18 ก.ค. 2021 เวลา 04:11 • ประวัติศาสตร์
“พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ (Henry VIII)” กษัตริย์นักรักแห่งราชวงศ์ทิวดอร์
1
หากใครที่ได้อ่านบทความของผมเรื่อง “สงครามดอกกุหลาบ (War of the Roses)” น่าจะคุ้นพระนามของ “พระเจ้าเฮนรีที่ 7 แห่งอังกฤษ (Henry VII)” กษัตริย์พระองค์แรกแห่งราชวงศ์ทิวดอร์ และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สงครามนี้จบลง พร้อมกับการถือกำเนิดของราชวงศ์ทิวดอร์ (Tudor Dynasty)
1
แต่สำหรับบทความนี้ ผมจะเล่าเรื่องของกษัตริย์พระองค์ที่สองแห่งราชวงศ์ทิวดอร์ ซึ่งก็มีเรื่องราวที่โดดเด่น เป็นที่พูดถึงจนทุกวันนี้ นั่นคือ “พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ (Henry VIII)”
1
อันที่จริง ผมเคยเขียนเรื่องราวของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 เป็นซีรีส์ หากแต่ก็นานแล้ว และอยากสรุปเรื่องราวของพระองค์ เล่าให้จบในบทความเดียว
“พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ (Henry VIII)” เสด็จพระราชสมภพในวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ.1491 (พ.ศ.2034) โดยพระองค์เป็นพระราชโอรสองค์รองใน “พระเจ้าเฮนรีที่ 7 แห่งอังกฤษ (Henry VII)” กษัตริย์พระองค์แรกแห่งราชวงศ์ทิวดอร์
2
พระเจ้าเฮนรีที่ 7 แห่งอังกฤษ (Henry VII)
ในฐานะพระราชโอรสองค์รอง ตำแหน่งองค์รัชทายาทไม่ใช่ของพระองค์ในทีแรก หากแต่เป็นของพระเชษฐา นั่นคือ “เจ้าชายอาเธอร์ เจ้าชายแห่งเวลส์ (Arthur, Prince of Wales)”
1
ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ทรงได้รับการสอนในศาสตร์หลายแขนง ทั้ง ศาสนศาสตร์ ดนตรี ภาษาศาสตร์ กวี และกีฬาต่างๆ
เจ้าชายอาเธอร์ เจ้าชายแห่งเวลส์ (Arthur, Prince of Wales)
เจ้าชายอาร์เธอร์ได้ทรงหมั้นหมายกับ “แคทเทอรีนแห่งอารากอน (Catherine of Aragon)” ตั้งแต่พระชนม์เพียงสองพรรษา
เจ้าหญิงแคทเทอรีน เป็นพระราชธิดาในกษัตริย์และราชินีแห่งสเปน และในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1501 (พ.ศ.2044) เจ้าชายอาร์เธอร์ก็ได้เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงแคทเทอรีน
1
หากแต่ไม่กี่เดือนต่อมา เจ้าชายอาร์เธอร์ก็ทรงพระประชวรและสิ้นพระชนม์ ทำให้ตำแหน่งองค์รัชทายาทตกเป็นของเจ้าชายเฮนรี พระอนุชาของเจ้าชายอาร์เธอร์ และเจ้าชายเฮนรี ก็ได้ทรงหมั้นหมายกับเจ้าหญิงแคทเทอรีน อดีตพระมเหสีของพระเชษฐา
เจ้าชายอาร์เธอร์ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงแคทเทอรีน (ภาพจากภาพยนตร์)
เจ้าชายเฮนรีทรงขึ้นครองราชสมบัติขณะมีพระชนมายุ 17 พรรษา มีพระนามว่า “พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ (Henry VIII)” และได้อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงแคทเทอรีนในอีกหกสัปดาห์ต่อมา
2
ตลอดเวลาจากนั้นอีก 15 ปี พระนางแคทเทอรีนได้มีพระราชโอรสให้พระเจ้าเฮนรีที่ 8 สามพระองค์ พระราชธิดาอีกสามพระองค์ หากแต่ทุกพระองค์ต่างสิ้นพระชนม์ขณะยังเป็นทารก เหลือเพียงพระราชธิดาองค์เดียว นั่นคือ “เจ้าหญิงแมรี (Princess Mary)” หรือภายหลังคือ “สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งอังกฤษ (Mary I of England)”
1
สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งอังกฤษ (Mary I of England)
ในช่วงแรก พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ทรงเป็นกษัตริย์ที่มีความกระตือรือร้น พระองค์มักจะจัดงานรื่นเริง เสด็จออกล่าสัตว์ และโปรดการดนตรี
นอกจากนั้น พระองค์ยังทรงพระราชนิพนธ์หนังสือ โจมตีการปฏิรูปคริสตจักรของ “มาร์ติน ลูเทอร์ (Martin Luther)” ทำให้พระสันตะปาปาทรงชื่นชมพระองค์
2
หากแต่การที่ยังปราศจากพระราชโอรส ทำให้พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ทรงกังวล
ในช่วงค.ศ.1520 (พ.ศ.2063) พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ทรงหลงไหลในหญิงที่ชื่อ “แอนน์ โบลีน (Anne Boleyn)”
1
โบลีนเป็นหนึ่งในข้าราชบริพารของพระนางแคทเทอรีน และพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ก็ทรงโปรดโบลีน
พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ยังทรงกังวลว่าการที่พระองค์ทรงอภิเษกสมรสกับอดีตพระมเหสีของพระเชษฐาอย่างพระนางแคทเทอรีนนั้น เป็นสิ่งที่ผิด เนื่องจากในพันธสัญญาเดิม ซึ่งอยู่ในพระคัมภีร์ ก็ได้ห้ามการแต่งงานกับภรรยาม่ายของพี่ชาย การอภิเษกสมรสของพระองค์กับพระนางแคทเทอรีน อาจจะขัดต่อพระเจ้า
พระเจ้าเฮนรีที่ 8 จึงทรงรับสั่งขอให้พระสันตะปาปา อนุญาตให้พระองค์ทรงหย่าจากพระนางแคทเทอรีน และอภิเษกสมรสใหม่
2
แอนน์ โบลีน (Anne Boleyn)
ด้วยความช่วยเหลือจาก “โทมัส โวลซีย์ (Thomas Wolsey)” นักบวชผู้ทรงอำนาจและที่ปรึกษาของพระองค์ ทำให้พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ทรงขอให้พระสันตะปาปาอนุญาตให้พระองค์ทรงหย่าได้
1
หากแต่ “จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Charles V, Holy Roman Emperor)” พระราชนัดดาในพระนางแคทเทอรีน ทรงกดดันไม่ให้มีการอนุญาตให้หย่า ทำให้แผนการหย่าของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ไม่สำเร็จ
1
เมื่อแผนการไม่สำเร็จ พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ซึ่งทรงกริ้วมาก ก็ทรงปลดโวลซีย์ออกจากอำนาจ และโวลซีย์ก็ได้เสียชีวิตในปีค.ศ.1530 (พ.ศ.2073) ขณะรอการพิจารณาโทษ
3
โทมัส โวลซีย์ (Thomas Wolsey)
พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ทรงได้รับการหนุนหลังจากสภาอังกฤษและเหล่านักบวช ทำให้พระองค์ไม่จำเป็นต้องได้รับการอนุญาตจากพระสันตะปาปา และทรงให้คริสตจักรแห่งอังกฤษ (Church of England) แยกตัวออกจากคริสตจักรโรมันคาทอลิก
ในปีค.ศ.1533 (พ.ศ.2076) พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ทรงอภิเษกสมรสกับโบลีน และได้ให้พระประสูติกาลพระราชธิดา นั่นคือ “เจ้าหญิงเอลิซาเบธ (Princess Elizabeth)” หรือภายหลังคือ “สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ (Elizabeth I)”
2
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ (Elizabeth I)
จากนั้น อารามและวิหารต่างๆ ทั่วอังกฤษก็ถูกสั่งปิด และนำออกขาย เงินที่ได้จากการขายก็ตกเป็นของพระเจ้าเฮนรีที่ 8
2
เดือนมกราคม ค.ศ.1536 (พ.ศ.2079) พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ทรงตกจากหลังม้าขณะทรงเข้าแข่งขันการประลองบนหลังม้า และเมื่อข่าวการบาดเจ็บของพระองค์ไปถึงพระกรรณของพระนางแอนน์ โบลีน ซึ่งขณะนั้นกำลังทรงครรภ์พระราชโอรส พระนางแอนน์ โบลีนก็ทรงแท้งพระราชโอรส
3
เมื่อเป็นอย่างนี้ พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ก็ทรงหันเหความสนพระทัยไปยังผู้หญิงคนใหม่ ซึ่งก็เป็นหนึ่งในข้าราชบริพารของพระองค์ นั่นคือ “เจน ซีมัวร์ (Jane Seymour)”
1
ภายหลังจากเจอผู้หญิงที่ทรงสนพระทัยแล้ว พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ก็ทรงยัดข้อหาให้พระนางแอนน์ โบลีน ทำให้พระนางแอนน์ โบลีนถูกตัดสินให้ประหาร จากนั้น พระองค์ก็ทรงเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับเจน ซีมัวร์
1
ภายหลัง พระนางเจน ซีมัวร์ทรงให้พระประสูติกาล “เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด (Prince Edward)” หรือภายหลังคือ “พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 6 แห่งอังกฤษ (Edward VI of England)” หากแต่หลังจากนั้นอีกเพียงสองสัปดาห์ พระนางเจน ซีมัวร์ก็สวรรคต
1
เจน ซีมัวร์ (Jane Seymour)
พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 6 แห่งอังกฤษ (Edward VI of England)
จากนั้น พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ก็ทรงอภิเษกสมรสกับ “แอนน์แห่งคลีฟส์ (Anne of Cleves)” พระธิดาในชนชั้นปกครองในดินแดนเยอรมนี ซึ่งการอภิเษกสมรสนี้ เป็นไปเพื่อการเชื่อมสัมพันธ์ทางการเมือง
แอนน์แห่งคลีฟส์ (Anne of Cleves)
การอภิเษกสมรสนี้เป็นไปเพียงไม่กี่วัน พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ก็ทรงหย่า
1
จากนั้นพระองค์ก็อภิเษกสมรสกับ “แคทเทอรีน โฮวาร์ด (Catherine Howard)” ก่อนที่อีกสองปีต่อมา โฮวาร์ดจะถูกประหารด้วยข้อหากบฎและคบชู้
2
แคทเทอรีน โฮวาร์ด (Catherine Howard)
ในช่วงปีสุดท้ายของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 พระองค์ทรงมีพระอารมณ์ฉุนเฉียวง่าย พระวรกายอ้วนพี พระโรคต่างๆ รุม
พระองค์ทรงอภิเษกสมรสครั้งสุดท้ายกับ “แคทเทอรีน พาร์ (Catherine Parr)” ในปีค.ศ.1543 (พ.ศ.2086)
1
แคทเทอรีน พาร์ (Catherine Parr
พระเจ้าเฮนรีที่ 8 สวรรคตในวันที่ 28 มกราคม ค.ศ.1547 (พ.ศ.2090) ด้วยพระชนมายุ 55 พรรษา โดยพระองค์นั้น ในสายตาของสาธารณะ เป็นกษัตริย์นักรักและทรงโหดเหี้ยมพระองค์หนึ่ง จากการที่ทรงมีรับสั่งให้ประหารบุคคลจำนวนมากในรัชสมัยของพระองค์
2
โฆษณา