฟ้าของโรงงานทำป้ายทะเบียนรถ ซึ่งการได้ออกมาทำงานกลางเเจ้งในฤดูนี้ เป็นอะไรที่ดีมาก พวกเรดจึงได้อาสาสมัครไป รวมถึงเเอนดี้ด้วย
ในขณะที่ทำงานกันอยู่ เเฮดลี่ได้บ่นเรื่องค่าใช้จ่ายของเขาเเละค่าภาษีต่างๆ เเอนดี้จึงได้ไปแนะนำวิธีการเก็บเงินให้เขา เเละเขาก็เสนอตัวที่จะเป็นคนจัดเตรียมเอกสารในการจ่ายค่าธรรมเนียมของเเฮดลี่ เเลกกับการเลี้ยงเบียร์เย็นๆคนละ 3 ขวดให้กับเพื่อนร่วมงานของเขา
เเอนดี้: “ถ้าพวกเขาได้เบียร์เย็นๆซักขวด เขาจะรู้สึกเป็นคนมากขึ้น ผมคิดอย่างนั้นนะ”
ซึ่งเเฮดลี่ก็ได้ทำตามคำขอ เเจกเบียร์ให้กับพวกเขา นั่งดื่มกันอย่างสบายใจ ในขณะที่เเอนดี้เเค่นั่งยิ้มให้กับเพื่อนๆของเขาโดยไม่สนใจเบียร์ เรดคิดว่า:”เเอนดี้เเค่ทำสิ่งนี้เพื่อให้ตัวเองรู้สึกเป็นอิสระอีกครั้ง”
เเละอยู่ดีๆวันหนึ่ง กลุ่มผู้คุมได้มาตรวจสอบห้องขังของเเอนดี้ เเต่นั่นเป็นเเค่เเผนของพัศดีนอร์ตัน เขาต้องการที่จะประเมินเเอนดี้ เเละต้องการชักชวนเขาไปทำงานที่ห้องสมุดกับปู่บรุ๊ค
ในระยะเวลารวม 3 ปีหลังจากนั้น เเอนดี้ได้ช่วยพวกผู้คุมในเรือนจำทำเรื่องขอคืนภาษี รวมถึงพัศดีนอร์ตันด้วย ในฤดูที่เสียภาษีหนัก ก็มีคนมายื่นเรื่องกับเเอนดี้อยู่หลายคนมาก จนเขากลายเป็นอุตสาหกรรมขนาดย่อมไปแล้ว เเละเขาก็ได้เขียนจดหมายสัปดาห์ละฉบับไปยังรัฐสภา เพื่อขอทุนไปพัฒนาห้องสมุด
เเละอยู่ดีๆวันหนึ่ง การพิจารณาทัณฑ์บนของปู่บรุ๊คก็ผ่านซะอย่างนั้น ทำให้ปู่บรุ๊คสามารถออกไปใช้ชีวิตด้านนอกเรือนจำได้เเล้ว เเต่เเทนที่เขาจะดีใจ ไม่เลยครับ เขาเสียใจเเละใจหาย ปู่บรุ๊คใช้ชีวิตในคุกเเห่งนี้มา 50 ปีเเล้ว โลกในคุกของเขา เขาเป็นคนมีประโยชน์ เเจกจ่ายหนังสือให้กับนักโทษต่างๆ เเต่ถ้าเขาต้องออกไปใช้ชีวิตข้างนอก เขาจะกลายเป็นเเค่ไอขี้คุกคนนึงที่ตามโลกไม่ทัน
ยังไงซะ ปู่บรุ๊คก็ต้องยอมทำใจออกจากเรือนจำไป เขาเดินลงจากรถด้วยความมึนงงกับโลกภายนอก
บรุ๊ค: “ในสมัยที่ผมยังเด็ก ผมได้เห็นรถยนต์คันหนึ่ง เเต่ตอนนี้มันมีอยู่ทุกหนเเห่งเลย”
คณะกรรมการทัณฑ์บนได้หาที่พักเเละงานชั่วคราวให้กับปู่บรุ๊ค งานที่เขาได้รับ คือ การเอาของใส่ถุงในซุปเปอร์มาร์เก็ต เเต่ปู่บรุ๊คจริงๆเเล้วเป็นโรคไขข้อเสื่อมด้วย จนบางครั้งทำงานไม่ได้เรื่อง เเละผู้จัดการร้านก็ดูจะไม่ค่อยชอบปู่บรุ๊คด้วย
ปู่บรุ๊คเริ่มเบื่อกับการที่ตามโลกในปัจจุบันไม่ทัน เบื่อกับการที่ต้องหวาดกลัวตลอดเวลากับสิ่งต่างๆในโลกด้านนอกเรือนจำ จนสุดท้าย เขาก็ได้คิดสั้น เเขวนคอตัวเองเเละจากไป ในห้องพักของเขา
เรด: “กำเเพงพวกนี้มันช่างตลก เเรกๆคุณเกลียดมัน จนคุณเคยชินกับมัน พอเวลาผ่านไปนาน กลับต้องพึ่งพิงมัน”
หลังจากนั้น ดูเหมือนว่าทางรัฐสภาก็ยังไม่ยอมรับคำขอของเเอนดี้ในการขอทุนไปพัฒนาห้องสมุดในเรือนจำ เเอนดี้จึงได้พูดว่าจะเปลี่ยนจาก เขียนจดหมายสัปดาห์ละฉบับ เป็น สัปดาห์ละ 2 ฉบับเเทน หลังจากนั้น เเอนดี้ได้จังหวะ อยู่ในห้องของผู้คุมคนเดียว เขาได้ทำการเปิดเพลงๆนึง เเละ เลื่อนเสียงที่ลำโพงจนสุด จนนักโทษทุกคนในชอว์เเชงค์ได้ยิน
เรด: “ผมไม่รู้เลยว่า เนื้อร้องมันหมายถึงอะไร ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่อยากรู้ สำหรับบางสิ่ง การไม่พูดกลับมีความหมายมากที่สุด ผมอยากจะคิดว่า เพลงกำลังพูดถึงอะไรที่สวยงามมากจนไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ เสียงมันพุ่งขึ้นสูง สูงกว่าเเละไกลกว่าที่คนในสถานที่ทึ่มๆเเบบนี้จะกล้าฝันถึง มันเหมือนกับว่า มีนกเเสนสวยบินเข้ามาในกรงที่ซีดเซียวของเรา เเละ ในเวลาสั้นๆนั้น นักโทษในชอว์เเชงค์ทั้งหมดรู้สึกได้ถึงอิสรภาพ”
เเล้วพัศดีก็ได้มาพบกับเเอนดี้ที่กำลังนั่งฟังเพลงอย่างสบายใจ พัศดีจึงโกรธมาก เเล้วก็…เเอนดี้ได้โดนนำไปขังในห้องขังเดี่ยวมืด 2 สัปดาห์
หลังจากนั้น เวลาได้ผ่านมา 10 ปีเเล้วที่เเอนดี้อยู่ในคุกเเห่งนี้ เรดได้รับการพิจารณาทัณฑ์บนอีกครั้ง คณะกรรมการก็ถามเรดเเบบเดิม: “คุณคิดว่าคุณได้รับการอบรมบ่มนิสัยเเล้วหรือยัง?” เรดก็ได้ตอบเเบบเดิม เเบบเดียวกับการพิจารณาทัณฑ์บนของเขาเมื่อ 10 ปีที่เเล้ว เเล้วผลก็คือ ไม่ผ่าน เช่นเคย
ในที่สุด ทางรัฐก็ได้ยอมจ่ายเงินปีละ 500 เหรียญหลังจากที่เเอนดี้ตื๊อด้วยการเขียนจดหมายสัปดาห์ละ 2 ฉบับ และ เเอนดี้ก็ได้ใช้เงินจำนวนนั้นมาใช้อย่างคุ้มค่า เขาได้พัฒนาห้องสมุดให้กลายเป็นหนึ่งในห้องสมุดที่ดีที่สุด
ในเวลาเดียวกัน พัศดีนอร์ตันได้จัดตั้งโครงการที่จะให้นักโทษไปทำงานบริการชุมชน โดยเขาอ้างว่าเป็นการเเก้ไขพฤติกรรมของนักโทษ โดยเกิดค่าใช้จ่ายเเก่ผู้ที่เสียภาษีเพียงน้อยนิด เเต่จริงๆเเล้วพัศดีใช้วิธีต่างๆนาๆในการยักยอกให้เงินไหลมาเทมา ทั้งเเรงงาน วัสดุต่างๆ
เบื้องหลังการหาเงินมาได้ทุกดอลล่าร์เเบบสกปรกนี้ ก็มีเเอนดี้ ที่พัศดีใช้ให้มาเป็นคนทำบัญชีให้
เเละเเอนดี้ได้เล่าวิธีที่เขาจัดการกับเงินที่ฟอกเหล่านั้นมาให้เรดฟัง เเอนดี้ได้สร้างบุคคลล่องหนขึ้นมาชื่อ “เเรนดอล สตีเว่น” ซึ่งเขาได้ทำ ใบเกิด ใบขับขี่ เลขประกันสังคม ข้อมูลทุกอย่างที่คนๆนึงควรมี ตำรวจจะไม่มีวันสาวมาถึงพวกเขาได้ เพราะบัญชีเงินสกปรกเหล่านั้นเป็นของ “เเรนดอล สตีเว่น” บุคคลล่องหน
เวลาผ่านไป มีกลุ่มนักโทษกลุ่มใหม่เข้ามาอีกเเล้ว หนึ่งในนั้น คือ “ทอมมี่” หนุ่มที่โคตรมั่นใจในตัวเอง ได้เข้ามาตีสนิทกับพวกเเอนดี้
ทอมมี่ได้ถามเรดเกี่ยวกับเเอนดี้ ว่าเขาติดคุกได้ยังไง? เรดก็ตอบไปว่า ภรรยาของเขาไปมีชู้เป็นโปรกอล์ฟ เขาเลยฆ่าไปซะทั้งคู่ เมื่อทอมมี่ได้ฟัง เขาก็มีอาการอึ้งๆ ทำให้เรดงง จนทอมมี่มีอะไรจะมาเล่าให้เเอนดี้เเละเรดฟัง
โดยทอมมี่เล่าว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 4 ปี เขาติดคุกเเห่งนึงข้อหาขโมยรถ ตอนที่เหลือเวลา 6 เดือนก่อนออก มีเพื่อนใหม่เข้ามา ชื่อ เอลโม่ เเบลช
คนๆนี้เคยเล่าให้ทอมมี่ฟังว่า เขาได้ตัดสินใจตามผู้ชายคนนึงไปปล้นบ้าน เขาได้ฆ่าทั้งผู้ชายคนนั้นเเละสาวที่นอนอยู่กับเขาด้วย โดยผู้ชายคนนั้นเป็นโปรกอล์ฟ เอลโม่บอกว่า คนๆนั้นไปมีsomethingกับสาวที่เเต่งงานเเล้วกับนายธนาคารคนนึง หลังคืนเกิดเหตุ นายธนาคารคนนั้นก็เป็นคนที่โดนจับเเทนเขา เเล้วเอลโม่ก็ขำไม่หยุด
เเอนดี้จึงได้รู้เเล้วว่า คนที่ทำการฆาตกรรมในคืนนั้น ก็คือ เอลโม่ เเบลช คนนั้นนั่นเอง เเอนดี้นำสิ่งที่ทอมมี่เล่าไปบอกพัศดี นอร์ตัน
เเต่พัศดีก็ไม่สนใจ เเละ เเน่นอนว่าเขาไม่ต้องการให้คนที่รู้เกี่ยวกับการฟอกเงินของพัศดี ออกไปจากคุกเเน่นอน เเละในคืนวันนั้น พัศดีก็ได้นัดกับเเฮดลี่ ไปรอฆ่าปิดปากทอมมี่ที่หน้าประตูรั้ว โดยการยิงปืนใส่ 4 นัด เเละ ทอมมี่ ก็เสียชีวิตไป
เเละเวลาก็ได้ผ่านมา 19 ปีเเล้วที่เเอนดี้ใช้ชีวิตอยู่ในคุกเเห่งนี้ เเอนดี้ได้บอกเรดว่า ถ้าเขาออกไปจากที่นี่ได้ เขาจะไปที่ซีฮัวทาเนโฮ ชายฝั่งเเห่งนึง ณ มหาสมุทรเเปซิฟิก ที่ประเทศเม็กซิโก
เเอนดี้ได้บอกเรดอีกว่า ถ้าเรดออกไปจากที่นี่ได้ ให้เรดไปที่บัคส์ตั้น ไปหาหินก้อนนึง ที่เป็นหินเเก้วจากภูเขาไฟ ฝังอยู่ เขามีอะไรบางอย่างจะมอบให้ใต้หินก้อนนั้น
ในเช้าวันรุ่งขึ้น ปรากฏว่า เเอนดี้ได้หายตัวไปแล้ว พัศดีได้เข้ามาในห้องขังเเอนดี้ จนสุดท้าย ได้รู้ว่า เเอนดี้ใช้ค้อนเเกะสลักหินของเขาขุดกำเเพงมาเรื่อยๆตลอด 19 ปี เเละนำภาพผู้หญิงที่เรดเคยให้มาปิดซ่อนเอาไว้
ซึ่งเรดเคยทายไว้ว่า ถ้าจะใช้ค้อนนี้ขุดไปสุดกำเเพง น่าจะใช้เวลา 600 ปี เเต่เเอนดี้กลับสามารถทำได้ภายใน 19 ปีเท่านั้น
เเอนดี้คลานออกจากคุกผ่านท่ออุจจาระที่ยาวพอๆกับสนามฟุตบอล 5 สนามติดกัน
ในวันสุดท้ายที่เเอนดี้จัดการบัญชีให้กับพัศดี เขาได้เเอบสับเปลี่ยน สมุดบัญชี เป็น หนังสือคัมภีร์ไบเบิล ไปไว้ในตู้ของพัศดี โดยที่พัศดีไม่รู้ตัวเลย เเล้วเเอนดี้ก็นำสมุดบัญชีนั้นมาไว้กับเขาเเทน
ในวันหนึ่ง บุคคลล่องหนที่ชื่อ “เเรนดอล สตีเว่น”ที่ไม่เคยมีใครเห็นหน้ามาก่อน ก็ได้เเวะไปตามธนาคาร 12 เเห่งทั่วพอร์ดเเลน เเละประมวลดูเเล้ว เขาออกจากเมืองไปพร้อมกับเงินมากกว่า 3เเสน7หมื่นดอลล่าร์ ที่ควรจะเป็นของพัศดีนอร์ตัน เเท้จริงเเล้วคนๆนั้นก็คือ เเอนดี้ ดูเฟรน นั่นเอง ที่มาสวมรอยเป็น มนุษย์ล่องหนคนนี้
เเล้วเรื่องการคอรัปชั่นต่างๆในเรือนจำชอว์เเชงค์ก็ได้ถูกเปิดเผย ตำรวจได้ไปจับกุม เเฮดลี่ เเละ พัศดีนอร์ตัน เเต่พัศดีนอร์ตันชิงเอาปืนยิงสมองตัวเองตายไปซะก่อนที่ตัวเองจะโดนจับ
เรด: “ผมต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า นกบางตัวไม่ได้เกิดมาเพื่ออยู่ในกรง ขนของพวกมันสดใสเกินไป เเละเมื่อมันบินจากไป ส่วนลึกในใจ คุณรู้ว่ามันเป็นบาป อาจจะเก็บมันไว้เพื่อชื่นชมเพียงลำพัง เนื่องจากไอที่เราอยู่ตอนนี้ มันเเห้งเเล้งว่างเปล่ากว่าที่มันควรจะไปมาก ผมเดาว่า ผมคงเสียเพื่อนไปแล้ว”
เเละ เรดได้เข้าสู่การพิจารณาทัณฑ์บนอีกครั้ง
คณะกรรมการ: “คุณได้รับการอบรมบ่มนิสัยเเล้วหรือยัง?” ซึ่งคราวนี้เรดตอบไม่เหมือนเดิม
เรด : “ขอผมคิดดูก่อนนะ…ผมไม่รู้เลยว่ามันหมายถึงอะไร ผมเข้าใจคำถาม สำหรับผม มันเป็นเเค่คำพูดที่ปั้นเเต่งขึ้นมาเพื่อให้หนุ่มอย่างคุณจะได้ใส่สูทผูกไท หรือ มีงานทำ จริงๆเเล้วคุณอยากรู้อะไรกันเเน่ ผมเสียใจกับสิ่งที่ทำรึป่าวน่ะหรอ ไม่มีวันไหนเลยที่ผมไม่รู้สึกเสียใจ…ตอนที่ผมเป็นเด็ก เด็กหนุ่มหน้าโง่ ที่ก่ออาชญากรรม ผมอยากคุยกับเขา อยากบอกเขาว่าสิ่งต่างๆมันเป็นยังไง เเต่ทำไม่ได้ เด็กคนนั้นจากไปนานเเล้ว ทิ้งไอเเก่คนนี้ไว้ที่นี่ อบรมบ่มนิสัยหรอ มันก็เเค่คำเฮ็งซวยคำนึง คุณปั๊มเเบบฟอร์มของคุณไปเถอะ และ อย่าทำให้ผมเสียเวลาเลย ผมไม่สนใจหรอก”
เเละปรากฏว่าครั้งนี้ทัณฑ์บนของเรดก็ได้ถูกอนุมัติให้ผ่านเเล้ว เเละ เรดก็ได้ออกจากเรือนจำไป
การใช้ชีวิตในโลกภายนอกของเรดนั้น ไม่ต่างอะไรกับปู่บรุ๊คเลย เขาตามโลกไม่ค่อยทัน และ หวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา จนเกือบจะคิดสั้นไปอีกคน เเต่มีอยู่อย่างนึงที่ยังยึดเหนี่ยวเขาไว้ ก็คือ สิ่งที่เเอนดี้ขอให้เรดทำ หากเขาออกจากคุกได้
เรดได้เดินทางไปที่บัคส์ตั้น เพื่อไปตามหาหินก้อนนั้น เเละใต้หินก้อนนั้น เขาก็ได้พบจดหมายฉบับนึง เเละในนั้นมีข้อความที่เเอนดี้เขียนไว้ให้เรด
“ถ้าคุณมาไกลขนาดนี้เเล้ว คุณก็คงอยากไปต่ออีกหน่อย จำไว้นะเรด ความหวังเป็นสิ่งที่ดี และ อาจจะดีที่สุดเลยด้วยซ้ำ สิ่งดีๆมันไม่มีวันตาย จำสถานที่นั้นได้ใช่ไหม (ซีฮัวทาเนโฮ)”
เรดได้เดินทางครั้งสุดท้ายไปยังมหาสมุทรเเปซิฟิก เขาหวังเเค่ว่า เขาจะได้เจอหน้าเพื่อนของเขา “เเอนดี้ ดูเฟรน” อีกครั้ง
เรดได้เดินทางมาถึงซีฮัวทาเนโฮ เเละก็ได้พบกับ เเอนดี้ ดูเฟรน ที่กำลังซ่อมเรือเก่าๆ
เเละทั้งคู่ก็ได้เข้ากอดกัน
“เเอนดี้ ดูเฟรน ผู้ใช้เพียงเเค่ความหวังเเละเวลา ในการเอาชนะสิ่งชั่วร้าย เพื่ออิสรภาพ”
“เเอนดี้ ดูเฟรน ผู้ที่สอนให้เรดเห็นคุณค่าของความหวัง เเละ อิสรภาพ”
“These walls are funny. First you hate them, then you get used to them. Enough time passes, you depend on them. That’s institutional.”
“กำเเพงพวกนี้ช่างตลก เเรกๆคุณเกลียดมัน พอเวลาผ่านไปนานๆ คุณเริ่มพึ่งพิงมัน มันคือความยึดติดกับสถาบัน”
3
“Hope is a good thing, maybe the best of things and no good thing ever dies.”
“ความหวังเป็นสิ่งที่ดี อาจจะดีที่สุดเลยด้วยซ้ำ สิ่งดีๆไม่มีวันตาย”
“Some birds aren’t meant to be caged, their feathers are just too bright.”
“นกบางตัวไม่ได้เกิดมาเพื่ออยู่ในกรง ขนของพวกมันสดใสงดงามเกินไป”
1
โฆษณา