17 ก.ค. 2021 เวลา 03:50 • ธุรกิจ
รู้จัก Manifestation หลักการสร้างความสำเร็จ ด้วย “ความเชื่อ”
“กฎแรงดึงดูด” คงจะเป็นสิ่งที่ใครหลายคนเคยได้ยินมา
ว่าหากเราเป็นคนแบบไหน เราก็จะดึงดูดคนแบบนั้นเข้ามาหาเรา
ฉะนั้น หากเราคิดถึงแต่สิ่งดี ๆ เราก็จะดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามาหาตัวเช่นกัน
และในวันนี้ THE BRIEFCASE จะมาพูดถึงการ Manifest หรือ Manifestation
หรือก็คือหลักการที่บอกว่า หากเราคิดจะทำอะไร เราก็จะได้แบบนั้น
หลายคนอาจจะมองว่า Manifestation ก็ไม่ได้ต่างจากการตั้งเป้าหมาย
ที่เราทุกคนก็ล้วนมีเป้าหมายที่อยากจะไปให้ถึงทั้งนั้น
แล้ว Manifestation กับการมีเป้าหมาย ต่างกันอย่างไร ?
จริง ๆ แล้ว Manifestation กับเป้าหมายนั้นมีความแตกต่างกันอยู่
โดยการมีเป้าหมาย คือการที่เรารู้ว่าเรามีเป้าหมายที่อยากไปให้ถึง
หรือเป็นเป้าหมายที่เราคาดหวังอยากจะทำให้ได้ แต่เราไม่ได้มีความเชื่อมั่นอยู่ในนั้น
ในขณะเดียวกัน Manifestation ก็คือการที่เราเชื่อมั่นว่าเราจะทำสิ่งนั้นได้
และรู้ว่าเป้าหมายนี้เป็นสิ่งที่เป็นไปได้สำหรับชีวิตเรา
1
ยกตัวอย่างเช่น อาการที่ร่างกายของมนุษย์สร้างปาฏิหาริย์ด้วยการ “ท้องลม”
ส่วนหนึ่งของอาการนี้ก็มาจากการที่ ผู้หญิงคนหนึ่งมีความเชื่อว่า เธอจะตั้งท้อง
เนื่องจากความต้องการที่จะมีลูก และเชื่อว่าตัวเองกำลังจะมีลูก
ก็ก่อให้เกิดอาการท้องลมได้เช่นกัน
หรือการทดลอง ที่เคยทดลองปิดตามนุษย์แล้วบอกว่าเราจะโยนลูกเหล็กใส่มือคนคนนั้น
ทั้งที่จริง ๆ แล้วสิ่งที่โยนใส่นั้นเป็นเพียงแค่บอลพลาสติกลูกเล็ก ๆ เบา ๆ เท่านั้น
ผลจากการทดลองนี้ก็คือ เพราะผู้ทดลองเชื่อว่า บอลที่กำลังจะถึงมือเป็นลูกเหล็ก
ส่งผลให้เมื่อเอามือรับลูกบอล ต่อให้เป็นบอลพลาสติก เราก็รู้สึกหนักเหมือนบอลเหล็ก
ฉะนั้นอาจบอกได้ว่า Manifestation ก็คือการที่เราเชื่อมั่น 100% ว่าเราจะทำได้
ก็จะส่งผลให้เราสามารถทำเป้าหมายนั้นให้ประสบความสำเร็จได้ในที่สุด
1
แต่การจะ Manifest ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการเชื่ออะไรสักอย่างอย่างเต็มที่
ก็ต้องใช้พลังใจ และความเชื่อมั่นเป็นอย่างมาก แล้วเราจะทำได้อย่างไรบ้าง
- ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน ไม่กว้างจนเกินไป แต่ก็ไม่เจาะจงมากจนเกินไปเช่นกัน
เช่น หากเราอยากจะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ
จะไม่ใช่แค่ “ประสบความสำเร็จ” แต่หมายถึงว่าประสบความสำเร็จในด้านไหน
เช่น อยากให้บริษัทมีรายได้มากขึ้น แต่ก็ไม่ควรกำหนดตายตัวว่าต้องมีรายได้เพิ่มขึ้นกี่บาทถึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จ
เพราะการกำหนดไว้ชัดเจนเกินไป ก็อาจจะเป็นการที่ปิดกั้นความเป็นไปได้
เช่น บางทีเราอาจจะทำรายได้ ได้มากกว่าที่เราคิดไว้ก็ได้ แต่พอเราคิดว่าเราจะ “ทำได้แค่นี้”
ก็กลายเป็นว่าเราก็ทำได้แค่นี้ ทั้ง ๆ ที่เราอาจทำได้มากกว่านั้น
- ลงมือทำไปพร้อม ๆ กับความคิดของเรา
1
ถึงแม้การ Manifest จะบอกให้เราเชื่อมั่นในสิ่งที่เราต้องการ
แต่ถ้าหากเราไม่ลงมือทำเลย สิ่งที่เราคิดก็คงจะไม่เกิดขึ้นถ้าไม่ลงมือทำ
เช่น ถ้าหากเราคิดอยากจะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ
แต่เราไม่เริ่มลงมือทำธุรกิจ แล้วเราจะประสบความสำเร็จในธุรกิจได้อย่างไร
ฉะนั้นเมื่อคิดแล้วว่าอยากได้อะไร ก็ต้องลงมือทำไป พร้อม ๆ กันด้วย
จริง ๆ แล้วถึงแม้ Manifestation จะดูเป็นหลักการที่บางคนก็ไม่เชื่อ
แต่อีกด้านหนึ่ง หากเราคิดถึงแต่สิ่งดี ๆ ก็จะช่วยให้จิตใจของเรามีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นได้
และสุขภาพจิตที่ดีนี่เอง ก็จะส่งผลต่อไปถึงการมีชีวิตที่ดีได้ด้วยเช่นกัน..
โฆษณา