17 ก.ค. 2021 เวลา 06:44 • ดนตรี เพลง
Bohemian Rhapsody
Queen
บทเพลงที่ยากต่อการเข้าใจ ที่ถูกยกขึ้นหิ้ง เป็น Rock Opera Classic ของ Queen วงร็อคอังกฤษแห่งยุคเซเว่นตี้ส์ โดยมีจุดเริ่มต้นมาจาก ไบรอัน เมย์ , โรเจอร์ เทย์เลอร์ และ ทิม สตัฟเฟิล เพื่อนซี้สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ร่วมกันก่อตั้งวงดนตรีร็อค ตามสมัยนิยมของหนุ่มๆยุคนั้น ตั้งชื่อวงว่า Smile เล่นกันสนุกตามบาร์ตามผับตั้งแต่ปี 1968 ต่อมา ทิม สตัฟเฟิล แยกตัวออกไปประกอบอาชีพอื่น เฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ ( ชื่อเดิม ฟารุค เฟรดดี้ บัลซารา ) นักศึกษาวิชาศิลปะ มหาวิทยาลัยเดียวกันเข้ามาแทน และดึง จอห์น ดีคอน เข้ามาร่วมวงด้วย เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นวง Queen ตามคำแนะนำของเฟรดดี้ นับเป็นการเริ่มต้นของวงในปี 1970
อัลบั้มแรกของพวกเขาออกในปี 1973 ยังไม่รู้จักกันแพร่หลายนัก จนกระทั่งปี 1975 อัลบั้มชุดnight at the opera ก็ออกมาประกาศศักดา เพียง Bohemian Rhapsody เพลงเดียวก็ส่งให้ ควีนส์ ดังเปรี้ยงไปทั่วโลก
Bohemia ( โบฮีเมีย ) เป็นดินแดนในประวัติศาสตร์ของยุโรปตอนกลาง ตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นประเทศสาธารณรัฐเช็คในปัจจุบัน ชื่อของเพลงตามรูปศัพท์ ก็คงหมายถึง บทเพลงแปลก , ลึกลับ และเศร้าหมองของชาวโบฮีเมีย
บทเพลงนี้ถูกตีความหมายไปต่างๆนานา บ้างก็ว่าเป็นการลาตายของเฟรดดี้เมื่อรู้ว่าตัวเองติดเชื้อเอชไอวี แต่พอไล่เรียงย้อนเวลาดูแล้วไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน เพราะเฟรดดี้เขียนเพลงนี้ในปี 1975 แต่ตรวจพบว่าติดเชื้อร้ายนี้ในปี 1987
Bohemian Rhapsody เป็นการดีไซน์แบบของดนตรีที่แตกต่างซับซ้อน แต่เรียงร้อยประสานเป็นเรื่องเดียวกันได้อย่างสนิท กลายเป็นเนื้อเดียวกัน เริ่มต้นจากท่อนแรกเป็นการร้องประสานเสียงอะแคพเพล่า ( Acapella ) เป็นการร้องปากเปล่า เข้าหาท่อนที่สองที่เป็น Soft Rock ตามด้วยการร้องแบบโอเปร่า ( Opera ) ในท่อนกลาง เชื่อมต่อด้วย lead guitar ดุดันแบบ heavy metal และค่อยๆผ่อนคลายลงเป็น soft rock ในท่อนจบ
การบันทึกเสียงเพลงนี้ ใช้เวลาและค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการผสานเทคนิคต่างๆให้ลงตัว เพราะท่อนโอเปร่านั้น เป็นการอัดเสียงซ้อนกันถึง 70 ครั้ง การออกแสดงคอนเสริต์แต่ละครั้ง ต้องตัดท่อนนี้ออก หรือไม่ก็ขึ้นภาพเป็นวีดีโอบนฉากหลังและรอเข้าสวมต่อในท่อนจบ
ปี คศ.1985 มีการจัดแสดงคอนเสริต์ครั้งยิ่งใหญ่ หาทุนช่วยเหลือผู้ยากไร้ในประเทศเอธิโอเปีย เป็นการจัดพร้อมกันทั้ง2เวที ทั้งในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร คอนเสริต์มีขึ้นที่สนามกีฬาเวมบรีย์ในลอนดอนและ เจ.เอฟ.เค. สเตเดียมในฟิลาเดลเฟีย โดยศิลปินทั้ง2ฝั่งขึ้นเวทีในประเทศของตนเองพร้อมทั้งถ่ายทอดสดไปทั่วโลก การแสดงของควีนในวันนั้น ข่มรัศมีความเด่นดังของศิลปินวงอื่นๆไปเกือบหมด เฟรดดี้ในชุดขาวถือไมค์ครึ่งท่อน สะกดคนดูเจ็ดหมื่นสองพันคน เต็มความจุของสนาม พวกเขาปรบมือ ร้องตามกันอย่างกึกก้อง
ควีน ออกอัลบั้มชุดแรกในปี คศ. 1973 และออกตามมาอีกรวม 15 อัลบั้ม เฟรดดี้พบว่าติดเชื้อเอชไอวีในปี 1985 อันเนื่องมาจากการมีเพศสัมพันธ์กับชายหนุ่มมากหน้าหลายตา แต่เขาก็ปิดเป็นความลับ ไม่แพร่งพรายให้ใครรู้แม้แต่คนใกล้ชิด จนกระทั่งปี 1991 เขาได้จบชีวิตลงอย่างสงบ
จากนั้น ควีน ก็ยังคงผลิตผลงานออกมาโดยสมาชิกที่เหลือ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ผู้คนยังฝังใจอยู่กับเฟรดดี้ พอขาดเขาไปเปรียบเหมือนเรือขาดหางเสือ จอห์น ดีคอน มือเบสลาออกจากวงไปในปี คศ.1995 แต่ควีนก็ยังคงอยู่ แม้จะเหลือเพียงไบรอัน เมย์ และ โรเจอร์ เทย์เลอร์ บางครั้งก็มี พอล ร็อดเจอร์ อดีตนักร้องนำวง Bad Company มาช่วยเสริมเป็นการเฉพาะกิจ
โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือ เอช.ไอ.วี คร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย จนทุกวันนี้ก็ยังทางปราบมันไม่ได้เหมือนเชื้อตัวอื่นๆ แต่มนุษย์ก็ทำความเข้าใจกับมัน หาทางสร้างเกราะคุ้มภัยให้กับตัวเอง ทำให้การระบาดซาลง จากที่ช่วงพีคสุดๆในทศวรรษ 80-90 หากไตร่ตรองอย่างมีสติ ก็อาจเป็นไปได้ว่าธรรมชาติได้ส่งเชื้อโรคตัวร้ายแรงมาลดจำนวนพลโลกที่เพิ่มจำนวนขึ้นมากมายเกินกว่าโลกจะรับไหว หลังจากที่เชื้อโรคหลายชนิดที่ถูกมนุษย์ใช้สมองอันชาญฉลาด ค้นคิดวิธีกำจัดทำลายจนบางชนิดสูญพันธ์ไปจากโลก
Is This a real life………
Or is this just a fantasy……….
มันเป็นชีวิตจริง..........หรือนิยายแฟนตาซี..........
ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร มนุษย์ก็ต้องเผชิญกับชะตากรรมบนโลกใบนี้....อีกต่อไป.
โฆษณา