16 ก.ค. 2021 เวลา 09:49 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ดูหนังแบบกาวๆ Ep.4 The irishman กับ The casino ในเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกัน
- พยายามคิดทบทวนหลายรอบที่จะเขียนเรื่องนี้ดีรึเปล่า เนื่องจากข้อมูลระบอบแฟมิลี่มันเยอะมาก
- พยายามจะกล่าวถึงเฉพาะในตัวหนังนะครับ ที่เหลือลองหาข้อมูลเพิ่มดูครับ (รึเปล่า เพราะผมชอบไหล😅)
- พยายามจะ "เจาะ" ตัวละครหลักทั้งหมดครับ
- ข้อมูลเยอะมาก แต่จะพยายามทำให้กระชับ (?) ครับ 😅
The Irishman และ The casino กับเรื่องราวที่ตีแผ่สังคมแฟมิลี่
- เริ่มเรื่องต้องเล่าถึงจิมมี่ ฮอฟฟา (อัล ปาชิโน่) ที่เราเห็นในเรื่อง The Irishman โดยตัวจิมมี่ ฮอฟฟา เป็นนักกิจกรรมที่เรียกร้องเกี่ยวกับการใช้แรงงานอย่างไม่เป็นธรรม ด้วยสังคมในยุคนั้นมีการใช้แรงงานอย่างไม่เป็นธรรม รวมทั้งมีการกดค่าแรง จนถึงให้ทำงานล่วงเวลาเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด (ตาม กม.สมัยนี้)
- ด้วยตัวจิมมี่ ฮอฟฟา เรียกร้องความไม่เป็นธรรมตามที่กล่าวไว้ มันส่งผลให้ได้เป็นประธานสหภาพคนขับรถบรรทุก (มีสมาชิกหลักล้าน) เคยเรียกร้องสำเร็จ (จำไม่ได้ว่าเกี่ยวกับค่าแรงหรืออะไร) ว่ากันว่า สมัยนั้นจิมมี่ ฮอฟฟา ดังกว่าเอลวิส พริสลี่ และยุคนึงเค้าก็ดังกว่า เดอะ บีทเทิร์น
จิมมี่ ฮอฟฟา (ซ้าย) และอัล ปาชิโน่ ในบทจิมมี่ฮอฟฟา (ขวา)
- การเลือกตั้งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะมันก็ต้องใช้เงิน แล้วเงินมาจากไหนล่ะ? ก็มาเฟียนั่นแหล่ะ มาช่วยเป็นหัวคะแนน + สนับสนุนเรื่องเงินๆ ทองๆ
- เมื่อจิมมี่ ฮอฟฟา ชนะเลือกตั้งแล้ว ทีนี้มาเฟียก็ไม่ได้ทำงานให้ "ฟรี" ถูกไหม?
- มาเฟียเลยเอาคืนแบบ "ทบต้นทบดอก" โดยการ "กู้" เงินจากสหพันธ์รถบรรทุกของจิมมี่ ฮอฟฟา เป็นประธานสหพันธ์ + ประธานกองทุน (ว่ากันว่าเงินในกองทุนมีประมาณ 2.2 พันล้าน Usdt ซึ่งอยู่ในปี ค.ศ.1955 ลองคูณ 30 และบวกอัตราเงินเฟ้อปีละ 2 เปอร์เซ็นต์ จะทราบถึงจำนวนเป็น "บาท") เพื่อเอาไปเปิดคาสิโน ทำให้เกิดเรื่องราวที่เราได้เห็นในเรื่อง The casino สตาร์ดัส ตามเนื้อเรื่องในหนังคาสิโนนั่นแหล่ะ
มีคาสิโนใหญ่ขนาดนี้กลางทะเลทราย น่าคิดเหมือนกันว่า "เค้าใช้การตลาดยังไงให้คนมาเที่ยวกลางทะเลทรายนะในสมัยนั้น (พ.ศ.2497 ข้อมูลจาก Wikipedia)
-ในส่วนแก๊งค์มาเฟียที่ปรากฎในหนัง (หลักๆ ทั้ง 2 เรื่อง เนื่องจากตัวละครบางตัวเราแค่รู้ชื่อ เค้าก็จากเราไปซะแล้ว😅) คือแก๊งค์บูฟาลิโน่ โดยมีรัสเซล บูฟาลิโน่ (โจ เพสซิ) เป็นหัวหน้าแก๊งค์ และมีมือดีอย่าง แฟรงค์ "ดิ ไอริสแมน" (โรเบิร์ต เดอ นีโร) หรือชื่อจริงคือ แฟรงค์ ชีแรน เป็นนักทาสีบ้านข้างกาย
รัสเซล บูฟาลิโน่ ฉายา Old man (ซ้าย) และโจ เพสสิ ในบท รัสเซล บูฟาลิโน่ (ขวา)
- ไม่ได้พิมพ์ผิดนะ สำหรับคนที่ดูแล้วจะทราบว่า "นักทาสีบ้าน" คืออะไร?
- สิ่งที่น่าสนใจคือ แฟรงค์ ชีแรน ซึ่งเป็นชาวไอริช ได้รับการยอมรับจากรัสเซล บูฟาลิโน่ ในฐานะ "แฟมิลี่" ซึ่งเป็นการแสดงถึงความจริงใจ "ขั้นสุด" สำหรับแฟรงค์ ชีแรน ที่ไม่ได้เป็นชาวอิตาลี
- แต่นั่นย่อมหมายความว่า แฟรงค์ ชีแรน พร้อมที่จะ "เชื่อฟัง" ทุกคำสั่งจากบูฟาลิโน่ และพร้อม "เก็บ" ทุกคนที่บูฟาลิโน่ต้องการให้หายไปจากสารระบบ
แฟรงค์ ชีแรน (บน) และโรเบิร์ต เดอ นีโร ในบท แฟรงค์ ชีแรน
- ในส่วนของแก๊งต่อไป คือแก๊งค์ "ชิคาโก้" ซึ่งมีหนึ่งคนที่น่าสนใจ (ไม่ปรากฎในหนัง) เบนจามิน "บั๊กซี่" ซีกัล เป็นหนึ่งในมาเฟียตัวเบ้งในสมัยนั้น มีเส้นสายในวงการฮอลลีวูด (เคยแสดงหนัง) และเป็นผู้บุกเบิกเวกัสทำให้เกิดคาสิโนกลางทะเลทราย รวมทั้งเป็นหนึ่งในสมาชิกระดับสูงของกลุ่มนักฆ่าสมัยนั้น สื่อสมัยนั้นเรียกกลุ่มนี้ว่า Murder Inc. ว่ากันว่าทั้งองค์กรนี้ฆ่าคนไปกว่า 1000 คน
- บั๊กซี่ คือฉายาของเบนจามิน ซีกัล ด้วยคำว่า บั๊กซี่ หรือ Bugsy มีความหมายอีกนัยหนึ่ง คือ "ไอ้ตัวกินเลือด" เนื่องจากไอ้หมอนี่ชอบฆ่าคนเป็นชีวิตจิตใจ และชอบใช้ "ที่เจาะน้ำแข็ง" ในการฆ่า
"บั๊กซี่" เห็นเนี๊ยบๆ แบบนี้ อยู่ให้ห่างๆ เค้าดีกว่า
- หลังจากหมดยุคของบั๊คซี่ (จริงๆ มีเรื่องยุคก่อนที่จะเกิดเรื่อง The casio แต่ไม่ได้หยิบมาเล่า) ตามในหนังเรื่อง The casio แก๊งค์ชิคาโก้ซึ่งเป็นเจ้าของคาสิโนสตาร์ดัส ได้ส่ง "ไอ้ยิวมือทอง" หรือ แฟรงค์ "เลฟตี้" โรเซนทอร์ หรือในหนังชื่อ แซม "เอส" โรสทรีน (โรเบิร์ต เดอ นีโร) เพื่อบริหารสตาร์ดัส ให้ได้กำไรงามๆ เนื่องจากเลฟตี้เป็นเจ้ามือที่ "เทพ" และสามารถทำกำไรให้สตาร์ดัสเป็นกอบเป็นกำ (เค้าเทพยังไงไปติดตามในหนังนะครับ)
แฟรงค์ "เลฟตี้" โรเซนทอร์ (บน) และ โรเบิร์ต เดอ นีโร ในบท "ไอ้ยิวมือทอง"
- เมื่อมีเรื่องเงินๆ ทองๆ มันก็มีเรื่องอำนาจมาเอี่ยวด้วย ทำไงล่ะ? ให้แก๊งอื่นที่เปิดคาสิโนเหมือนกันไม่เข้ามาขัดผลประโยชน์ของคาสิโน หรือโดนขู่กรรโชกทรัพย์ มันก็ต้องมีมาเฟียมาป้วนเปี้ยนในคาสิโนบ้าง เพื่อ "ชน" กับมาเฟียแก๊งค์อื่น หรือเป็นไม้กันหมาเพื่อไม่ให้แก๊งค์อื่นกล้าหือกับคาสิโน (ในลาสเวกัส มาเฟียแต่ละแก๊งค์ตกลงกันว่าจะไม่มี "เจ้าถิ่น" ต่างคนต่างทำธุรกิจ แต่ทางปฏิบัติมันก็มีเรื่องกันบ้าง)
- แก๊งค์ชิคาโก้ ได้ส่งตัวอันตรายอย่างแอนโทนี่ สปริโรโทร หรือในหนังชื่อ นิกกี้ ซันโทโร่ (โจ เพสสิ) มาเพื่อเป็น "ไม้กันหมา" แต่ดันกลายเป็น "หมา" ซะเอง (ตามเนื้อเรื่องต่อได้ในเรื่อง The casino ครับ)
- ว่ากันว่าแอนโทนี่ สปริโรโทร เป็นคนเดือดมาก เคยมีแก๊งค์นักเลงหน้าใหม่ปล้นบาร์ของแก๊งค์ในสังกัด พอแอนโทนี่จับมาได้ก็เอาเครื่องบีบขมับ (ไม่รู้เค้าเรียกไรครับ ที่มันมีในวิชาการช่าง) บีบขมับจนตาผู้ถูกทรมานถลนออกจากเบ้า ก่อนที่จะฆ่าทิ้งทีหลัง และแน่นอนอาวุธที่แอนโทนี่ สปริโรโทรชอบที่สุดคือที่เจาะน้ำแข็ง (ไม่รู้เหมือนกันทำไมต้องที่เจาะน้ำแข็ง😅)
แอนโทนี่ สปริโรโทร (บน) และนิกกี้ ซันโทโร่ (โจ เพสซิ) "ไอ้เตี้ยจอมเดือด"
-The Irishman ให้ลองโฟกัสที่ จิมมี่ ฮอฟฟา (อัล ปาชิโน่) ช่วงที่ดูรอบแรกอาจจะรู้สึกว่า "ทำไมตาแก่คนนี้มันน่ารำคาญจังวะ" แต่หลังจากดูอีกครั้ง ก็อดคิดไม่ได้ว่าจิมมี่เป็นตาแก่หัวรั้น หรือจริงๆ แล้วเค้าต้องการกลับมาเพื่อต่อสู้ตามแนวทางของตัวเอง เพื่อสิ่งที่เค้าเคยเรียกร้องให้กับประชาชนของประเทศ
- The casino ให้โฟกัสที่นิกกี้ ซันโทโร่ (โจ เพสสิ) ระหว่างดูคุณจะรู้สึกว่า "ไอ้นี่มันจะฆ่ากูเมื่อไหร่วะ?" ตลอดเวลา ตัวละครตัวนี้ทำให้คุณไม่ตื่นเต้นที่รู้ว่าจอห์น วิก ฆ่าคนด้วยดินสอ
-ชาลอน สโตนส์ คือที่สุดของยุคนั้นจริงๆ
ชาลอน สโตน กับเบื้องหลังความ "บรรลัย" ของสตาร์ดัส
- แนะนำ +The godfather 1 - 3 เพื่อซึมซับสังคมแบบแฟมิลี่ (เรื่องแต่ง แต่มีโครงเรื่องจริงอยู่บ้าง)
4
เอาปก The godfather ภาค 2 ขึ้น เพราะอัล ปาชิโน่ รวมทุกคำนิยามของคำว่า "โคตรเท่"
- ทั้งหมดมีใน Netflix
อัล ปาชิโน่ ใน The godfather ภาค 2
ขอบคุณที่ติดตามครับ
ฝากซีรี่ Critical Thinking : ดูหนังแบบกาวๆ ด้วยครับ
ฝากกดติดตามด้วยครับ (เดี๋ยวผมมีไรจะเล่าให้ฟัง🤔🤫)🙏🙏🙏

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา