16 ก.ค. 2021 เวลา 10:41 • นิยาย เรื่องสั้น
Ep.เปรตป้ารำไพ EP 2/2
พอตอนเช้ายายสรก็พาเราไปที่วัด เราเข้าไปกราบหลวงพ่อพร้อมกับยายสร ไปถึงยายสรก็เข้าไปคุยกับหลวงพ่ออยู่พักใหญ่ คุยเป็นภาษาอีสานเราเองก็ฟังไม่ถนัด
ท่านบอกเราว่าช่วงนี้ก็ต้องระวังตัวหน่อยนะ เราดวงตก หมั่นทำบุญ สวดมนต์บ่อยๆ เดี๋ยวหลวงพ่อจะรดน้ำมนต์ให้ เราก็ให้ท่านรดน้ำมนต์ แล้วยายสรก็ขอตัวพาเรากลับ
ยายสรพาเราไปซื้อหมวก เพราะเราผมสั้น พอโดนหลอกไปเมื่อคืนมันก็เลยตั้ง หวียังไงก็ไม่ลง มัดก็มัดไม่ได้ เจ้าของร้านเลยได้ยืนคุยกับยายสรอยู่พักนึง แกก็หันมาคุยกับเราว่าขวัญเอยขวัญมานะลูกนะ เมื่อวานวันโกนคนแถวนี้เค้ารู้กันหมด ว่าเปรตรำไพมันเฮี้ยนขนาดไหน หนูเพิ่งมาก็เจอเลย แต่มันทำอะไรไม่ได้หรอก ได้แต่หลอกเท่านั้น เรามองหน้ายายสร ว่าจะถาม แต่ยายสรพูดขึ้นมาก่อน
ว่าถึงบ้านเดี๋ยวยายเล่าให้ฟัง
เราเดินกลับบ้านกับยายสร และต้องผ่านรั้วบ้านนั้น ขามันก็สั่นๆ อย่างบอกไม่ถูก ตอนออกไปวัดไปอีกทาง พอตอนกลับดันกลับอีกทางเฉยเลย ยายสรเดินมาจับมือเราแล้วพาเดิน เรานึกถึงคำพูดของผี
เมื่อคืน ที่บอกเราว่า “เปิดประตูรั้วให้น่อย” เลยชำเลืองมองตรงประตูขณะที่เดินผ่าน อ้าว!!! ไม่มีประตู!!!
แล้วให้กูเปิดประตูทำไมว่ะ เราได้แต่คิดในใจ แล้วก็รีบเดินกลับอย่างเร็ว พอถึงบ้าน น้าสวยรออยู่ เลยได้นั่งคุยกันแบบจริงๆ จังๆ เราถามน้าสวยเลยว่า เปรตรำไพ น้าสวยรู้จักมั๊ย น้าสวยพยักหน้า แล้วบอกว่าเรื่องนี้ให้ยายสรเล่าให้ฟังจะดีที่สุด พอยายสรนั่งพักสักพักนึง ยายก็เริ่มเล่า
ยายบอกว่าเรื่องนี้มันนานมากแล้ว ตั้งแต่สมัยยายเป็นเด็กๆ ที่แถวนี้แต่ก่อนมันเป็นทุ่งนา พอนานๆ เข้า คนเริ่มมาปลูกบ้านอยู่ แต่ก็จะห่างกัน ประมาณ 300-500 เมตร เหมือนที่เราเห็นบ้านข้างนี่แหละ
แต่ก่อนก็ไมได้มีรั้วกั้นหรอก เพิ่งมามีช่วงหลังๆ นี่แหละ ยายมีเพื่อนคนนึงชื่อพิกุล ที่ย้ายมาพร้อมกับแม่ของเขา มาอยู่ที่บ้านหลังนั้น แม่ของพิกุล ชื่อรำไพ บ้านนั้น เดิมทีเจ้าของชื่อยายกุม มีลูกชายคนเดียว ชื่อกร
ยายกุมแกเป็นคนมีเงิน มีที่มีนาให้คนเช่า แก่เป็นคนใจดี ช่วยเหลือคนอื่นตลอด พอลูกชายแกสอบราชการได้ แต่ต้องไปประจำอยู่จังหวัดอื่น แกเลยต้องอยู่คนเดียว
วันนึงแกเกิดล้มป่วย ด้วยโรคพากินสัน ทำให้แกใช้ชีวิตค่อนข้างลำบาก ลูกชายแกก็เลยพาเมียคือป้ารำไพ กับลูกเลี้ยงซึ่งคือพิกุล กลับมาอยู่กับแม่ แต่แกจะมาพัก แค่ เสาร์ อาทิตย์ ส่วนวันธรรมดาก็อยู่ต่างจังหวัด ลูกชายยายกุม แกเป็นหมั่น ป้ารำไพแกมีลูกติดมาด้วย แกก็รักและดูแลพิกุล อย่างดีเหมือนลูกแท้ๆ ยายกุมเองก็รักหลานคนนี้เช่นกัน พิกุลมาเล่นกับสร ซึ่งคือยายของเรา บ่อยๆ เพราะบ้านใกล้กัน เลยทำให้สนิทชิดเชื้อกันมาก
ตอนแรกๆ ที่ป้ารำไพมาอยู่แกก็ดูแลยายกุมอย่างดี แต่พอนานๆ เข้าลายก็เริ่มออก แกเริ่มเบื่อที่ต้องคอยป้อนข้าว ป้อนน้ำ คนป่วย เพราะอาการของคนเป็นพากิรสัน จะสั่นๆ และกลืนอาหารลำบาก หยิบจับอะไรก็หล่น ก็แตก คนที่ทำหน้าที่ตรงนี้แทนก็จะเป็นพิกุล เพราะสงสารย่า ส่วนลูกชายแก จากที่กลับอาทิตย์ละครั้ง ก็เปลี่ยนเป็นเดือนละครั้งแทนเพราะงานเยอะ ได้แต่ส่งจดหมายมาหาเมียแทน แกเขียนจดหมายมาบ่อยมาก จนเห็นบุรุษไปรษณีย์ มาบ้านยายกุมเกือบทุกวัน ป้ารำไพแกมีหน้าที่ไปเก็บค่าเช่านา ค่าเช่าตึกที่เป็นสมบัติของยายกุม พอได้เงินมาก็ไม่ยอมพาแม่ผัวไปหาหมอ ยายกุมป่วยจนติดเตียง ไม่มีเรี่ยวแรงทำอะไร มีพิกุลคนเดียวที่คอยดูแลย่าบางครั้งยายของเราก็มาดูแลด้วย
พอไปบอกแม่ ว่าย่าป่วยหนักก็ไม่เคยสนใจ ของดีๆ ก็ไม่เคยซื้อให้กิน เวลาผัวแกมาถึงจะเข้ามาดูแลแม่ผัวที ส่วนยายกุมก็พูดไม่ค่อยได้แล้ว ลูกชายยายกุมก็ซึ้งใจเมียมาก ที่อุตส่าดูแลทุกอย่าง พิกุลก็ได้แต่บ่นให้สรฟังแบบปรับทุกข์ตามประสาเด็ก
หลังๆ ชาวบ้านเค้าลือกันว่าป้ารำไพเล่นชู้กับบุรุษไปรษณีย์ ที่มาส่งจดหมายบ่อยๆ ด้วยความที่แกยังสาว แถมสวยมากด้วย ผัวก็ไม่ได้อยู่ใกล้
แกไม่เห็นหัวแม่ผัวที่นอนอยู่ในบ้าน พาชู้รักเข้านอกออกในบ้านแบบไม่เกรงกลัวอะไร พิกุลเองก็รู้แต่พูดอะไรไม่ได้ด้วยความเป็นลูก และยังเด็ก ไม่นานยายกุมก็เสีย และลูกสะใภ้อย่างป้ารำไพก็ได้เป็นใหญ่ในบ้าน
ทรัพย์สมบัติเมื่อตกเป็นของลูกชาย ก็ตกเป็นของสะใภ้ด้วยเช่นกัน เคยมีคนแอบบอกสามีแกนะว่าเมียแอบมีชู้ แต่ด้วยความรักเมียมาก สามีแกไม่เคยเชื่อ พอยายกุมไม่อยู่แล้ว ป้ารำไพก็เพิ่มค่าเช่าที่ แถมปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยแพงๆ ด้วยความโลภเข้าครอบงำ ผสมกับแรงยุของชายชู้ ที่ตอนนี้ทำตัวไม่อายคำคนนินทา ชวนป้ารำไพเข้าบ่อน กินเที่ยวสำมะเรเทเมาตลอด ว่ากันว่า แกท้องและแท้งถึงสองครั้ง มีชาวบ้านไปเจอแกซื้อยาขับเลือดกับชู้รักของแก เพราะสามีแกเป็นหมัน แกไม่ได้แคร์ชาวบ้านหรอก แต่กลัวสามีรู้มากกว่า
จนวันหนึ่งสามีแกกลับมาแบบไม่ได้บอกล่วงหน้าไว้ก่อน มาเห็นเมียรักกำลังพรอดรักกับชายชู้ทั้งโกรธ ทั้งแค้นเลยเข้าไปทำร้ายร่างกายทั้งสองคน ชายชู้พอได้จังหวะทีเผลอก็วิ่งหนีออกมาจากบ้าน ทำให้มีชาวบ้านได้ยินเสียงเลยเดินมาดู ช่วงเวลานั้นเองสามีป้ารำไพก็รีบตรงดิ่งเข้ามาต่อยอีกชายชู้ท่าไม่ดีเลยคว้าจอบที่อยู่แถวนั้นฟาดไปที่หัวของสามีป้ารำไพ จนแกบาดเจ็บหนัก
ชาวบ้านเข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดีก็รีบเข้ามาช่วย ส่วนชายชู้ก็รีบหนีไปทันที ตอนนั้นอาการของสามีแกร่อแร่มาก แกใช้แรงเฮือกสุดท้ายสาปแช่งเมียแกด้วยใจที่ร้าวราน ว่าอีรำไพ มันไม่ใช่คน ทำร้ายลูก
มันไม่ใช่แม่คน มันเป็นเดรัดฉาน กูขอให้ต้องทุกข์ทรมาน อยู่ที่นี่ ไม่ได้ไปไหน ไม่ได้ไปผุดไปเกิด กูขอสาปส่ง ก่อนที่แกจะสิ้นใจตาย พอชาวบ้านได้ยินอย่างนั้น จึงรีบวิ่งขึ้นไปดูบนบ้าน ปรากฏว่า ป้ารำไพแกนอนจมกองเลือดอยู่บนบ้าน และมีรอยแผลจากการโดนมีดแทงหลายแผล และในห้องอีกห้องในตู้เสื้อผ้าก็เจอพิกุลนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ด้วยตัวที่สั่นเทา หนูน้อยวันเพียง 11 ปีต้องเจอเหตุการณ์แบบนั้น น่าสงสารมาก ชาวบ้านช่วยกันจัดงานศพ ให้ป้ารำไพกับสามี โดยสวดศพแค่วันเดียว
พอทุกอย่างเสร็จสิ้น พิกุลต้องย้ายไปอยู่ในความดูแลขอพ่อแท้ๆ ที่ทางใต้ จึงได้ร่ำลากับสร พิกุลบอกว่ารู้สึกผิดมาก ๆ ที่เขียนจดหมายไปหาพ่อเลี้ยง
โดยยายสรเล่าให้ฟังว่า วันนั้นยายไปหาพิกุลที่บ้าน แล้วเจอพิกุลนอนอยู่บนแคร่ข้างบ้าน แถมมีเลือดไหลเปื้อนกางเกง พอเค้นถามถึงได้ทราบว่าชายชู้ของแม่ทำอนาจารพิกุล ยายสรจึงตัดสินใจให้เด็กแอบเขียนจดหมายไปหาพ่อเลี้ยง
และเล่าทุกอย่างว่าชายคนนั้นทำอะไรพิกุลบ้าง และให้ยายสรเอาไปหยอดตู้ไปรษณีย์ให้ตอนนั้นเด็กน้อยทั้งสองเพียงต้องการอยากให้พ่อมาช่วยพิกุลเท่านั้น ไม่คิดว่าพ่อเลี้ยงกลับมา จะเกิดเรื่องมากมายขนาดนี้ และเรื่องราวมันก็ยังคงจะอยู่ในใจของยายสรจนถึงทุกวันนี้
หลังจากที่ป้ารำไพเสีย ก็เฮี้ยนมาก แกกลายเป็นเปรต ออกมาให้คนเห็นบ่อยๆ เค้าว่าบางทีแกก็มายืนอยู่หน้าบ้านมาเรียกให้คนช่วย เหมือนแกออกมาไม่ได้ บางทีก็ออกมาให้เห็นแบบสวยๆ บางทีก็ออกมาแบบน่ากลัว ทุกครั้งที่มีคนเห็น แกจะดูทุกข์ทรมานมาก จนชาวบ้านเค้าเล่ากันปากต่อปาก ถึงความเฮี้ยนไม่รู้อันไหนจริง อันไหนแต่ง หลายคนเชื่อว่าที่แกยังอยู่จนถึงวันนี้อาจเป็นเพราะคำแช่งของสามีแก ซึ่งก็แล้วแต่ความเชื่อของใครของมัน แต่ที่แน่ๆ ทุกวันโกนหมาจะมายืนเห่าหอนอยู่หน้าบ้านแกทุกครั้ง
ยายสรบอกเราว่า หลวงพ่อท่านให้สายสิญจ์เรามาด้วยนะ ท่านบอกว่าเพราะเราดวงตก เลยทำให้ช่วงนี้เราอาจมองเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็น เดี๋ยววันมะรื่นชาวบ้านที่นี้เค้าจะทำพิธีเรียกขวัญให้ มันเป็นความเชื่อของชาวบ้านค่ะ แต่ไม่ใช่เพราะเราโดนผีหลอกนะคะ แต่เป็นเพราะเราโดนรถชนตังหาก
เขาว่าขวัญหาย จึงต้องทำพิธีเรียกขวัญ จากนั้นมาเราก็แทบไม่ได้นอนห้องนั้นเลย มานอนกับยายสรแทนแล้วก็ไม่เคยเจอ เปรตรำไพ อีก แต่ทุกคืนวันโกน จะได้ยินเสียงหมาหอนจริงๆ ค่ะ เรื่องแบบนี้หากไม่เจอกับตัว เราคงไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด!!!
ขอบคุณเรื่องสนุกๆจากเพลินไดอารี่ด้วยค่ะ
โฆษณา