17 ก.ค. 2021 เวลา 06:12 • กีฬา
ตลอดช่วงเวลา 3 ปีครึ่งที่ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ค้าแข้งกับเชลซี ถึงแม้เขาจะไม่เคยยึดตำแหน่งกองหน้าตัวหลักได้อย่างยาวนาน ถึงแม้จะไม่เคยมีซีซั่นไหนที่ได้ลงตัวจริงในลีกเกิน 12 นัด แต่ผมเชื่อว่าแฟนสิงห์บลูส์คงไม่เถียง ถ้าจะบอกว่านี่คือกองหน้าที่คุ้มค่าตัว 18 ล้านปอนด์สุดๆ
นับตั้งแต่ย้ายจากคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง อาร์เซน่อล เข้าสู่ถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในเดือนมกราคม 2018 ชิรูด์ยิงไป 39 ประตู จากการลงสนาม 119 นัดรวมทุกรายการ ถือเป็นสถิติที่ไม่เลวเลย ซึ่งต้องขอเน้นเพิ่มเติมอีกว่า จาก 119 นัดที่ว่า มีเพียง 60 นัดเท่านั้นที่ถูกส่งลงในฐานะตัวจริง
จากสถิติดังกล่าว ถือว่าเฉลี่ยแล้วในทุกๆ 3 นัด เชลซีจะต้องได้อย่างน้อย 1 ประตูจากผลงานของชิรูด์ ถือว่ามาตรฐานการทำประตูน่าไว้ใจกว่าดาวเตะค่าตัวแพงอย่าง ติโม แวร์เนอร์ และ ไค ฮาแวร์ทซ์ ด้วยซ้ำ
การที่นักเตะคนหนึ่งมีส่วนร่วมกับการพาสโมสรคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ, ยูโรปา ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ภายในระยะเวลาไม่ถึง 4 ปี เราคงต้องยอมรับนักเตะคนนี้ว่ามีช่วงเวลาที่ดีมากๆ กับสโมสรแล้ว
ย้อนไปเมื่อช่วงต้นปี 2018 ซึ่ง ชิรูด์ เพิ่งย้ายไปร่วมทีมสิงห์บลูส์ได้แค่ไม่นาน เขาก็มีส่วนสำคัญกับการพาทีมชุดที่คุมโดย อันโตนิโอ คอนเต้ กรุยทางเข้าไปซิวแชมป์ เอฟเอ คัพ โดยได้โอกาสออกสตาร์ทในนัดชิงที่เฉือน แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 ก่อนหัวหอกค่าตัวแพงอย่าง อัลบาโร่ โมราต้า เสียอีก
แชมป์ ยูโรปา ลีก ปี 2019 ถ้าจำกันได้ดี ถือว่าเจ้าตัวมีส่วนสำคัญตลอดทัวร์นาเมนต์ยิ่งกว่าใครๆ จากผลงานซัดไปถึง 11 ประตูจาก 14 นัด โดยมีถึง 8 เกมที่เขาถูกส่งลงสนามแล้วมีชื่อบนสกอร์บอร์ด โดยเกมรอบ 16 ทีมที่บุกถล่ม ดินาโม เคียฟ 5-0 เขาทำเพอร์เฟ็กต์แฮตทริกได้ด้วย
1
เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมาริซิโอ ซาร์รี่ อดีตกุนซือเชลซี ซึ่งตอนนี้กำลังจะเริ่มงานใหม่กับ ลาซิโอ เพิ่งไปให้สัมภาษณ์กับ สปอร์ติตาเลีย สถานีโทรทัศน์ของอิตาลี โดยเผยเบื้องลึกว่า ชิรูด์ คือนักเตะที่เขาเลือกให้ลงตัวจริงในเกมนัดชิงยูโรปาเมื่อปี 2019 ก่อนหน้าสตาร์ดังอย่าง เอแด็น อาซาร์ หรือ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เสียอีก
“ก่อนเกม ยูโรปา ลีก นัดชิง จานฟรังโก้ โซล่า (ตอนนั้นเป็นมือขวาของซาร์รี่) มาถามผมว่าผมมีไอเดียเรื่องจัดทีมยังไง”
“ผมตอบเขาไปว่า ชิรูด์ และ เปโดร จะได้ลงแน่นอน เพราะ 2 คนนั้นไม่เคยพลาดท่าในเกมนัดชิงเลย ส่วนที่เหลืออีก 9 คน ผมให้เขาเป็นคนเลือกเอง”
โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ยิง 1 แอสซิสต์ 1 ในเกมนัดชิง ยูโรปา ลีก ที่บากู ปี 2019
ชิรูด์ ไม่ทำให้ ซาร์รี่ ผิดหวัง เมื่อเป็นคนโหม่งทำประตูเบิกร่อง และทำแอสซิสต์ให้ เอแด็น อาซาร์ ยิงปิดท้าย ช่วยให้ทีมยำใหญ่ อาร์เซน่อล ไป 4-1 ทำให้ ซาร์รี่ คว้าแชมป์แรกในชีวิตได้ที่กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน
จากนั้นพอถึงฤดูกาล 2019-20 อันยากลำบากภายใต้การคุมทีมโดย แฟร้งค์ แลมพาร์ด ซึ่งต้องมารับเผือกร้อนแทน ซาร์รี่ ที่กลับบ้านเกิดไปคุมยูเวนตุส โดยที่อดีตกองกลางจอมถล่มประตูต้องพยายามคุมทีมชุดที่ไม่ได้เสริมนักเตะใหม่ทำอันดับให้ดีที่สุดให้ได้ ก็เป็น ชิรูด์ คนนี้นี่แหละ ที่ช่วยแบกทีมในช่วงโค้งสุดท้ายให้เห็น
ถึงแม้จะเป็นแค่ตัวสำรองต่อจาก แทมมี่ อับราฮัม ในช่วงแรกๆ ที่ แลมพาร์ด เพิ่งไปคุมทีม แถมยังมีช่วงพักยาว 2 เดือนเพราะมีอาการบาดเจ็บ แต่พอป๋าแลมพ์สเลือกใช้ ชิรูด์ เป็นหัวหอกตัวหลักในเกมลีก 12 นัดสุดท้าย เขาก็ตอบแทนความไว้ใจด้วยการยิงไปถึง 8 ประตู พาสิงห์บลูส์เข้าป้ายอันดับ 4 และคว้าตั๋วไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้แบบหวุดหวิด
2
ในฤดูกาล 2019-20 ชิรูด์ คือคีย์แมนช่วยเชลซีโกยแต้มในช่วงท้ายซีซั่น จนติดท็อปโฟร์
ขณะที่ความสำเร็จระดับแชมป์ยุโรปของสโมสรในฤดูกาลล่าสุด ต่อให้ ชิรูด์ จะมีสถานะไม่ต่างอะไรกับตัวประกอบ แต่ความจริงก็คือเขาเป็นนักเตะที่ยิงได้มากที่สุดของทีมแล้วในทัวร์นาเมนต์
ชิรูด์ ยิงไปถึง 6 ลูกใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่น 2020-21 ประกอบด้วยลูกโหม่งดับ แรนส์ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ, เหมาคนเดียว 4 เม็ดในเกมบุกยำใหญ่ เซบีย่า ในรอบแบ่งกลุ่ม และลูกจักรยานอากาศสุดสวยที่ช่วยให้ทีมบุกเฉือน แอตเลติโก มาดริด 1-0 ในรอบ 16 ทีมเลกแรก ซึ่งเป็นประตูสุดท้ายในเครื่องแบบสิงห์บลูส์ของเขา
เขาอาจเป็นแค่ “กองหน้าตัวโรเตชั่น” ของกุนซือสิงห์บลูส์ทั้ง 4 คนหลังสุด ไม่ว่าจะเป็น คอนเต้, ซาร์รี่, แลมพาร์ด มาจนถึง โธมัส ทูเคิ่ล แต่เราไม่เคยเห็น ชิรูด์ สร้างปัญหา งอแงขอย้ายทีม หรือออกมาโจมตีเจ้านายหรือเพื่อนร่วมสังกัดแบบเสียๆ หายๆ เลย
อย่างไรก็ตาม บนวิถีทางของมืออาชีพ เมื่อถึงเวลาที่นักเตะจำเป็นต้องอำลาทีม มันก็ต้องถึงคราวแยกย้าย...
1
ประตูสุดท้ายของ ชิรูด์ กับเชลซี คือการจักรยานอากาศสุดสวยใส่ แอตเลติโก มาดริด
ด้วยอายุอานามที่ปาเข้าไปแล้ว 34 ปี โดยสิ้นเดือนกันยายนนี้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ก็จะอายุ 35 แน่นอนว่าหัวหอกจอมเก๋าทีมชาติฝรั่งเศสคงไม่เหมาะที่จะอยู่ในแผนการทำทีมระยะยาวของ โธมัส ทูเคิ่ล สักเท่าไร
1
ภารกิจหลักของ ทูเคิ่ล ในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึง นอกจากพาทีมต่อยอดลุ้นแชมป์ให้ได้ทุกรายการแล้ว อีกโจทย์สำคัญยังคงต้องพยายามเค้นศักยภาพจาก ไค ฮาแวร์ทซ์ และ ติโม แวร์เนอร์ ออกมาให้มากที่สุดให้ได้ หลังจากสโมสรลงทุนคว้ามาด้วยราคามหาศาลเมื่อปีก่อน และยังบอกได้ไม่เต็มปากนักว่าคุ้มค่า
แล้วต้องไม่ลืมอีกว่า เชลซี ยังคงพยายามเล็งคว้ากองหน้าตัวเป้าระดับท็อปเข้ามาอีกให้ได้โดยเร็ว ชื่อของ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ กลายเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งตลอดช่วงซัมเมอร์ ถึงแม้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะตั้งราคาไว้สูงเกิน 100 ล้านปอนด์ก็ตาม
ถึงแม้ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชิรูด์จะแทบไม่มีปัญหาอะไรกับการได้ลงบ้างไม่ลงบ้าง แต่การที่ คาริม เบนเซม่า กลับมาแย่งตำแหน่งศูนย์หน้าตัวจริงของทีมชาติฝรั่งเศสในศึกยูโรที่ผ่านมา บวกกับนักเตะอย่าง คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ และ อองตวน กรีซมันน์ ก็ได้โอกาสลงสนามก่อนหน้าเขา ยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้หัวหอกรูปหล่อต้องมองหาโอกาสลงเล่นมากขึ้นในซีซั่น 2021-22
ฟุตบอลโลกที่กาตาร์ในช่วงปลายปีหน้า ยังคงเป็นเป้าหมายที่ดาวยิงวัยย่างเข้า 35 ปีตั้งใจจะติดทีมตราไก่ไปลุ้นป้องกันแชมป์โลกอีกครั้ง ซึ่งถ้าหากเขายังได้โอกาสลงสนามกับต้นสังกัดเพียงน้อยนิด เผลอๆ ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ อาจจะหมางเมินเขาไปซะก่อน
1
อีกปัจจัยที่ต้องพิจารณาก็คือ การย้ายไปเล่นที่ กัลโช่ เซเรีย อา ในช่วงบั้นปลายอาชีพถือเป็นโอกาสหาความท้าทายใหม่ในลีกใหญ่ยุโรปเป็นครั้งสุดท้ายอีกด้วย หลังจากเคยได้แชมป์ ลีก เอิง มาแล้วกับ มงต์เปลลิเย่ร์ และเล่นที่อังกฤษมานานถึง 9 ปี มันแทบไม่มีอะไรให้ต้องพิสูจน์ในลีกเดิมๆ ที่เคยเล่นมาอีกแล้ว
ชิรูด์ เดินทางถึงมิลาน เตรียมเซ็นสัญญาร่วมทีมปีศาจแดงดำ 2 ปี
จากรายงานข่าวแทบทุกสำนัก ส่วนใหญ่ระบุตรงกันว่าค่าตัวของ ชิรูด์ ที่จะย้ายซบ เอซี มิลาน อยู่ที่ 1 ล้านยูโรเท่านั้น โดยทีมปีศาจแดงดำมีออปชั่นจ่ายเพิ่มอีก 1 ล้านยูโร ถ้าหากนักเตะได้ลงสนามมากพอ และช่วยให้ทีมไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีหน้าได้สำเร็จ
1
มันอาจเป็นมูลค่าการโยกย้ายทีมที่น้อยนิด แต่นี่คือสิ่งสุดท้ายที่หัวหอกประสบการณ์โชกโชนพอจะทำให้ทีมได้ เพราะการต่อสัญญาใหม่ของเขากับเชลซีเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นั่นคือการทำเพื่อช่วยให้สโมสรได้อะไรกลับมาบ้าง ไม่ใช่ว่าย้ายไปมิลานแบบฟรีๆ ซะเลย
“ถึง เดอะ บลูส์ ทุกคน, ถึงเพื่อนร่วมทีมและโค้ชของผมทุกคน, ถึงทุกๆ คนทั้งสโมสร ขอขอบคุณอย่างมหาศาลสำหรับช่วงเวลาพิเศษเหล่านี้”
“ผมกำลังจะเริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหม่ ด้วยหัวใจที่สดใสและมีความสุข ชัยชนะของเราใน เอฟเอ คัพ, ยูโรปา ลีก และ แชมเปี้ยนส์ ลีก มันงดงามมากๆ”
“ผมรักพวกคุณ จากโอลี่ จี”
ถึงแม้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ อาจจะยังห่างไกลกับการเป็นตำนานของเชลซี แต่เชื่อได้เลยว่าช่วงเวลา 3 ปีครึ่งที่ผ่านมา มันคงมากเพียงพอที่จะทำให้สาวกสิงโตน้ำเงินครามทุกคนต้องรักเขา
และนอกจากแฟนเชลซีแล้ว เชื่อว่าแฟนบอลพรีเมียร์ลีกอีกหลายๆ คน คงจะคิดถึงเขาอยู่เรื่อยๆ แน่….
1
#เสียบสามเหลี่ยม #ชิรูด์ #โอลิวิเย่ร์ชิรูด์ #เชลซี #มิลาน #เอซีมิลาน #พรีเมียร์ลีก #เซเรียอา #แชมเปี้ยนส์ลีก #Giroud #CFC #Chelsea #ACMilan
1
โฆษณา