19 ก.ค. 2021 เวลา 03:30 • ธุรกิจ
คุณณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ ขึ้นแท่นผู้หญิงที่รวยสุดในไทย
4
รู้หรือไม่ ในปี 2563 ที่ผ่านมานี้ Forbes ได้จัดอันดับให้คุณณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ เป็นผู้หญิงที่มีมูลค่าทรัพย์สินสูงเป็นอันดับที่ 3 ของไทย ด้วยมูลค่าทรัพย์สินกว่า 19,300 ล้านบาท
4
แต่ในปีนี้ มูลค่าทรัพย์สินของคุณณัฐชไม ได้ก้าวกระโดดขึ้นมาเป็น 40,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ทาง Forbes เคยประเมินไว้เป็น 2 เท่า
3
และหากยึดจากการประเมินของ Forbes จะส่งผลให้คุณณัฐชไม ขึ้นแท่นเป็น “ผู้หญิงที่รวยที่สุดในไทย” ประจำปี 2564 นี้
2
แล้วคุณณัฐชไมเป็นใคร และเธอทำธุรกิจอะไรถึงได้ร่ำรวยขึ้นขนาดนี้ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
2
คุณณัฐชไม เป็นนักธุรกิจวัย 59 ปี
3
ซึ่งจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอก้าวเข้าสู่วงการธุรกิจได้เกิดขึ้น เมื่อเธอแยกตัวจากธุรกิจผู้ให้บริการทางการเงินของครอบครัว เพื่อออกมาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กับคุณเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ซึ่งเป็นเพื่อนของพี่ชายคุณณัฐชไม แต่ทำไปได้ระยะหนึ่งก็ได้เลิกกิจการไป
2
ต่อมาในปี 2542 ทั้งคู่ก็เริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ด้วยกันอีกครั้ง
ซึ่งก็คือ “โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง” ซึ่งทำร่วมกับคุณสุพจน์ ธีระวัฒนชัย
5
โดยโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง จะเป็นร้านอาหาร และโรงเบียร์ขนาดเล็ก พร้อมกับการแสดง ที่ช่วยสร้างความบันเทิงให้กับผู้มาใช้บริการ
แต่หลังจากที่คุณณัฐชไม ทำธุรกิจโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ไปได้ประมาณ 2 ปี
เธอและคุณเสถียรก็ได้เริ่มมองหาโอกาสทางธุรกิจอื่น ๆ เพิ่มเติม
2
หนึ่งในนั้นก็คือการก่อตั้งบริษัทคาราบาวตะวันแดงขึ้น และได้หุ้นส่วนทางธุรกิจคนใหม่ คือ “คุณแอ๊ด คาราบาว” เพื่อนคนสนิทของคุณเสถียร
2
โดยสินค้าแรก ที่บริษัทคาราบาวตะวันแดงเริ่มวางจำหน่ายก็คือ เครื่องดื่มบำรุงกำลัง ภายใต้แบรนด์คาราบาวแดง ซึ่งหลังจากที่เริ่มมีการขาย สินค้าก็ได้รับผลตอบรับอย่างดี
3
และเมื่อพวกเขาเห็นว่าเริ่มมาถูกทางแล้ว จึงตัดสินใจขยับขยายธุรกิจให้ครอบคลุมมากขึ้น ตั้งแต่กระบวนการหาวัตถุดิบหลัก, การผลิต, การตลาด และการจัดจำหน่าย
3
ซึ่งแน่นอนว่า การขยับขยายธุรกิจก็จำเป็นที่จะต้องใช้เงินทุนที่สูงเช่นกัน
ดังนั้น ในปี 2557 พวกเขาจึงตัดสินใจจัดตั้งบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG เพื่อนำบริษัทจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้น ส่วนบริษัทคาราบาวตะวันแดงจะกลายมาเป็นบริษัทย่อยในเครือคาราบาวกรุ๊ปแทน
3
ปัจจุบัน อาณาจักรคาราบาวกรุ๊ปที่คุณณัฐชไมได้ร่วมก่อตั้งขึ้นมานั้น
มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 149,500 ล้านบาท แซงหน้าบริษัทคู่แข่งอย่างโอสถสภา ที่มีมูลค่าบริษัท 114,140 ล้านบาท
สำหรับคุณณัฐชไม ปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่งในคาราบาวกรุ๊ปอยู่ทั้งหมด 5 ตำแหน่ง
ซึ่งได้แก่
- รองประธานกรรมการ
- กรรมการผู้จัดการ
- รองประธานคณะกรรมการบริหาร
- รองประธานคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง
- กรรมการสรรหา และกำหนดค่าตอบแทน
12
นอกจากนี้ ในปี 2564 คุณณัฐชไมยังได้ขึ้นแท่นเป็นอภิมหาเศรษฐี อันดับที่ 28 ของไทย
และเป็นอันดับที่ 1 ในกลุ่มเศรษฐินีไทย ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 40,800 ล้านบาท
ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากปีก่อนหน้าถึง 21,500 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 111% ภายในปีเดียว
7
โดยหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้มูลค่าทรัพย์สินของคุณณัฐชไมเพิ่มสูงขึ้น จนสวนกระแสวิกฤติโรคระบาดในปี 2563 ก็เนื่องจากเรื่องของ “ราคาหุ้นคาราบาวกรุ๊ป”
1
ซึ่งคุณณัฐชไม เธอเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 2 ของคาราบาวกรุ๊ป
ด้วยสัดส่วนการถือหุ้นถึง 21% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
2
ที่น่าสนใจคือ เมื่อปีที่แล้ว ราคาหุ้นของคาราบาวกรุ๊ปได้พุ่งสูงขึ้นอยู่ตลอด
โดยถ้าหากเราดูจากราคาหุ้นคาราบาวกรุ๊ป จะพบว่า
2
ในวันที่ 3 มกราคม 2563 ราคาหุ้นจะอยู่ที่ 82.75 บาทต่อหุ้น
ในวันที่ 4 มกราคม 2564 ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นมาเป็น 116.00 บาทต่อหุ้น
นี่หมายความว่า ภายใน 1 ปี ราคาหุ้นได้เพิ่มขึ้นถึง 40%
5
ดังนั้นคุณณัฐชไมที่ถือหุ้นคาราบาวกรุ๊ปอยู่ 210 ล้านหุ้น
จึงได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้ไปโดยปริยาย
1
และถ้าหากเราลองคำนวณง่าย ๆ จากราคาหุ้นคาราบาวกรุ๊ปปัจจุบันที่ 154.50 บาทต่อหุ้น
และจำนวนหุ้นที่คุณณัฐชไมถืออยู่ 210 ล้านหุ้น
2
นี่หมายความว่า หุ้นคาราบาวกรุ๊ปที่อยู่ในมือของคุณณัฐชไมจะมีมูลค่าสูงถึง 32,445 ล้านบาทเลยทีเดียว และเราก็น่าจะได้คำตอบแล้วว่า แหล่งความร่ำรวยของคุณณัฐชไมส่วนหนึ่งนั้นมาจากไหน..
3
และเรื่องนี้ก็ยังชวนให้น่าติดตามต่อว่า คุณณัฐชไม และคาราบาวกรุ๊ปที่เธอมีส่วนได้ปลุกปั้นขึ้นมา
จะยังคงเป็น นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ ดั่งสโลแกน ได้นานเท่าใด..
โฆษณา