18 ก.ค. 2021 เวลา 14:12 • ท่องเที่ยว
เยือน ‘วัดพิชัยสงคราม’
จุดเริ่มต้นกองกำลังกู้อิสรภาพ
‘สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี’
ในสงครามคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ในปี2310 ย้อนกลับไปร่วมปี ฝ่ายตั้งรับในพระนคร ได้ใช้ยุทธวิธี ไม่ให้ข้าศึกจากกรุงอังวะเข้าประชิดคูพระนคร ด้วยการตั้งค่ายรอบนอกคู ตลอดริมน้ำ โดยหนึ่งในแม่ทัพที่บัญชาการการป้องกัน คือ พระยาวชิรปราการ ว่าที่เจ้าเมืองกำแพงเพชร ตั้งค่ายที่วัดพิชัย และแผนการนี้ถือว่าได้ผลในระดับดีทีเดียว หากไม่ใช่การเปลี่ยนแผนยุทธศาสตร์น้ำหลากไม่ถอยของฝ่ายโจมตี คงไม่มีการตีฝ่าเพื่อเริ่มต้นก้าวต่อไปบนหน้าประวัติศาสตร์
ในปัจจุบัน ต่อหน้าผมนี้ วัดพิชัย ซึ่งในปัจจุบันมีชื่อว่า วัดพิชัยสงคราม สงบ สะอาด และสวยงาม มีพระครูวิชัยกิจจารักษ์ หรือ หลวงพ่ออุดม เป็นพระเกจิมีชื่อ ที่ผู้ที่สนใจวัตถุมงคลหรือวิชาอาคม ต่างต้องเคยมากราบนมัสการ
เมื่อเข้าไปในอุโบสถ ที่ได้รับการบูรณะแล้ว ก็ทำการกราบบูชาพระ และมีป้ายเขียนว่า เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ และสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีก่อนจะออกจากค่ายวัดพิชัยนั้น ได้ทำการสักการบูชา ในบริเวณวัดนั้น ได้มีป้ายประวัติเกี่ยวกับการตั้งค่ายพอสังเขปติดตั้งไว้
ถือว่า เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ ตามรอยบาทพระเจ้ากรุงธนบุรี ที่น่าสนใจไม่น้อย หากใครที่ติดตามหรือชอบเที่ยวตามรอย
นอกจากนี้ เคยมีการถกเถียงกันว่า การที่สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีนั้น ได้นำกำลังออกจากกรุงศรีอยุธยา เป็นไปตามรับสั่งของสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ หรือ เป็นการมองสถานการณ์ของพระองค์เอง
อาจารย์สุเนตร ชุตินทรานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ไทย-พม่า ได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า ในศึกคราวเสียกรุงครั้งที่ 2 นั้น การตั้งค่ายป้องกันรอบพระนคร จุดที่ถือว่าเป็นจุดอ่อนและการป้องกันต้องเข้มแข็งที่สุดของอยุธยา อยู่ที่คลองคูขื่อหน้า ตั้งแต่หัวรอ ยาวตลอดแนวลงมาจนถึงบริเวณวัดพิชัย หรือ วัดพิไชย
แม่ทัพนายกองที่จะมาป้องกันนั้น ต้องเป็นผู้ที่มีฝีมือและเชี่ยวชาญการศึกอย่างมาก ซึ่งอ.สุเนตร มองว่า กองกำลังของพระยาวชิรปราการนั้น เป็นกองกำลังที่เก่งมาก ส่วนตัวผมก็มองไปในทิศทางที่ว่า อาจจะคล้ายๆเป็นหน่วยรบพิเศษ มีกำลังรักษาค่ายของตัวเอง
และการที่ทิ้งค่าย มุ่งหัวเมืองตะวันออก อ.สุเนตร วิเคราะห์ว่า น่าจะเป็นการมองขาดตามสายตาของนักการทหาร มากกว่าการไปตามรับสั่งของพระเจ้าเอกทัศน์ เพราะคงเป็นไปไม่ได้ที่จะส่งกองกำลังที่มีความสำคัญออกไปจากพระนครในยามหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนั้น.
โฆษณา